ไม่อยากให้แสงแดดเผาผิวของเรา ต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับผิว

                 ไม่ว่าจะฤดูไหนๆการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก.....ยิ่งในเมืองไทยเรานั้นพลาดไม่ได้เลย!! เพราะใครๆก็รู้ว่าเมืองไทยนั้นแดดแรงและอากาศร้อนมากกกก ถ้าเปรียบเราเป็นไอศครีม ป่านี้เราคงละลายไปกับพื้นถนนเรียบร้อยแล้ว แต่...เดี๋ยวนี้ในท้องตลาดมีครีมกันแดดผลิตออกมามากมายหลายยี่ห้อและมีการรีวิวครีมกันแดดของบล็อคเกอร์ต่างๆมากมาย ซึ่งบางทีเราต้องคำนึงว่าผิวของเรากับคนที่มารีวิวนั้นอาจจะไม่เหมือนกันสมอไปบางทีเขาใช้แล้วอาจจะไม่แพ้แต่ถ้าเราใช้ เราอาจจะแพ้ก็เป็นไปได้ ดังนั้นก่อนซื้อครีมกันแดดเราควรที่จะศึกษาให้ดีก่อนที่ซื้อครีมกันแดดสักหนึ่งตัวมาใช้เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาด ซึ่งครีมกันแดดได้ 2 ประเภท คือ ครีมกันแดด แบบ Physical Sunscreen และ Chemical Sunscreen

          หลักการของ Physical Sunscreen คือ สะท้อนแสงแดด และรังสียูวีที่ตกมากระทบผิวหน้า และมีคุณสมบัติเคลือบผิว ครีมกันแดดประเภทนี้จะมี สวนผสมของสารเคมีน้อยกว่า Chemical Sunscreen ทำให้ปลอดภัยในการใช้มากกว่า

             ส่วนครีมกันแดด แบบ Chemical Sunscreen จะดูดซับรังสีเอาไว้ เพื่อไม่ให้กระทบกับผิวหน้า ซึ่งกลไกการดูดซับรังสีทำให้สารเคมีเปลี่ยนแปลง กลายเป็นสารเคมีตัวอื่น คนไข้จึงเกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะครีมกันแดดประเภท Chemical Sunscreen ที่มีค่าเอสพีเอฟสูง ก็จะผสมสารเคมีมาก เพราะหวังผลในการป้องกันแสงแดด

เลือกครีมกันแดดอย่างไรให้ถูกกับผิว

1.พยายามเรียนรู้ข้อมูลบนฉลากว่าบอกอะไร รู้จักที่จะตั้งข้อสงสัยและหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสารบางชนิดที่ไม่คุ้นตา

2.อย่าไว้ใจคำว่า “Natural” หรือ “Hypoallergenic” มากเกินไป เพราะไม่ได้การันตีถึงความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงควรลองผลิตภัณฑ์ทุกครั้งเพื่อทดสอบอาการแพ้

3.หากมีอาการแพ้ง่าย แนะนำให้ซื้อเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่นๆแบบออร์แกนิกที่ได้รับการขึ้นทะเบียน

4.สร้างกลุ่มเพื่อนหรือคนในครอบครัว ให้หันมาสนใจเรื่องผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

5.ทำผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ทำได้ง่ายๆ ไว้ใช้เอง และแบ่งปันให้เพื่อนๆ ด้วย

เทคนิคดีๆในการทาครีมกันแดด

1.ถ้าหากใช้ครีมกันแดดในกลุ่ม Chemical Sunscreen ควรทาก่อนออกบ้านอย่างน้อย 15 นาที

2.ควรทากันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

3.หากเล่นกีฬาที่เหงื่ออกมาก หรือ กิจกรรมทางน้ำ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ เช่น Water Resistance, Very Water Resistance และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง

4.หากต้องออกแดดจัดๆ นานๆ ครีมกันแดดอย่างเดียวอาจจะไม่พอ การใช้หมวกปีกกว้าง ร่ม เสื้อแขนยาว ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดี