3,654 Views
Favorite
คุณเป็นคนหนึ่งที่อยากออกกำลังกายแต่ไม่ชอบวิ่ง ไม่อยากยกเวท ไม่ชอบเต้น หรืออยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย หรือมองหาการออกกำลังกายที่ไม่มีการกระแทกมาก ๆ รึเปล่า ถ้าใช่ การออกกำลังกายด้วยโยคะคือคำตอบค่ะ เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมาแล้ว ยังมีประโยชน์ในการฟื้นฟูทั้งร่างกายและสภาพจิตใจแบบที่คุณอาจคาดไม่ถึง !
การออกกำลังกายทุกประเภทพิสูจน์แล้วว่าช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ ไม่เว้นแม้แต่โยคะ มีคำแนะนำจาก Duke University Medical Center ว่าโยคะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า ผู้ป่วยจิตเวช ผู้มีอาการจิตเภท และมีปัญหานอนไม่หลับได้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเข้าคลาสออกกำกายแบบเป็นกลุ่ม เช่น โยคะ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารออกซิโตซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรักและความรู้สึกผูกพันมากขึ้น นอกจากนี้ การเล่นโยคะและการฝึกสมาธิยังส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุขในร่างกายเพิ่มขึ้น และผู้ที่ออกกำลังกายด้วยโยคะอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ยังพบว่าสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพึงพอใจมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย
มีการผลการศึกษามากมายยืนยันแล้วว่า การออกกำลังกายด้วยโยคะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้มากกว่าการรักษาแบบปรกติ ผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์วารสารการแพทย์ The Annals of Internal Medicine ให้ข้อมูลว่า หลังการออกกำลังกายด้วยโยคะ 2-3 เดือน ผู้ที่มีปัญหาปวดหลังส่วนล่าง และผู้ที่มีอาการคล้ายกันรู้สึกปวดหลังน้อยลง
ยังพบข้อมูลจากงานวิจัยอื่นว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง 80 คน หลังจากการฝึกโยคะเพียง 1 สัปดาห์พบว่ากล้ามเนื้อหลังเคลื่อนไหวและยืดหยุ่นได้ดีขึ้นกว่าการออกกำลังแบบอื่น แม้แต่ผู้ที่ไม่มีปัญหาปวดหลัง การออกกำลังกายด้วยโยคะก็สามารถเพื่อความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลังได้มากขึ้นด้วย
ในปัจจุบันมีคู่แต่งงานหลายคู่ที่หันมาพึ่งการออกกำลังกายด้วยโยคะเพื่อลดความตึงเครียดและเพิ่มโอกาสในการมีบุตร ผลการวิจัยบางชิ้นยืนยันว่า โยคะช่วยเพิ่มความสามารถในการมีบุตรได้ เพราะช่วยลดความตึงเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีพลังบวกในเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น และยังเป็นไปได้อีกว่าเพราะโยคะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดตรงเข้าไปหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญภายในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น และกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนให้สมบูรณ์ขึ้นตามไปด้วย
เพราะโยคะเป็นอีกวิธีที่ช่วยดีท็อกซ์ให้ร่างกายกระตุ้นการเผาผลาญ โดยเฉพาะท่ายืนบนไหล่ ท่าคันไถ และท่าปลา ที่นอกจากช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไธรอยด์แล้ว ยังกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยกำจัดแอลกอฮอล์ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น คืนความสมดุลให้ร่างกาย
ประโยนช์อีกอย่างของการมีระบบเผาผลาญที่ดีคือ ทำให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินได้มากขึ้น และเมื่อระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้นจากการเล่นโยคะก็ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ได้
จากการศึกษกลุ่มตัวอย่างที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว 19 คน หลังเพิ่มการเล่นโยคะลงในขั้นตอนการรักษาในระยะเวลา 8 สัปดาห์พบว่า มีผู้ป่วย 9 คนสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น และมีแนวโน้มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การออกกำลังกายด้วยโยคะจึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ และช่วยลดคราบพลักซ์ในหลอดเลือดแดงได้ด้วย
การฝึกหายใจแบบโยคะ หรือปราณยามะสามารถบรรเทาอาการหอบหืดได้ ยืนยันด้วยการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้มีอาการหอบหืด 57 คน หลังออกกำลังกายด้วยโยคะ 8 สัปดาห์พบว่าอาการหอบหืดลดลง
การวิจัยพบว่า โยคะแบบไอเยนคาร์หรือการออกกำลังกายด้วยโยคะแบบใช้อุกรณ์อย่างเข็มขัด ผนังห้อง ช่วยในการฝึกโยคะ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกเล่นโยคะ อาจช่วยบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยด้วยโรคไขข้อรูมาตอย ช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ ยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความเจ็บปวด สุขภาพจิตดีขึ้น ลดความรู้สึกหดหู่ เพิ่มขีดความสามารถทางร่างกายหลังออกกำลังกายด้วยโยคะเพียง 6 สัปดาห์
นอกเหนือไปจากการรักษาด้วยยาแล้ว การออกกำลังกายด้วยโยคะก็ยังช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับอย่างได้ผล ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะกล่าวว่า เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกว่าหลับยากแนะให้ฝึกโยคะอาสนะที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเช่น ท่ายืนก้มหัว หรือนอนราบ แล้วใช้ท่ายันกำแพง ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น ทำให้ร่างกายและจิตรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย นอนหลับสบายขึ้น
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งทำให้เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวทำงานได้ไม่ดี และความเจ็บปวดอื่น ๆ อีกมากมายอาจทำให้รู้สึกทุกข์ทรมาน จากการศึกษาพบว่า การออกำลังกายด้วยโยคะ 6 สัปดาห์ช่วยให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อม แข็ง เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น เทียบเท่าผู้ป่วยที่ออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นนาน 6 เดือน
โยคะช่วยเพิ่มรอยหยักให้สมอง ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะเปรียบเทียบว่าโยคะคือการกำจัดของเสียออกจากร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน ด้วยการช่วยให้คลายความตึงเครียดและทำให้ร่างกายยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อร่างกายยืดหยุ่นดีขึ้น การเคลื่อนไหวก็ทำได้ดีขึ้น เมื่อจิตสงบก็จะเกิดปัญญา สมองปลอดโปร่ง ความจำก็จะกลับมาดี ความคิดฉับไว
ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Traumatic Stress พบว่า การออกกำลังกายด้วยโยคะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ผู้ป่วย PTSD หรือผู้ป่วยที่มีอาการเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจได้ดีกว่า สำหรับผู้ที่มีีอาการ PTSD ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป การออกกำลังกายด้วยโยคะอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้
