Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เทคนิคคิดเลขเร็ว

Posted By sanomaru | 12 มี.ค. 61
56,823 Views

  Favorite

แม้ว่าปัจจุบันจะมีอุปกรณ์มากมายที่เป็นตัวช่วยของมนุษย์ในการคำนวณตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลข โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่การใส่โจทย์ที่มีตัวเลขและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ลงไปในช่องค้นหาของ www.google.com แต่บางครั้งเราก็ต้องพึ่งพาตนเอง ในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ในมือ หรือไม่สะดวกที่จะหยิบขึ้นมาใช้ และการรู้เทคนิคคิดเลขเร็วหรือการคิดเลขในใจก็เป็นตัวช่วยที่ดี

 

1. บวกและลบเลขจากซ้ายไปขวา

โดยทั่วไป เราถูกสอนให้บวกและลบเลขจากหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพันไปเรื่อย ๆ กล่าวคือ จากหลักเล็ก ๆ ไปหลักใหญ่หรือจากขวาไปซ้าย แต่สำหรับการคิดเลขในใจแล้ว การคำนวณจากซ้ายไปขวาหรือเริ่มจากเลขที่มีค่ามากที่สุดนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่า เช่น 39+54 สามารถคำนวณในใจได้โดยการบวกตัวเลขในหลักสิบก่อน คือ 30+50 = 80 จากนั้นจึงบวกตัวเลขในหลักหน่วย คือ 9+4 = 13 และนำผลลัพธ์ที่ได้ทั้งหมดมารวมกันอีกที คือ 80+13 = 93

 

2. ปรับตัวเลขให้เป็นเลขจำนวนเต็มของหลักเพื่อการคำนวณที่ง่ายขึ้น

เมื่อต้องคำนวณตัวเลขจำนวนมาก ๆ ในใจ  วิธีที่ทำให้มันง่ายขึ้นก็คือ การปรับค่าตัวเลขให้เป็นเลขจำนวนเต็มของหลักใดหลักหนึ่ง เช่น 794+230 ให้นำ 794 บวกด้วย 6 ก่อน จะได้ 800 จากนั้นจึงนำไปบวกกับ 230 ซึ่งเขียนได้เป็น 800+230 = 1,030 จากนั้นจึงค่อยนำ 6 มาลบออกไป จะได้คำตอบที่ถูกต้องคือ 1,024

 

3. จดจำตารางสำเร็จรูปให้ได้เพื่อการคำนวณที่รวดเร็วขึ้น

ค่าการหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการคิดเลขในใจ เพราะบางครั้งการหารก็ไม่ลงตัวและทำให้เหลือเป็นเลขเศษส่วนหรือทศนิยม ซึ่งหากเราจดจำตารางค่าการหารที่ใช้บ่อยได้ เราก็จะสามารถตอบโจทย์ง่าย ๆ ที่อาจจะซ่อนอยู่ในโจทย์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งช่วยให้การทำโจทย์ข้อนั้น ๆ เร็วขึ้นได้ โดยค่าการหารที่ใช้บ่อยและควรจดจำมีดังนี้

เลขเศษส่วน เลขทศนิยม เปอร์เซ็นต์
1/2 0.5 50%
1/3 0.333... 33.333%
2/3 0.666... 66.666%
1/4 0.25 25%
3/4 0.75 75%
1/5  0.2 20%
2/5 0.4 40%
3/5 0.6 60%
4/5 0.8 80%
1/6 0.1666... 16.666...%
5/6 0.8333... 83.333...%

 
4. เรียนรู้เคล็ดลับการคูณ

- เคล็ดลับที่ง่ายและชัดเจนที่สุดสำหรับการคูณก็คือ จำนวนใด ๆ ที่คูณด้วย 10 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับจำนวนนั้น ๆ เติมศูนย์ที่ท้ายจำนวน เช่น 78x10 = 780 หรือ 32x10 = 320
- จำนวนใด ๆ ที่คูณด้วย 5 จะได้คำตอบเป็นจำนวนที่ลงท้ายด้วยเลข 0 หรือ 5 เสมอ
- การคูณจำนวนใด ๆ ด้วย 5 เราสามารถหาคำตอบอย่างง่ายได้โดยคูณจำนวนนั้นด้วย 10 ก่อน แล้วจึงนำมาหาร 2 เช่น 5x612 = 6120/2 = 3060

 

5. จดจำตัวเลขยกกำลัง

ในการคำนวณโจทย์คณิตศาสตร์หลาย ๆ ข้อ มักมีเลขยกกำลังเข้ามาเกี่ยวข้อง และมันเป็นความคิดที่ดีที่คุณจะจดจำตัวเลขยกกำลังในแบบสำเร็จรูปเพื่อการคำนวณที่รวดเร็วขึ้น เช่น 23x22 หากเราจำได้ว่าเลขยกกำลังสองของ 23 เท่ากับ 529 เราก็สามารถนำ 529 - 23 ได้เลย ซึ่งคำตอบจะได้เป็น 506

จำนวน เลขยกกำลังสอง
1 1
2 4
3 9
4 16
5 25
6 36
7 49
8 64
9 81
10 100
11 121
12 144
13 169
14 196
15 225
16 256
17 289
18 324
19 361
20 400
21 441
22 484
23 529
24 576
25 625

 

6. ทำให้ปัญหาใหญ่แตกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ

ในโจทย์ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยตัวเลขมากกว่า 1 จำนวน เราสามารถแยกตัวเลขเหล่านั้นออกมาเป็นหลายจำนวนได้โดยให้อยู่ในรูปที่คำนวณง่ายขึ้น เช่น จำนวนใด ๆ คูณด้วย 12 จะเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนนั้น 10 เท่าบวกกับจำนวนนั้นคูณด้วย 2 เช่น 6x12 สามารถแยกได้เป็น (6x10)+(6x2)= 60+12 = 72 หรือ 6x(12+23) สามารถแยกได้เป็น (6x12)+(6x20)+(6x3) = 72+120+18 = 210 จะสังเกตได้ว่าเราสามารถนำกฎการบวก การลบ การคูณ และการหาร มาใช้เพื่อให้สามารถคำนวณตัวเลขรวดเร็วขึ้นได้

 

7. ใช้สัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในกรณีที่มีตัวเลขจำนวนสูง ๆ

เมื่อคำนวณตัวเลขที่มีจำนวนสูง ๆ ในใจ เราสามารถเปลี่ยนพวกมันให้อยู่ในรูปสัญลักษณ์ได้ ตัวอย่างเช่น 44,000,000,000/400,000 เราสามารถเปลี่ยนตัวเลข 44,000,000,000 ให้เป็น 44x109 ส่วนตัวเลข 400,000 สามารถเปลี่ยนให้อยู่ในรูป 4x105 ซึ่งแยกได้เป็น 44/4 และ 109/105 จะได้ 11x104 หรือ 110,000 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กฎการหารเลขยกกำลังทำให้เราคำนวณตัวเลขจำนวนสูง ๆ ได้ง่ายขึ้น

 

8. การตัดเลข 0 ออกก่อนคำนวณ

เมื่อมีการบวกและลบโดยท้ายจำนวนเป็นเลข  0 ทั้งสองจำนวนในโจทย์ เราสามารถตัดเลข 0 ออกไปก่อนสำหรับการคำนวณตัวเลขในใจได้ แล้วค่อยนำกลับมาเติมในภายหลัง เช่น 350-40 เมื่อตัดเลข 0 ที่ท้ายจำนวนในโจทย์ออกไปก่อนการคำนวณ จะได้เป็น 35-4 =31 จากนั้นจึงนำเลข 0 ใส่กลับเข้าไป จะได้คำตอบเป็น 310 หรือ 800+300 เมื่อตัดเลข 0 ที่ท้ายจำนวนในโจทย์ออกไปก่อนการคำนวณ  จะได้เป็น 8+3 = 11 จากนั้นจึงนำเลข 0 ใส่กลับเข้าไป จะได้คำตอบเป็น 1,100

 

9. คำนวณตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์

ในกรณีที่ต้องการคำนวณเปอร์เซ็นต์ หากเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 จะสามารถใช้วิธีเลื่อนจุดทศนิยมได้ เช่น เมื่อคำนวณค่าทิป 10% ของราคาอาหาร 1,387.25 บาท ให้ย้ายจุดทศนิยมไปทางซ้าย 1 จุด ก็จะได้ 138.725 บาท หรือถ้าต้องการคำนวณ 15% ของ 40 ก็สามารถแยกคำนวณ 10% ของ 40 ก่อน ซึ่งจะได้ 4 จากนั้นจึงคำนวณอีก 5 % ที่เหลือ แต่ 5% เป็นครึ่งหนึ่งของ 10% จึงกล่าวได้ว่า 5% ของ 40 จะเท่ากับ 2 เมื่อนำ 4+2 ก็จะได้คำตอบเป็น 6 ซึ่งก็คือ 15% ของ 40 นั่นเอง

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • sanomaru
  • 17 Followers
  • Follow