เริ่มต้นปีใหม่ทีไร หลายคนก็จะนั่งนิ่ง ๆ ทบทวนตัวเองว่าในปีที่ผ่านมาชีวิตเป็นอย่างไรบ้างเพื่อจะได้ตั้งเป้าหมายที่อยากจะทำให้สำเร็จในปีนี้ แต่เคยสังเกตไหมว่า จะมีสักกี่คนที่จะทำเป้าหมายปีใหม่ได้สำเร็จ เพราะขนาดผลสำรวจยังบอกเลยว่ามีแค่ 1 ใน 5 คนเท่านั้นที่จะบรรลุเป้าหมาย

ด้วยเหตุนี้ Plook ฉบับสวัสดีปีใหม่จึงได้รวบรวมเคล็ดลับการตั้งเป้าหมายปีใหม่อย่างไรให้สำเร็จกับ 7 เป้าหมายยอดฮิต พร้อมคำแนะนำพิเศษเพื่อไกด์ให้ไม่พลาดแบบปีที่เเล้ว ๆ มา เพื่อให้ปีนี้เป็นปีคุณภาพที่เราจะได้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น 

หาคณะที่ใช่ให้เจอ

มีคนกล่าวไว้ว่า การสอบเข้ามหาวิทยาลัย บางทีอาจจะง่ายกว่าการหาให้เจอว่าตัวเองอยากเรียนอะไรเสียอีก เพราะการหาว่าตัวเองอยากเรียนคณะไหนเป็นเป้าหมายที่หลายคนได้ยินแล้วก็ท้อ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป จำไว้ว่าไม่มีใครที่จะเข้าใจตัวเองได้ทะลุปรุโปร่งในคืนเดียว แล้วเราจะรู้จักตัวเองมากขึ้นในปีนี้ได้อย่างไรนะ  

ทำอย่างไร 

- เรียนสายไหนมา เพราะคนที่เรียนสายวิทย์-คณิต สายศิลป์-ภาษา สายศิลป์-คำนวณ ก็จะมีคณะที่มีสิทธิ์สมัครสอบเข้าได้แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคณะไหนที่เลือกไม่ได้ก็ขีดทิ้งไปจากตัวเลือกได้เลย 

- อยากทำงานอะไร เขียนออกมาโดยไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นไปไม่ได้ เพราะการที่บอกได้ว่าอยากจะเป็น อยากจะทำอาชีพอะไรในอนาคต ก็จะช่วยในการเลือกคณะได้โดยปริยาย

- ชอบหรือถนัดวิชาอะไร เก่งไม่เก่งไม่ต้องสนใจ ขอแค่ชอบเรียนก็พอแล้ว เพราะมันจะช่วยบอกคณะที่ควรเลือก หรือไม่ควรเลือกได้ เช่น ถ้าไม่ชอบวิชาคำนวณ การเรียนวิศวะก็น่าจะสร้างความลำบากให้กับเราแน่นอน 

เก็บเงินเก็บทอง 

‘ปีหน้าจะเริ่มเก็บเงิน’ เป็นเป้าหมายปีใหม่ของใครหลายคน ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายที่หลายคนทำไม่สำเร็จทุกปีเช่นกัน สาเหตุหลัก ๆ ที่ล้มเหลวมาจากการตั้งเป้าหมายกว้างเกินไป เช่น เรามักจะบอกตัวเองว่าปีนี้จะเริ่มเก็บเงิน แต่ไม่มีแผนอะไรเลยจนเป้าหมายลอยคว้างไปในอากาศ มาดูกันว่าเราจะเก็บเงินอย่างไรไม่ให้ล้มเหลวเหมือนปีที่แล้วมา

ทำอย่างไร 

- แพลนค่าใช้จ่ายล่วงหน้า กำหนดไว้เลยว่าในแต่ละวันจะใช้เงินเท่าไหร่ เช่น ค่าอาหารวันละ 100 บาท ถ้าใช้เกินงบที่ตั้งไว้ก็ต้องหยอดส่วนที่ใช้เกินลงในกระปุก 

- เก็บเงินโดยกวาดแบงค์ 20 ที่เหลือในแต่ละวันลงกระปุกให้หมด วิธีนี้จะทำให้เก็บเงินได้ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อเดือน

- ออมก่อนใช้เงิน หักเงินที่ได้มาทุกต้นเดือนประมาณ 10-20% โอนเข้าบัญชีฝากประจำไปเลย และห้ามแอบไปเผลอถอนออกมาใช้ตอนสิ้นเดือนนะ 

- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในแต่ละวัน เช่น ค่าปากกาไฮไลต์ ค่าเสื้อผ้า น้ำหวาน ฯลฯ ลองคำนวณดูว่าถ้าลดน้ำหวานวันละแก้วจะลดค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้เท่าไหร่ 

เรียนรู้สิ่งใหม่ 

วิธีคำนวณร้อยละ คีย์ลัดคีย์บอร์ด วิธีโหลดคลิปลงมือถือ ทำ CPR ยามฉุกเฉินยังไง ไปจนถึงเทคนิกการทอดไข่เจียวให้เหลืองกรอบ เรียกรวม ๆ ว่า ‘การเรียนรู้สิ่งใหม่’ เป็นเป้าหมายของเหล่าฮิปสเตอร์ที่อยากมีวิชากิ๊บเก๋ประดับบารมี ถึงแม้จะดูเล็กน้อย แต่คือทักษะชีวิตที่สำคัญ ถ้ามีแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อยเลยนะ   

ทำอย่างไร 

- คิดกับทุกอย่าง มีคำว่า What Where When Why ติดตัว หัดเป็นคนขี้สงสัย คิดกับสิ่งที่เห็นและได้ยิน โดยไม่ตัดสินว่าดีหรือไม่ อย่างไร  

- ติดตามคนเจ๋ง ๆ ที่ไม่ก่อดราม่า ใครที่มีประสบการณ์ชีวิตที่เราไม่มี ซึ่งคนเหล่านั้นมักจะแชร์เรื่องราวที่น่าสนใจ เพิ่มความรู้และประสบการณ์ในทางอ้อมให้เราได้  

- ไม่ต้องรอใครเล่าอะไรให้ฟัง ควรหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ด้วยตัวเองเป็นประจำ เดี๋ยวนี้มีช่องทางการเรียนรู้มากมาย จะเรียนวิชาแปลก ๆ จากต่างประเทศทางออนไลน์ก็ยังได้ 

เรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ

อยากเก่งภาษาเป็นเป้าหมายปีใหม่ของเด็กไทยหลายคน แต่ความจริงที่เจ็บปวดคือ แม้จะตั้งเป้าไว้ว่าจะเก่งให้ได้ แต่ภาษากลับไม่กระเตื้องขึ้นสักปี จะผิดที่ใครก็ตัวเองนั่นแหละ มาดูกันว่าเราจะพัฒนาภาษาได้อย่างไรกับ 3 วิธีนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดด้วยนะ เลือกที่คิดว่าทำได้เพียงข้อเดียว และทำมันอย่างสม่ำเสมอทั้งปีก็ได้ 

ทำอย่างไร 

- เรียนศัพท์ใหม่วันละ 10 คำ 10 คำต่อวันคือ 3,650 คำต่อปี ว่ากันว่าในการพูดคุยภาษาอังกฤษ เจ้าของภาษาจะรู้ศัพท์ประมาณ 10,000 คำในหัว ถ้าเราเรียนวันละ 10 คำ ไม่ถึง 3 ปีเราก็จะมีคำศัพท์เท่าเจ้าของภาษา 

- หัดคิดเป็นภาษาอังกฤษ หรือ Think in English every day เราควรเรียนภาษาให้สนุก ด้วยการลองคิดประโยคที่จะพูดทุกวันเป็นภาษาอื่น สิ่งนี้จะช่วยให้เรียนรู้ภาษาได้เร็วขึ้นมาก จำไว้กล้าได้อายอด อย่าอายที่จะฝึกพูดภาษาอื่น

- ดูซีรีส์ ถามคนที่เก่งภาษามาหลายคน ลงมติได้ว่าทุกคนจะชอบดูซีรีส์ภาษาเจ้าถิ่น ดูไปได้สักพักจะเริ่มชินกับสำเนียง เริ่มเดาถูกว่าเขาพูดว่าอะไร ทีนี้แหละจะได้ไม่ต้องยิ้มแห้ง ๆ หรือเหงื่อออก ชี้มือชี้ไม้เวลามีชาวต่างชาติมาถามทาง  

กินอยู่ให้เฮลตี้

ความอยากลดความอ้วน มีผิวสวย เปลี่ยนลุคให้ดูดี สิวหายไป หุ่นเป๊ะ แทบจะเป็นเป้าหมายฮิตของทุกปี แต่ก็ลงเอยด้วยน้ำหนักที่มากขึ้นทุกปี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีความรู้ด้านสุขภาพ ตามใจปาก ปีนี้ลองล็อคเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้นด้วยการหันมาดูแลตัวเอง ใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้เฮลตี้มากกว่าการโฟกัสว่าจะลดน้ำหนักอย่างไร รักษาสุขภาพแบบมีความรู้ และเป็นหมูตัวน้อยที่แข็งเเรง   

ทำอย่างไร 

- อยากผอมลองลดหวาน ลดกินของรสหวาน กินน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน เลิกกินน้ำอัดลม ชา กาแฟ น้ำชงต่าง ๆ แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน แค่นี้ก็จะไม่มีพุง และผิวสวยสมวัย   

- ตั้งเป้าการออกกำลังกาย อาทิตย์นึงจะออกกำลังกาย 4 วัน ถ้าอาทิตย์ไหนทำไม่ครบต้องเสียค่าปรับหยอดลงกระปุก และต้องออกกำลังกายเพิ่มในอาทิตย์ถัดไป การตั้งเป้าแบบนี้ก็เพื่อสร้างวินัยที่ดีให้กับตัวเอง

- ออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเอง คาร์ดิโอ วิ่ง โยคะ ยกเวท มวยไทย ฯลฯ เลือกให้เหมาะกับตัวเองแล้วทำเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย สามารถปรับเปลี่ยนได้ถ้าหากเบื่อ เช่น วันนี้คาร์ดิโอ อีกวันโยคะแทน

- กินคลีน ปรุงอาหารแต่น้อย เน้นกินรสธรรมชาติ จะช่วยบำรุงผิวไปในตัว เพราะจะได้วิตามินที่มาจากอาหารโดยตรง แถมไม่ทำให้เป็นสิวง่ายอีกด้วยเพราะไม่กินของมันของทอด

อ่านหนังสือให้มากขึ้น 

บางคนอาจจะชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว บางคนแค่เห็นหนังสือหนังตามันก็หย่อน แต่เพราะการอ่านหนังสือคือสิ่งจำเป็นสำหรับทุกอย่างในชีวิต (80% ของความรู้ที่คนเราต้องการมาจากการอ่านหนังสือ) ฉะนั้นเป้าหมายที่จะอ่านหนังสือจึงไม่เคยหายไปสักปี มาเติมไฟในการรักการอ่านให้มันลุกท่วมกัน

ทำอย่างไร 

- กำหนดเวลาที่จะอ่านชัดเจน อ่านให้ได้ 50 หน้าต่อวัน ไม่เกิด 3-5 อาทิตย์ก็จะจบ 1 เล่ม วิธีนี้สำหรับคนมีวินัยดีเยี่ยม

- อ่านพร้อมกันหลายเล่ม เช่น เล่มนี้อ่านที่บ้าน เล่มนี้อ่านที่โรงเรียน อีกเล่มอ่านตอนเข้าห้องน้ำ หลากหลายแนวจะทำให้ไม่เบื่อ จบเร็วช้าไม่สำคัญไม่ต้องซีเรียส เหมาะสำหรับคนขี้เบื่อ  

- ยืมหนังสือที่ห้องสมุด เพราะจะได้อ่านเร็วกว่าเดิม ส่งช้ามีค่าปรับอีกต่างหาก 1 เล่มใช้เวลาภายใน 7 หรือ 14 วัน เหมาะสำหรับคนขี้เกียจแต่ยังอยากลองอ่านอยู่นะ 

จัดระเบียบตัวเองให้เก่ง  

ไปไหนไม่สาย รู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ไว้ใจของเพื่อน มีเวลาว่างทำโน่นทำนี่จนเพื่อทักว่าไปเอาเวลามาจากไหนเยอะแยะ ทั้งที่เวลาก็มีเท่ากัน ถือเป็นเป้าหมายของคนที่อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งปีนี้จะต้องขยับขึ้นมาบ้าง   

ทำอย่างไร 

- ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น อีก 10 นาทีต้องไปอาบน้ำ อีกหนึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่นัด ลิสต์สิ่งที่ต้องทำให้เสร็จในแต่ละวัน เมื่อเป้าหมายแต่ละวันสำเร็จแล้ว การวางเป้าหมายระยะยาวก็จะไม่มีปัญหา 

- จัดบ้านให้เป็นระเบียบ การจัดบ้านให้เป็นระเบียบมีผลต่อการจัดระเบียบชีวิตด้านจิตวิทยา กระบวนการจัดบ้านจะค่อย ๆ ขัดเกลาให้เราเลือกสิ่งที่สำคัญจริง ๆ จากการเลือกทิ้งของและเก็บของ 

- ไม่ทำตามอารมณ์ เพราะแม้แต่ศิลปินที่ทำงานเน้นอารมณ์ยังต้องตีกรอบให้ตัวเอง ควรกำหนดให้ชัดเจนเลยว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง กี่อย่าง เมื่อไหร่ แล้วแปะไว้ที่โต๊ะ และเขียนไว้ด้วยว่าถ้าไม่ทำตามแผนจะมีใครได้รับผลกระทบบ้าง 

แหล่งข้อมูล

7 แนวทางการเลือกคณะที่ใช่ สืบค้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 จาก https://www.top-atutor.com/

คุณตั้งปณิธานในการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับปีนี้ไว้อย่างไร สืบค้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 จาก https://englishlive.ef.com/

คู่มืออาหารคลีน โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมสนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนันสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ 

‘ปีใหม่-คนใหม่’ กับ 3 วิธีคิด ทำสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ให้สำเร็จ สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 จาก http://themomentum.co/

อ่านหนังสืออย่างไรให้ได้ 100 เล่มในหนึ่งปี สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 จาก https://www.facebook.com/thematterco/

เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพประกอบ : วันนิตา ตรียุทธกุล