ตัวเลขที่บอกแคลอรี่ น้ำหนักกรัมของไขมัน สามารถช่วยคุณคำนวณได้ว่าจะกินอะไรในสัดส่วนแค่ไหนดี อย่างไรก็ตามการยึดแต่ตัวเลขมากเกินไปนั้นจะทำให้คุณเป็นทุกข์มากกว่าจะทำให้ผอมลง อาหารก็คืออาหารละนะ เวลาจะกินแซลมอนหนึ่งชิ้นคุณควรมองมันเป็นแซลมอน ไม่ใช่มองเป็นตัวเลขแคลอรี่หรือไขมันที่จะได้รับเข้าไป
ตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นโค้ชที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก การฟังความต้องการของร่างกายนั้นจะช่วยปลดเปลื้องคุณจากความกังวลต่าง ๆ หากเลือกวิธีลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร สักพักควรจะหยุดและฟังเสียงร่างกายตัวเองดูว่ามันโอเคมั้ยและค่อย ๆ ปรับตามนั้น
แต่เพื่อความเคลียร์บอกไว้ก่อนว่าถ้าคุณกินมังสวิรัติเพราะความเชื่อส่วนบุคคลหรือไม่กินกลูเตนเพราะแพ้นมนั่นก็อีกเรื่อง ส่วนถ้าตัดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งทิ้งเพื่อไดเอทมันก็จะทำให้คุณได้รับอาหารไม่สมดุล
ตัวเลขที่ปรากฏบนตาชั่งไม่ได้หลอก น้ำหนักขึ้นก็คือขึ้นจริงๆ แต่นั่นไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะงั้นอย่าไปเครียดกับมันมาก ยังมีอะไรอย่างอื่นอีกเยอะให้ดูควบคู่ไปกับตัวเลขบอกน้ำหนัก เช่นความฟิตของกล้ามเนื้อ ความรู้สึกมั่นใจเวลาสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ เป็นต้น
มีการศึกษาจำนวนมากที่บอกว่าการกินน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการนั้น ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ การจำกัดอาหารมากไปจะทำให้คุณเป็นหวัดได้ง่าย อาจส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตร และเพิ่มโอกาสให้คุณกลับไปอ้วนได้อีกในอนาคต
การโพสต์เกี่ยวกับความก้าวหน้าในการลดน้ำหนัก เช่น ถ่ายรูปวิ่ง 5 กม. แรกของตัวเอง โชว์อาหารคลีนที่ทำเอง นั้นจะช่วยได้คุณคิดว่าตัวเองฟิตขึ้น ตั้งใจจริงขึ้น และนั่นจะทำให้คุณมีแนวโน้มจะลดน้ำหนักได้สำเร็จมากขึ้นอีก มีการศึกษาของ American University in Washington, D.C. กล่าวว่า แม้กระทั่งการโพสต์เรื่องความไม่สำเร็จ ถอยหลังเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางโอกาส ก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายการลดน้ำหนักได้เช่นกัน
การศึกษาของวารสาร Eating Behaviors ให้ผลออกมาว่าเมื่อมีรูปร่างใหม่ ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว คนที่ลดน้ำหนักเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั้นจะมีความสุขมากกว่าคนลดน้ำหนักด้วยเหตุผลอยากให้ตัวเองดูดีเฉย ๆ ดังนั้นสาว ๆ ทุกคนคะ อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเราทำเพื่อ 'ชีวิต' ของเรา ไม่ใช่ทำเพื่อลดเบอร์เสื้อผ้าแล้วก็ดีใจแค่นั้นนะ