ส้มตำ เป็นอาหารพื้นบ้านที่ถูกปากคนไทยโดยเฉพาะชาวอีสานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติอีกด้วย ปกติส้มตำ 1 จานจะให้พลังงานไม่เกิน 150 แคลอรี จึงมักถูกเลือกให้เป็นเมนูแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่นอกจากส้มตำจะช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าประโยชน์ต่างๆที่มาพร้อมกับวัตถุดิบในส้มตำมีอะไรกันบ้าง
ในมะละกออุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ช่วยป้องกันและรักษาอาการหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ป้องกันกระดูกพรุน และเป็นยาระบายอ่อน ๆ อีกด้วย
ในมะเขือเทศสีดาจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ
ช่วยแก้อาการจุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับเหงื่อ แก้อาการปวดหลัง ปวดเอว นอกจากนี้พริกขี้หนูยังมีส่วนช่วยในการเผาพลาญ ลดน้ำตาลในเลือดและกระตุ้นการหลั่งสารอินซูลิน
ช่วยขับลม ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการหวัด ป้องกันโรคมะเร็ง ระงับกลิ่นปาก ลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด เสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง
แก้อักเสบ ช่วยย่อยอาหาร อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างให้หลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันหวัด ลดไข้ ช่วยขับปัสสาวะและทำให้ร่างกายสดชื่น
น้ำตาลปี๊ปทำจากจั่นมะพร้าวและจั่นของตาล อุดมไปด้วยวิตามิน แคลเซียม ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็ก
มีแร่ธาตุ แคลเซียม ฟอสฟอรัสและวิตามินต่างๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดคอเลสเตอรอล บำรุงตับและม้าม
ส้มตำ 1 จานจะประกอบไปด้วย 1.มะละกอดิบ 2.กระเทียม 3.พริกขี้หนู 4.มะเขือเทศสีดา 5.ถั่วฝักยาว 6.ถั่วลิสง 7.กุ้งแห้ง 8.น้ำปลา 9.น้ำมะขามเปียก 10.น้ำตาลปี๊ป 11. มะนาว แต่บางเมนูก็จะเพิ่มปลาร้า ปูดอง เส้นขนมจีนและอื่นๆเข้าไป (ในบางร้านคนขายมักจะใส่ชูรสเข้าไปด้วย) จากวัตถุดิบต่าง ๆ นี้จะเห็นว่ามีวัตถุดิบที่มีประโยชน์อยู่หลายอย่าง แต่ก็มีเครื่องปรุงรสอีกหลายอย่างที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย หากคุณจะเลือกส้มตำเป็นเมนูลดน้ำหนักก็ควรเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสที่สะอาด ปริมาณเหมาะสม และขอแนะนำให้คุณกินส้มตำสลับอาหารที่มีโปรตีน เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์นะคะ