หลังปาร์ตี้สุดมันส์ ถ้าต้องทรมานกับอาการเมาค้างตอนเช้าวันถัดไปล่ะ ? ก็หมดสนุกแน่นอน!!! อยากป้องกันอาการเมาค้างก่อนออกไปปาร์ตี้ทำได้ไหมนะ ?

อันที่จริงแล้วอาการเมาค้างหลังดื่มอย่างหนักหน่วงอาจไม่เป็นปัญหาสำหรับสาวนักดื่ม แต่เป็นปัญหาใหญ่ของสาวนักดื่มหน้าใหม่หลาย ๆ คน หรือใครที่ปาร์ตี้เพลินหนักเกินอัตราปรกติ หมดห่วงได้เลยค่ะ เพราะเรามี 7 วิธีดี ๆ ผ่านการศึกษาค้นคว้าถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ป้องกันอาการเมาค้างอย่างได้ผล หรืออย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้สาว ๆ ไม่ต้องทนทรมานกับอาการปวดหัว อ่อนเปรี้ยเพลียแรงทั้งวันหลังปาร์ตี้มากนักมาฝากกัน เตรียมตัวก่อนไปปาร์ตี้ทำอย่างไรได้บ้างมาดู

1.ดื่มในปริมาณที่พอดี หรือไม่ดื่มเลย

ใช่ค่ะซิส ถ้าไม่อยากเมาค้างวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ต้องดื่มเหล้าเลย! เพราะความรุนแรงของอาการเมาค้างขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอลที่ดื่มเข้าไป แต่ถ้าอดใจไม่ไหวเพราะบรรยากาศความสนุกสนานพาให้ดื่มก็ควรต้องจำกัดปริมาณให้ดื่มแต่พอดี ทั้งนี้ปริมาณแอลกอฮอลที่จะส่งผลให้เกิดการแฮงค์ในวันถัดไปของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนดื่มแค่ 1-2 แก้วก็เมาแล้วในขณะที่คนส่วนมากประมาณ 23% ของนักดื่ม ดื่มเท่าไรก็ไม่เมาแถมไม่มีอาการเมาค้างวันรุ่งขึ้นด้วย อาจกล่าวได้ว่าการดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเป็นเพียงตัวเลือกที่ดีสำหรับบางคน เพราะสำหรับคนที่รักการดื่มสังสรรค์ก็จะดื่มไปเรื่อย ๆ โดยไม่แคร์ว่าพรุ่งนี้จะแฮงค์หรือไม่ด้วยซ้ำ

2.หลีกเลี่ยงการรับสารคอนจีเนอร์ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล

คอนจีเนอร์ (Congener )คือผลพลอยได้ที่จำเพาะจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล เอทานอลคือส่วนประกอบหลักในเครื่องดื่มแอลกอฮอลเกิดจากหมักยีสต์กับน้ำตาลซึ่งทำให้เกิดสารคอนจีเนอร์ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ได้จากการหมักบ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล เป็นสารเคมีเป็นพิษต่อร่างกายที่รู้จักกันดีคือ เมทานอล, ไอโซเพนทานอลและอะซีโตน เครื่องดื่มแอลกอฮอลที่มีสารคอนจีเนอร์ความเข้มข้นสูงอย่างวิสกี้ คอนยัค เตกิล่าและ เบอร์เบิ้ลวิสกี้มีแนวโน้วทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการเมาค้างได้บ่อยและรุนแรงเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มที่มีคอนจีเนอร์น้อยอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่มีสีเช่นวอดก้า จินหรือรัมซึ่งพบปริมาณคอนจีเนอร์ที่น้อยกว่า จากการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบอาการเมาเค้าหลังดื่มวิสกี้และวอดก้าพบว่า วิสกี้ส่งผลให้เกิดการเมาค้างได้มากและรุนแรงกว่าวอดก้า การศึกษานี้ยังพบว่า เมทานอลเป็นคอนจีเนอร์ที่เชื่อมโยงให้เกิดอาการเมาค้างมากที่สุด

3.ดื่มเหล้าถอนในเช้าวันถัดไป

"แฮงค์อย่างนี้ต้องถอน !" ฟังดูแล้วน่าเมาหนักกว่าเดิมป่ะ แต่เป็นวิธีแก้อาการแฮงค์ที่สิงห์นักดื่มชอบใช้และนิยมบอกต่อ และก็มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ออกมาให้การยอมรับแล้วว่าแก้อาการเมาค้างได้จริง ๆ นักวิทยาศาตร์เชื่อว่าการดื่มแอลกอฮอลทำให้ร่างกายรับเมทานอลในปริมาณที่ส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญโดยเปลี่ยนเมทานอลให้เป็น ฟอร์มาดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารพิษและส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างโดยตรง แต่การดื่มแอลกอฮอลที่มีปริมาณเอทานอลมากกว่าในเช้าวันถัดไปกลับกลายเป็นการเข้าไปช่วยยับยั้งกระบวกการก่อตัวเป็นฟอร์มาดีไฮด์ในร่างกายได้ด้วย และร่างกายยังสามารถขับเมทานอลออกจากร่างกายได้อย่างปลอดภัยทางลมหายใจและปัสสาวะจึงเป็นหลักฐานยืนยันได้เพราะเหตุใดสิงห์นักดื่มจึงนิยมดื่มเหล้าที่มีมีเอทานอลสูงในเช้าถัดจากวันที่ดื่มวิสกี้มาอย่างหนักหน่วง

**แต่นักวิทยศาสตร์ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า วิธีนี้แม้จะใช้แก้อาการเมาค้างได้อย่างเห็นผลดีแต่การดื่มหนักทั้งเช้าและเย็นจะส่งผลให้คุณติดเหล้าจนเข้าขั้นเป็นแอลกอฮอลลิคได้ไม่ยาก จึงไม่ควรใช้วิธีนี้แก้เมา​ค้างบ่อย ๆ นะคะ เลิกแฮงค์แต่ติดเหล้าแทน พี่ว่าไม่คุ้มนะคะซิส

4.ดื่มน้ำมาก ๆ

เหล้าก็คือยาขับปัสสาวะดี ๆ นี่เอง ทำให้ปริมาณปัสสาวะที่เราเอาอกจากร่างกายมีปริมาณเท่ากับปริมาณน้ำที่เราดื่มเข้าไป เพราะเหตุนี้การดื่มเหล้าจึงทำให้ร่างกายเราขาดน้ำ แต่อาการขาดน้ำอาจดูเป็นผลกระทบจากอาการเมาค้างที่ไม่ทรมานร่างเราสักเท่าไร แต่อาจเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกกระหายน้ำบ่อย ปวดหัว ปาก คอแห้งและอ่อนเพลีย โชคดีที่อาการเหล่านี้แก้ไขง่าย ๆ ด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ ข้อควรจำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำคือควรดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลระหว่างการดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อน ๆ และดื่มน้ำแก้วโตอย่างน้อย 1 แก้วก่อนเข้านอน จะช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำและปวดหัวในเช้าวันถัดไปได้

5.นอนหลับให้เพียงพอ

แอลกอฮอลอาจทำให้นอนไม่หลับ ส่งผลกระทบทั้งต่อระยะเวลาและคุณภาพในการนอนหลับพักผ่อน รวมไปถึงรบกวนตารางเวลาในการพักผ่อนหลักคุณปาร์ตี้จนดึกเกินไป แม้ว่าการนอนไม่เต็มอิ่มไม่ใช่อาการหลัก ๆ ที่เกิดจากการแฮงค์แต่จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเมื่อบวกกับอาการเมาค้างจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวหงุดหงิดมากขึ้น การได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มในวันรุ่งขึ้นหลังจากปาร์ตี้มันสุดเหวี่ยงจะช่วยเรารับมือและบรรเทาอาการเมาค้างได้ดีขึ้น หากอยากปาร์ตี้หนักหน่วงแล้ววันรุ่งขึ้นต้องไปทำงานทั้ง ๆ ที่ยังเมาค้าง ไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ค่ะสาว ๆ

6.รับประทานอาหารเช้าให้เต็มที่

ผลจากการศึกษาพบว่าอาการเมาค้างเชื่อมโยงกับระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือที่เรียกว่า ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำมีแนวโน้มเกิดอาการเมาค้างที่รุนแรงได้มากกว่า แม้ภาวะน้ำในเลือดต่ำก็ไม่ใช้อาการหลักของการแฮงค์แต่ทำให้รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงและปวดหัวได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าวสาว ๆ จึงควรตื่นมากินอาหารเช้าที่มีประโยชน์อุดมไปด้วยวิตตามิน แร่ธาตุและสารอาหารต่าง ๆ ให้ครบ 5 หมู่ หลังคืนปาร์ตี้หนักหน่วง หรือกินมื้อใหญ่ก่อนเข้านอนก็จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้

7.กินอาหารเสริมก็ช่วยได้

วิธีทั้ง 7 ที่เราได้นำมาแนะนำสาว ๆ ในวันนี้ อาจไม่ได้ช่วยป้องกันให้รอดปลอดภัยจากอาการเมาค้างได้ 100% เต็ม ๆ นะจ๊ะ อย่างที่บอกไปความเลวร้ายของอาการเมาค้างขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์แข็งแรงของร่าง การพักผ่อนและปริมาณแอลกอฮอลที่เราดื่มเข้าไป อาจส่งผลมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ที่เรารับประกันได้แน่ ๆ คือถ้าทำตาม 7 วิธีนี้แล้วจะช่วยให้คุณทรมานจากการเมาค้างน้อยลงจริง ๆ แต่ทางที่ดีที่สุดสาว ๆ ต้องรู้ข้อจำกัดในการดื่มของตัวเองและดื่มแต่พอดี จะได้ฉลองปีใหม่ได้ยาว ๆ ที่สำคัญเมาไม่ขับ ดูแลตัวเองกันดี ๆ นะจ๊ะปาร์ตี้เกิร์ลทั้งหลาย