Labiotte (ลาบิโอเต้) เป็นแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่มีลูกเล่นอยู่ที่แพคเกจจิ้งทรงขวดไวน์สุดเก๋ พร้อมทั้งมีกลิ่นไวน์อ่อน ๆ และสีสวยเหมาะกับทุกโอกาสค่ะ ขอบอกก่อนเลยว่าลิปไวน์นี้ไปตำมาไม่ครบทุกสีนะคะ มีบางสีหมดไปก่อนแล้ว (เสียดายมาก) แต่ด้วยความอยากรีวิวให้สาว ๆ อ่านกัน มีเท่าไหร่เลยเหมามาเท่านั้นก่อนค่ะ
อ้อ ! ขอบอกก่อนเลยว่าลิปไวน์ของ Labiotte มีเนื้อทั้งหมด 3 แบบด้วยกันนะคะ คือ Melting (เนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์วาว ๆ ), Fitting (แมต) และ Tint ค่ะ โดยแพคเกิจจิ้งของแต่ละแบบก็จะแตกต่างกัน คือ Melting และ Fitting แท่งจะยาวกว่า เพราะมีทั้งลิปสติกแท่งแบบหมุน และฟองน้ำสำหรับเกลี่ยลิปสติกมาให้ ส่วน Tint แท่งจะสั้นกว่าเพราะเป็นแบบจิ้มจุ่มธรรมดานั่นเองค่ะ เกริ่นไปเยอะแล้วเรามาสวอทช์ดูสีกันต่อเลยดีกว่านะคะ
ลิปสติกสีนี้เป็นสีชมพูอมแดงนิด ๆ ค่ะ สีสวยดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ทาแล้วดูสุขภาพดี ปากจิ้มลิ้มน่ารัก เหมาะกับทุกโอกาสเลยล่ะค่ะ สาว ๆ คนไหนที่อยากแต่งแต้มให้ใบหน้ามีสีสันเล็กน้อย ถือว่าสีนี้ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ ส่วนเนื้อลิปสติกที่เป็นแบบมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มสุขภาพดีไปตลอดทั้งวันเลยค่ะ
สีนี้จากรูปสีอาจเพี้ยนนิดหน่อยค่ะ แต่จริง ๆ แล้วเป็นสีโอรส จะออกไปทางส้มนิดนึง วันไหนที่อยากแต่งหน้าโทนสีส้ม หยิบลิปสีนี้มาใช้ รับรองเกิดและสดใสมากจริง ๆ ค่ะ ส่วนความชุ่มชื้นก็ยกให้เขาเลย ปากอวบอิ่มดี แถมเงาแวววาวดีด้วยค่ะ
สีนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่ชื่นชอบสีชมพูแนวบาร์บี้นะคะ เพราะค่อนข้างอ่อนและเห็นเม็ดสีชัดเจน ถ้าวันไหนปัดบลัชออนสีนมเย็น แต่งตาสีชมพูบาง ๆ สีปากนี้จะให้ Total Look ที่เป๊ะมากเลยล่ะค่ะ จริง ๆ สาวผิวเข้มทาลิปสีนี้จะยิ่งเกิดด้วยนะ แนะนำเลยค่ะ
ไล่ระดับความแซ่บขึ้นมาเรื่อย ๆ ลิปสีนี้จะค่อนไปทางแดงมากกว่าสีส้ม แต่ก็ยังไม่ทิ้งความชมพูไปนะคะ เลยได้สีชมพูเชอร์รี่มาแทน ต้องขอบอกว่าชอบสีนี้ที่สุด เพราะทาแล้วปากดูน่าจุ๊บ ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส แม้วันนั้นจะนอนน้อยและอ่อนระโหยโรยแรงยังไง เจอปากสีนี้เข้าไป บลิ๊ง ๆ ขึ้นทันทีเลยค่ะ
สาวเปรี้ยวจี๊ดน่าจะชอบปากสีส้มนี้นะคะ แม้จะยังสีจี๊ดไม่สุดแต่ก็นับว่าจัดจ้านพอตัว วันไหนอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นสาวส้มสุดเปรี้ยว คว้าลิปสติกสีนี้มาแต่งแต้มริมฝีปากก็สวยไม่ใช่เล่น ดูสดใสซุกซนดีด้วยค่ะ
ลิปแมตที่ได้มาเพียงหนึ่งเดียว แถมได้สีสวยถูกใจอีกต่างหาก สาว ๆ ที่อยาก Keep Look ให้ดูสวย สง่า และน่าหลงใหลต้องชอบสีนี้มากแน่นอนค่ะ เพราะเป็นสีแดงเข้ม ออกแนวเบอร์กันดีเล็ก ๆ ยิ่งมองยิ่งแซ่บ แถมลิปไม่ตกร่องด้วยนะคะ (ตอนทาจะฝืดเล็กน้อย แต่ Finished Look สวยเอาเรื่องเลยค่ะ)
ทิ้นท์ตัวแรกนี้จะออกสีส้มเล็กน้อย ด้วยเนื้อบางใส ถ้าอยากให้เห็นสีชัดเจนอาจต้องเลเยอร์หลายชั้นสักหน่อย แต่พอแห้งก็ให้สีชัดดีค่ะ ไม่ทำให้ปากแห้ง แต่ทางที่ดีทาลิปมันทับอีกหน่อยจะดีที่สุดค่ะ
สีชมพูสุดหวานแหวว สารภาพว่าตอนแรกตั้งความหวังไว้ว่าจะออกมาสีชมพู๊ชมพู แต่พอปาดกับปากเท่านั้นล่ะค่ะ งงเลยว่าสีหายไปไหน สีน้องเขาอ่อนม๊ากกกก ต้องย้ำหลายครั้งอยู่เหมือนกันกว่าจะเห็น แต่เพราะความสีอ่อนนี่ล่ะค่ะเลยทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ แนวว่าพอตื่นมาปากก็สีชมพูระเรื่อแบบนี้เลยอะค่ะ
เป็นสีทิ้นท์ที่ไม่ค่อยเห็นใครทำนะคะ เลยค่อนข้างประทับใจ สีติดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา ยิ่งย้ำก็ยิ่งชัด แต่ถ้าย้ำมาก ๆ อาจกลายเป็นปากคล้ำได้ จุดนี้ต้องระวังกันหน่อยนะคะสาว ๆ
และนี่คือหน้าตาของลิปทั้งหมดที่ไปตำมาค่ะ สังเกตได้ว่าสีค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ไปทางโทนสุภาพ ไม่มีสีไหนฉูดฉาดออกมาเลย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังมองหาลิปสีไม่แรง หรือสาว ๆ ที่เพิ่งหัดแต่งหน้ามากเลยล่ะค่ะ แล้วดูสิคะ พอลบด้วย Lips Remover ปาดไปหนึ่งครั้งสีก็ยังติดอยู่นะ แม้จะไม่ติดทนเท่าลิปจิ้มจุ่ม แต่ก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ
ด้วยความที่เป็นลิปสติกแบบมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทำให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นสุขภาพดี ทาง่าย เม็ดสีชัด ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง ถือว่าจุดนี้ทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ต้องบอกสาว ๆ ว่าลิปตัวนี้ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่นะคะ ดื่มน้ำกินขนมสักพักสีก็เริ่มหลุดแล้ว ต้องขยันเติมบ่อย ๆ เพื่อให้ได้สีชัดเจนตามต้องการค่ะ จุดที่ประทับใจที่สุดคือกลิ่นค่ะ มีกลิ่นไวน์หอมอ่อน ๆ ระหว่างทาด้วย ชอบมากเลยค่ะ
เนื่องจากซื้อมาแท่งเดียว เลยแนะนำอะไรได้ไม่มากค่ะ ทางที่ดีสาว ๆ ลองซื้อเนื้อแมตสีอื่นมาลอง แล้วอ่านบทความนี้ประกอบแทนจะได้ผลที่สุดนะคะ แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าทำได้ค่อนข้างดี แต่เนื้อลิปแห้งไปนิด ทำให้เวลาทาลงบนริมฝีปากค่อนข้างฝืด ถ้าทาไม่ดีอาจเป็นขุยและติดตามร่องปากได้ค่ะ ขอแนะนำว่าควรทาลิปมันหรือสครัปริมฝีปากให้เรียบร้อยก่อนลงลิปนี้ จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดค่ะ ส่วนความติดทน คิดว่าเพราะเป็นสีเข้มเวลาสีหลุดเลยเห็นค่อนข้างชัดเจนค่ะ ผ่านไปครึ่งวันสีก็หลุดแล้ว ต้องวิ่งไปเติมใหม่ตอนบ่ายกับเย็นอีกที แต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่นะคะ
ทิ้นท์คิดว่าทำได้กลาง ๆ ไม่ถึงกับดีและไม่ถึงกับแย่ค่ะ ส่วนตัวใช้ทิ้นท์ของ Etude อยู่ ซึ่งเขาขึ้นชื่อเรื่องนี้มากเลยรู้สึกว่าทิ้นท์ของ Labiotte (ลาบิโอเต้) สีอ่อนไปนิด ต้องทาย้ำหลายทีสีถึงจะติดชัดเจน อีกทั้งต้องรอนานกว่าทิ้นท์จะแห้ง ทำให้ผละไปแต่งหน้าอย่างอื่นลำบากพอสมควรค่ะ แต่ด้วยความใสของเนื้อทำให้ควบคุมปริมาณสีค่อนข้างง่าย ได้สีตามที่ต้องการเลยล่ะค่ะ อีกอย่างชอบตรงที่มีทิ้นท์สีเข้มด้วย เวลาจะทาลิปสีเข้มอย่าง Fitting RD01 แล้วใช้ Tint RD03 มาเป็นเบสนะ ขอบอกว่าเริ่ด เกิด และสีติดทนเช้ายันเย็นเลยล่ะค่ะ