Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

โทษของน้ำอัดลม

Posted By Plook Creator | 12 ต.ค. 60
10,778 Views

  Favorite

น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลก มูลค่าบริษัทที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก ก็ติดอันดับต้น ๆ ของบริษัทที่ร่ำรวยสินทรัพย์มากที่สุดของโลกเช่นกัน แต่ร่างกายของคุณจะเป็นอย่างไรหากดื่มน้ำอัดลมเพียงอย่างเดียว

 

เรารู้ว่าน้ำอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์นั้นมีฤทธิ์เป็นกรด มันกัดกร่อนกระดูกและระบบทางเดินอาหารเราได้ แม้ว่าจะมีคำเตือนมากมายจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญแต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ได้มีผลการวิจัยที่จริงจังพอจะทำให้คนทั้งโลกเชื่อได้ว่า น้ำอัดลมนั้นเป็นพิษต่อร่างกาย หรือแท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ได้เป็นพิษต่อร่างกายก็เป็นได้ แล้วน้ำตาลที่มีอยู่มากในน้ำอัดลมเหล่านี้ล่ะ จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้หรือไม่ สิ่งนี้ก็ยังเป็นคำถามที่คลุมเครืออยู่ดี เพราะว่าเราไม่ได้รับน้ำตาลจากน้ำอัดลมเพียงอย่างเดียว อาหารอื่น ๆ อย่างข้าวสวยที่เรารับประทานทุกวัน หรือแม้แต่ผลไม้ ก็ให้น้ำตาลเช่นกัน คำถามถัดไปคือ ถ้าอย่างนั้นการดื่มน้ำอัดลมอย่างเดียวแทนการดื่มน้ำเปล่าจะให้พลังงานกับร่างกายมากเกินไปหรือไม่

ภาพ : Shutterstock

 

น้ำตาลและไขมันเป็นสารอาหารที่ร่างกายเรียกร้องอยู่ตลอดเวลาโดยธรรมชาติ และนั่นทำให้เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นสิ่งที่ร่างกายปฏิเสธได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำอัดลมที่อัดก๊าซเข้าไปนั้นให้รสสัมผัสและประสบการณ์การดื่มแปลกใหม่ จึงเย้ายวนกว่าเดิม สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ การเดินทางของน้ำอัดลมเมื่อผ่านเข้าไปในร่างกาย ในตอนแรกที่มันไหลผ่านปากของคุณ แม้จะไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นอันตราย แต่น้ำที่อัดไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็มีความเป็นกรดอ่อน ๆ อยู่ ดังนั้น สารเคลือบฟันของคุณจะโดนกัดกร่อนในทันทีที่น้ำอัดลมสัมผัส แบคทีเรียที่อยู่ตามซอกต่าง ๆ ในช่องปากของคุณ ก็ได้รับอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของมันในทันทีเช่นกัน มันจะเริ่มย่อยน้ำตาลที่ละลายอยู่ในเครื่องดื่มและผลที่ได้จากปฏิกิริยาย่อยของแบคทีเรียกเหล่านี้ก็คือกรดอีกเช่นกัน มันทำให้ฟันของคุณโดนกัดกร่อนเพิ่มขึ้นไปอีก และหากไม่มีการจัดการทำความสะอาดที่ดีพอ หรือไม่มีการเพิ่มสารเคลือบฟันเข้าไป ฟันของคุณก็จะผุได้ง่ายขึ้น ส่วนคนที่ชอบอม หรือกลั้วปากและทำเหมือนเคี้ยวเพื่อลดปริมาณก๊าซ ยิ่งเป็นการกระจายน้ำอัดลมให้ทั่วช่องปากมากขึ้น วิธีที่ดีกว่าในการดื่มน้ำอัดลมคือการใช้หลอดดูดซึ่งจะทำให้น้ำอัดลมผ่านบริเวณฟันและไหลคงคอไปได้เลย ส่วนวิธีที่ดีที่สุด คือ การไม่ดื่มนั่นเอง

 

น้ำเชื่อมข้าวโพด (Corn Syrup) ซึ่งมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบเพื่อให้ความหวานในน้ำอัดลม เป็นน้ำตาลชนิดที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยเพื่อให้ได้พลังงานเหมือนกับน้ำตาลชนิดอื่น ๆ มันไม่เหมาะกับระบบย่อยของเรา ซ้ำยังเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ โรคหัวใจ รวมถึงไม่ไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) และเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นตัวควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกายไม่ให้มากเกินไป​ หากปริมาณฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสม คุณก็จะไม่กินมากเกินไป แต่น้ำเชื่อมข้าวโพดไม่ถูกควบคุมโดยฮอร์โมนทั้งสอง นั่นทำให้คุณไม่รู้สึกอิ่มหรือลดความอยากลง แม้ว่าจะได้รับพลังงานจากน้ำอัดลมในปริมาณมากแล้ว

 

ในกรณีที่คุณดื่มแต่น้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า แปลว่า ในแต่ละวันซึ่งเราควรจะดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 แก้ว เราเปลี่ยนมันเป็นน้ำอัดลมในปริมาณที่เท่ากัน เราอาจจะได้น้ำตาลเพิ่มขึ้นถึง 5,400 แคลเลอรีต่อวัน และน้ำตาลหรือพลังงานที่เราได้รับเพิ่มขึ้นมานี้เองที่เป็นปัญหาใหญ่ต่อร่างกาย ผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่าตั้งแต่มีการดื่มน้ำอัดลมอย่างแพร่หลาย และการเติบโตของตลาดน้ำอัดลม มันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานในสหรัฐถึง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในช่วงปี ค.ศ. 1977 - 2007

 

นอกจากนี้แม้ว่าหลาย ๆ คนจะพึ่งคาเฟอีนและน้ำตาล ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของน้ำอัดลมหลาย ๆ ชนิด เพื่อให้มีสมาธิและจดจ่อกับงานมากขึ้น เหมือนกับการดื่มกาแฟหรือชา แต่คาเฟอีนส่งผลระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาวมันทำให้สมองเหนื่อยล้าและไม่สามารถเรียนรู้ได้เต็มที่ ความสามารถในการจำลดลง และการได้รับคาเฟอีนเป็นประจำทำให้ร่างกายโหยหาคาเฟอีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับความอยากน้ำตาล ทำให้คุณต้องดื่มน้ำอัดลมในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย มีการพบว่าสัตว์ที่ได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ทำให้สมองลดปริมาณการผลิตสารเคมีที่เรียกว่า Brain-derived Neurotrophic Factor (BDNF) ซึ่งส่งผลต่อระบบการเรียนรู้และการจำ

 

การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไปก่อให้เกิดโทษกับร่างกายของคุณ แม้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มอัดลมชนิดไดเอตหรือน้ำตาลน้อยก็ตาม น้ำอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ได้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และโดยส่วนใหญ่ก็มีพลังงานหรือน้ำตาลในปริมาณมากกว่าที่ควรจะได้รับต่อวัน รู้อย่างนี้แล้วก็ควรที่จะเปลี่ยนจากการดื่มน้ำอัดลมไปเป็นดื่มน้ำเปล่าแทนดีกว่า

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow