Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

19 เรื่อง (ไม่) ลับของสมอง

Posted By sanomaru | 11 ต.ค. 60
13,503 Views

  Favorite

นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า สมองเป็นสิ่งที่ลึกลับและซับซ้อนที่สุดในจักรวาล มันซับซ้อนยิ่งกว่าการระเบิดของดวงดาวที่ห่างไกลจากโลกออกไปหลายล้านปีแสงเสียอีก แต่ความลึกลับซับซ้อนของสมองบางอย่าง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยก็ได้คลายปมพิศวงได้แล้ว มาลองดูความลับของสมองที่นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยได้ร่วมกันคลี่คลายดีกว่า แล้วจะเห็นด้วยว่า สมองนั้นลึกลับและซับซ้อนจริง!

ภาพ : Shutterstock

 

1. ในขณะที่เราตื่น สมองของเราสามารถจะสร้างพลังงานที่ทำให้หลอดไฟสว่างได้เลย ซึ่งอยู่ในช่วง 10-23 วัตต์

 

2. ทารกมีน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (cerebrospinal fluid) อยู่ประมาณ 50 มิลลิลิตร ขณะที่ผู้ใหญ่มีน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังอยู่ประมาณ 125-150 มิลลิลิตร แต่ 3 ใน 4 ของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังนี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ทดแทนเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน โดยอัตราการสร้างอยู่ที่ 0.35 มิลลิตรต่อนาที หรือ 500 มิลลิลิตรต่อวัน

 

3. สมองจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนถึง 20 เปอร์เซ็นของออกซิเจนทั้งหมดในร่างกาย รวมถึงต้องการใช้เลือด 20 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดด้วย

 

4. มนุษย์ใช้สมองอย่างเต็มประสิทธิภาพของมัน ไม่ใช่ใช้เพียง 10% ของสมองที่มีอย่างที่บางคนอาจเคยได้ยินมา เพราะมนุษย์จะใช้ทุกส่วนของสมองในการทำงานประสานกัน โดยสมองไม่จำเป็นต้องทำงานในเวลาเดียวกันทั้งหมด สมองแต่ละส่วนจะทำงานบางช่วงเวลาในแต่ละวันขึ้นกับกิจกรรมของเราเอง เช่น อ่านหนังสือ พยายามแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขับรถ คุยโทรศัพท์ หรือแม้แต่การนอน

 

5. การป่วยของแม่มีผลกระทบต่อสมองของทารกในครรภ์อย่างมาก นอกจากนี้การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ สัมผัสสารเคมี หรือความร้อนสูง ขณะตั้งครรภ์ยังอาจทำลายการพัฒนาของเซลล์ทารกในครรภ์อีกด้วย

 

6. เมื่อศีรษะถูกตีหรือกระแทก เราจะรู้สึกเหมือนเห็นแสงไฟสว่างวาบขึ้นในความคิด นั่นมาจากการที่เซลล์สมองที่เกี่ยวกับการมองเห็นมีการตอบสนองต่อการถูกกระแทก เช่นเดียวกับที่เรารู้สึกเหมือนมองเห็นดาววิบวับหากถูกกระแทกที่ศีรษะด้านหลัง เพราะบริเวณนั้นเป็นตำแหน่งของ Visual Cortex ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็น

 

7. สมองมีรอยพับไปพับมาจำนวนมาก รอยพับนั้นคือร่องของสมองที่เรียกว่า Sulcus ส่วนพื้นที่เรียบระหว่างร่องสมองเรียก Gyrus การที่รอยพับหรือร่องสมองมาก ทำให้สมองมีพื้นที่สัมผัสกับออกซิเจนมากขึ้น

 

8. ผู้ชายอายุ 20 ปี จะมีเยื่อหุ้มไมอีลิน (เป็นเยื่อหุ้มเส้นประสาทแอกซอน ซึ่งช่วยให้กระแสประสาทผ่านไปได้เร็วขึ้น) ในสมองยาว 176,000 กิโลเมตร ซึ่งพอที่จะพันรอบโลกของเเราได้ถึง 4.5 รอบ ขณะที่ผู้หญิงนั้นมีขนาดสมองเล็กกว่าผู้ชาย และมีเยื่อหุ้มไมอีลินในสมองสั้นกว่า คือประมาณ 149,000 กิโลเมตร

 

9. นักวิจัยที่ Baylor University พบว่า เด็กที่ถูกจำกัดการสัมผัส การเล่น และการตอบโต้ จะมีขนาดของสมองเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกันถึง 20-30%

 

10. มีปฏิกิริยาเคมีมากกว่า 100,000 รายการ เกิดขึ้นภายในสมองทุก ๆ วินาที

 

11. ในสมองของมนุษย์มีเส้นเลือดยาวรวมกันประมาณ 100,000 ไมล์ หรือประมาณ 160,934 กิโลเมตร

 

12. แม้ว่าการนอนหลับจะดูเหมือนเป็นการพักผ่อนสมอง แต่ในความเป็นจริงสมองของเราตื่นอยู่ตลอดเวลา เช่น สมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคิดและความรู้สึกตัว หรือสมองที่เกี่ยวกับการรับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ก็ยังคงทำงาน

 

 

13. งานวิจัยบ่งชี้ว่าผู้ชายและผู้หญิงมีโครงสร้างและการเชื่อมโยงภายในสมองที่แตกต่างกัน เช่น สมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ตอบสนองต่อการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ และสมองส่วน Limbic cortex ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ ในผู้หญิงจะมีขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีเนื้อสมองส่วนที่เป็นสีขาว (White matter ทำหน้าที่หลักในการส่งสัญญาณประสาท) ที่ใหญ่กว่าผู้ชายถึง 10 เท่า


14. มนุษย์เติบโตในเวลากลางคืนได้เร็วกว่ากลางวัน เนื่องจากสมองส่วนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Pituitary gland จะหลั่ง Growth Hormone ในเวลากลางคืนขณะที่เราหลับ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่จะช่วยให้ร่างกายของเราเจริญเติบโต

 

15. เวลาที่เราได้กลิ่นหนังสือเก่า กลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นอื่น ๆ จะทำให้เราย้อนนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ที่เชื่อมโยงกับกลิ่นนั้น ๆ ได้ นั่นเพราะการรับรู้กลิ่นเชื่อมต่อกับส่วนของสมองที่ควบคุมอารมณ์และความจำ นี่คือเหตุผลว่าทำไมบ่อยครั้งกลิ่นจึงทำให้เราจดจำมันได้ดีกว่า และกลิ่นบางกลิ่นก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายหรืออารมณ์ดีขึ้น

 

16. สีสามารถกระตุุ้นความรู้สึกพิเศษได้ สีที่แตกต่างกันจะส่งสัญญาณไปยังสมองได้แตกต่างกัน ซึ่งในงานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า 62-90% ของความรู้สึกที่เรามีต่อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้นมาจากเรื่องของสี ตัวอย่างเช่น สีเหลืองกระตุ้นศูนย์กลางที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกกังวล สีน้ำเงินสร้างความรู้สึกเชื่อถือและไว้ใจ สีแดงสร้างความกระตือรือร้นหรือเร่งรีบ

 

17. สมองไม่มีตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น มันจึงไม่สามารถรู้สึกเจ็บได้แม้ว่าเราจะใช้เข็มแหลม ๆ จิ้มลงไป

 

18. นักวิจัยค้นพบไวรัสที่ทำให้มนุษย์โง่ลงได้ เรียกว่า "stupidity virus" หรือ "chlorovirus ATCV-1" พวกมันจะเข้าทำลายสมองของมนุษย์ในส่วนที่ควบคุมการทำกิจกรรมต่าง ๆ ความจำ และศูนย์การเรียนรู้ และทำให้ระดับ IQ ลดต่ำลง 7-9 จุด

 

19. เมื่อมนุษย์ลดน้ำหนักหรืออดอาหาร เซลล์ประสาทในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวจะเริ่มกินกันเอง เรียกว่า cannibalism ซึ่งจะทำให้เกิดสัญญาณความหิวเพื่อกระตุ้นให้เรากินอาหาร

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • sanomaru
  • 17 Followers
  • Follow