Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ปลอดภัยจากหินร่วงด้วยเทคโนโลยีใหม่

Posted By EarthMe | 08 ต.ค. 60
5,587 Views

  Favorite

การขับขี่ยานพาหนะอย่างระมัดระวังบนท้องถนนนั้น ทำให้เราเลี่ยงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับทั้งตัวเราและผู้อื่นได้ แต่การขับขี่อย่างระมัดระวังคงไม่สามารถป้องกันภัยจากสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาอย่างหินร่วงจากหน้าผาหรือภูเขาได้ แต่ปัญหาเหล่านี้กำลังจะหายไปหากเราสามารถคาดเดาพฤติกรรมของมันได้ จากเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า rockfall activity index

 

นักวิจัยในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบอัตโนมัติสำหรับวิเคราะห์แนวโน้มของก้อนหิน ที่มักจะร่วงหล่นจากหน้าผาลงมาบนถนนและพื้นที่ด้านล่าง โดยคาดหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถูกเรียกว่า "rockfall activity index"

 

วิธีการใหม่นี้อาศัยความสามารถในการตรวจจับแสงและการกระจายแสงหรือ LiDAR (Light Detection and Range) โดยจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปลดปล่อยพลังงานที่ได้รับมาจากหน้าผาที่ทำการตรวจสอบ ซึ่งสามารถใช้ระบุหน้าผาและถนนที่มีความเสี่ยงสูง จากนั้นจึงดำเนินการจัดลำดับความสำคัญในการเฝ้าระวังและตรวจสอบความลาดชันของหิน

 

LIDAR (Light Detection and Range) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการสำรวจภูมิประเทศ โดยอาศัยการวัดระยะเวลาที่แสงเลเซอร์เดินทางไป-กลับระหว่างตำแหน่งของเซนเซอร์และพื้นโลก จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ จะทำให้ได้โครงสร้างลักษณะภูมิประเทศ เทคโนโลยี LiDAR เริ่มพัฒนามาพร้อม ๆ กับยุคแรกของการสำรวจอวกาศในปี 1970 โดยวัตถุประสงค์แรกคือ การใช้มันในภารกิจ Apollo 15 เพื่อทำแผนที่พื้นผิวดวงจันทร์ LiDAR คือความก้าวหน้าของเลเซอร์ (Laser) ในการวัดระยะความแม่นยำสูง ซึ่งในปัจจุบันเราได้ปรับแต่งมันให้ทำงานร่วมกับระบบ GPS ได้ไม่ยาก และติดตั้งเข้ากับอากาศยานชนิดต่าง ๆ ทั้งเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ เพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติ โดยการบินผ่านพื้นที่ที่ต้องการทำแผนที่

 

ปัญหาหินร่วงนี้เป็นปัญหาระดับโลกและเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในแถบแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา เนื่องด้วยเทือกเขาหลายแห่งแถบนั้นมักจะเกิดการพังทลายของผาสูงเมื่อฝนตกหนัก และถนนหลายพันเส้นก็ล้วนตัดผ่านพื้นที่ดังกล่าว

ภาพ : Shutterstock

 

ระบบการประเมินผลที่ปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างใช้เวลามากในการกำหนดว่า หน้าผานั้น ๆ เป็นอันตรายต่อผู้คน, ยานพาหนะ, ถนนหรือโครงสร้างด้านล่างหรือไม่ ซึ่งถูกพัฒนาโดยกรมขนส่งโอเรกอนมานานกว่า 25 ปีแล้ว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Washington (UW), Oregon State University (OSU) และ University of Alaska Fairbanks กล่าวว่าเทคโนโลยีใหม่นี้ควรปรับปรุงแนวทางดังกล่าวให้ดีขึ้น "ระบบประเมินความเสี่ยงภัยจากดินถล่ม (landslide hazard assessment system) เป็นระบบต้นทุนต่ำแต่มีความละเอียดสูง ระบบ rockfall activity index ของเราทำให้เกิดก้าวสำคัญในการพัฒนาทั้งด้านการป้องกันและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น" Joe Wartman รองศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมของ UW กล่าว

 

วิธีการใหม่นี้สามารถแทนที่วิธีการเดิมที่แต่ละครั้งทำได้เพียงวิเคราะห์พื้นที่หน้าผาพื้นที่เล็ก ๆ รวมไปถึงการหารอยร้าวและความเป็นอันตราย ในขณะที่วิธีการวิเคราะห์แบบ LiDAR สามารถวิเคราะห์พื้นที่ขนาดใหญ่ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ และยังสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์โดยใช้คอมพิวเตอร์ "สิ่งนี้ควรพัฒนาและเพิ่มความรวดเร็วของการประเมินความเสี่ยง รวมไปถึงลดความเสี่ยงต่อคนที่เกี่ยวข้อง และหวังว่าเราจะระบุถึงปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดได้ก่อนที่เราจะประสบกับภัยร้ายแรง" Michael Olsen รองศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยาของ OSU กล่าว

 

ถึงแม้เทคโนโลยีนี้จะพร้อมใช้งานแล้ว แต่เหล่านักวิจัยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของมันต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาจเป็นการใช้โดรนบินเพื่อขยายข้อมูลที่สามารถหาและนำมาใช้ได้

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • EarthMe
  • 1 Followers
  • Follow