สาวสุดเป๊ะอาจคิดว่าการทำให้วันวันหนึ่งมีคุณภาพ จะต้องเริ่มจากตื่นตั้งแต่เช้ามืด จัดเตียงให้เรียบร้อย จากนั้นดื่มน้ำสักแก้ว...อ๊ะ ๆๆ แล้วอย่าเพิ่งเช็กข้อความมือถือเป็นอันขาดนะ จงตั้งเป้าหมายไว้ก่อนว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง ทำเช็กลิสต์ไว้ด้วยยิ่งดี จากนั้นค่อยปลุกตัวเองให้สดชื่นด้วยน้ำผลไม้ปั่นแล้วนั่งสมาธิ 15 นาทีหรือไปออกกำลังกาย

...เฮ้อ...

ฟังดูเหมือนจะดีแหละ แต่ชีวิตที่เคร่งครัดทุกวันแบบนั้นจะดีจริงหรือเปล่าน๊าา ตึงมากเกินไปก็เส้นอาจจะขาดเอาได้ ลองให้มี "ชีทเดย์" หรือวันขี้โกงสักวันเพื่อทำตัวเปื่อย ๆ ปล่อยตามสบายดูบ้างดีกว่า เริ่มต้นตามข้างล่างนี้เลย...

1. ให้พระอาทิตย์เป็นผู้ปลุก

แทนที่จะตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกลองปล่อยให้ตัวเองตื่นด้วยแสงอาทิตย์ดีไหม จะทำให้คุณได้รับพลังงานจากการพักผ่อนอย่างเต็มที่และไม่ต้องรู้สึกง่วงหลังจากนั้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนนอนให้คุณเปิดม่านเอาไว้ และหากคุณเป็นคนตื่นยากอยู่แล้วละก็...ลองตั้งนาฬิกาปลุกในเวลาที่คุณคิดว่าสายเกินไปแล้วไว้ด้วยก็ดี เพราะถ้าเกินกว่านั้นแทนที่จะสดใสอาจกลายเป็นมึนทั้งวันไปแทน

2. นอนเล่นมือถือไปได้เลย (อ้าว...จริงดิ?)

บางคนคิดว่าการเช็กมือถือหลังตื่นนอนเป็นเรื่องที่แย่ เพราะเราควรมีเวลาส่วนตัวบ้างก่อนออกไปเจอโลกภายนอก  ตื่นแล้วสไลด์จอทันทีอาจทำให้เรามีความคิดฟุ้งซ่านตั้งแต่วินาทีแรกที่ตื่นมา แต่มันจริงเสมอไปหรือเปล่า ? ถ้าคิดว่าดีกับตัวเองแล้วทำตามที่คิดก็ดีแหละ แต่หากคุณเป็นคนที่เพลิดเพลินกันการดูความเคลื่อนไหวของเพื่อน หรือข่าวคราวต่าง ๆ จาก Facebook หรือ Instagram ชอบที่ได้รู้ว่าเพื่อน ๆ ของเราทำอะไรไปบ้างในคืนที่ผ่านมา หรือชอบอ่านมุกตลกที่จะทำให้อารมณ์ดีไปตลอดทั้งวัน แบบนั้นการตื่นปุ๊บดูโทรศัพท์ปั๊บมันก็ไม่แย่หรอกใช่มั้ยล่ะ 

3. กินสิ่งที่ใจอยาก มากกว่าที่มีประโยชน์

ในทุก ๆ วัน สาวเจ้าระเบียบผู้เคร่งครัดอาจต้องเสียเวลาไปกับการเตรียมอาหารเช้า ทำน้ำผลไม้ปั่น หรืออาหารเพื่อสุขภาพ แต่มันไม่ผิดหรอกนะที่จะมีวันขี้เกียจบ้าง ทำแค่อะไรง่าย ๆ อาจจะมีเพียงขนมปังปิ้งกับเนยถั่วก็เป็นมื้อคุณภาพได้นะ ลองปรับมุมมอง คิดถึงสิ่งที่คุณ “อยาก” ทาน มากกว่าที่คุณ “ต้อง” ทานสำหรับเช้าวันนี้ กินอะไรตามใจตัวเองดูสักวันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่นา...อาจจะดีต่อกายไม่เท่าวันอื่น แต่ดีต่อใจแน่ ๆ

4. ไม่ยึดติดกับการออกกำลังกายมากเกินไป

ที่ผ่านมาคุณอาจต้องพยายามตื่นเช้าเพื่อจะได้มีเวลาไปออกกำลังกาย หลังจากนั้นก็ต้องรีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปทำธุระอีก เคยบ้างไหมที่คุณออกกำลังได้ไม่เต็มที่เพราะกลัวว่าจะไปไม่ทันประชุมในตอนสิบโมง การทำแบบนั้นอาจทำให้คุณกังวลจนเกินไป ร่างกายแข็งแรงแต่สุขภาพจิตไม่แน่ว่ายังดีหรือเปล่า งั้นอาจให้มีชีทเดย์สักวันดีไหม แบบว่า...วันนี้คิดดี ๆ ซิว่าจริง ๆ แล้วมันเหมาะสำหรับออกกำลังกายหรือเปล่า ถ้ามีธุระที่ต้องทำหลายอย่างอาจจะเปลี่ยนเป็นออกไปเดินเล่นรอบ ๆ บ้านแทน หรือถ้ายังต้องออกกำลังกายอาจลองทำอะไรง่าย ๆ ในบ้านตัวเองดูแทนที่จะไปยิมอย่างเคย

5. ปล่อยกายและใจไปตามสบาย

หลายคนคงเคยอ่านวิธีที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจมาบ้างแล้วละเนอะ ส่วนใหญ่ก็มักมากับแบบแผนปฏิบัติที่แตกต่างกันไป เช่นการเล่นโยคะหรือการนั่งสมาธิ ถ้าทำตามนั้นเป๊ะ ๆ ได้ทุกวันแล้ว วันไหนรู้สึกเบื่อหน่าย...ก็ไม่ต้องฝืนมากหรอก เปลี่ยนไปทำอย่างดูก็ได้ เช่นลองเขียนบันทึก ออกไปรดน้ำต้นไม้บ้าง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้จิตใจเราผ่อนคลายขึ้นเยอะ