หมดไปเท่าไรแล้วกับการรักษารอยฝ้าบนใบหน้า ? ที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือจ่ายไปเท่าไรฝ้าก็ยังไม่หายขาดเสียที แถมยังกังวลสารเคมีรุนแรงที่อาจทำร้ายผิว ตอกย้ำให้ฝ้าหนายิ่งขึ้นไปอีกทำไงดี ?!?!

มาค่ะซิสเรามีทางออกมาบอกต่อ กับสมุนไพรดี๊ดีที่นำมาใช้กับผิวหน้าเพื่อลดเลือนรอยฝ้า กระ และความหมองคล้ำให้หมดไป เผยผิวหน้ากระจ่างใสแบบเห็นผลจริง ปลอดภัย และที่สำคัญหาซื้อง่ายแถมราคาประหยัดม้ากมากมาฝาก

1. หอมใหญ่

ในหอมใหญ่มีกำมะถัน วิตามินซีสูง และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการสร้างเมลานินในชั้นผิว ทำให้รอยฝ้ากระดูจางลงได้ โดยนำหอมใหญ่หั่นเป็นแว่น นำมาวางบนบริเวณที่เป็นฝ้า หรือคั้นแต่น้ำแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รอยฝ้ากระจะดูจางลง

แต่ข้อเสียของหอมใหญ่อาจทำให้สาว ๆ ต้องเสียน้ำตา เพราะกำมะถันทำให้แสบตา ทางที่ดีสาว ๆ ควร หั่นหอมใหญ่เป็นแว่น นำไปแช่น้ำสักครู่ หรือนำน้ำที่คั้นจากหอมใหญ่แช่ตู้เย็นประมาน 10-15 นาทีก่อนนำมาทาหน้า ก็จะช่วยให้กำมะถันเจือจางลง เพื่อลดอาการแสบตาได้

2. ใบบัวบก

ใบบัวบกได้รับการรับรองทางการวิจัยแล้วว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว วิธีการนำมาใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงนำใบบัวบกล้างให้สะอาดแล้วนำมาปั่นให้ละเอียด ใช้สำลีจุ่ม เช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ก่อนเข้านอนทุกคืน จะช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า และกระ เหลือไว้แต่ผิวหน้ากระจ่างใสเท่านั้น

3. หัวไชเท้า

หัวไชเท้ามีสารไกลโคไซด์ที่อุดมไปด้วยกรดแอสคอบิก และวิตามิเอ ที่ได้รับการรับรองจากการวิจัยแล้วพบว่า กรดแอสคอบิกจะตรงเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีในชั้นผิ วจึงช่วยให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าดูจางลง คืนความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสเปล่งปลั่ง เพียงนำหัวไชเท้ามาสับหรือบดหยาบ ๆ พอกทิ้งไว้ 10-15 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน) แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นเช็ดด้วยโทนเนอร์หรือล้างน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน สามารถทำได้วันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งจะเห็นผลเร็วขึ้น

**แต่สูตรนี้อาจไม่เหมาะกับสาวผิวแพ้ง่าย ลองพอกทิ้งไว้ หากมีอาการแสบหน้ามากควรรีบล้างออกทันทีแล้วใช้สมุนไพรตัวอื่น**

4. มะละกอ

มะละกอมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งชื่อ แปปเพ็น มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว เร่งการกำจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมโทรม ลดการเกิดฝ้า กระ และความหมองคล้ำบนใบหน้า ช่วยเผยผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้นได้ เพียงนำมะละกอสุกบดหนึ่งถ้วยครึ่งต่อน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สัปดาห์ละครั้ง สำหรับสูตรนี้จำเป็นต้องใช้ความต่อเนื่อง ทำซ้ำหลายเดือนจึงเห็นผล

5. ว่านหางจระเข้

นำใบแก่ของว่านหางจระเข้สดมาแช่น้ำ 10 นาที จากนั้นนำมาปอกเปลือก ล้างยางออกให้สะอาด จากนั้นจะฝานเป็นแผ่นบาง ๆ หรือบดละเอียดก็ได้ นำมาทาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะช่วยให้ฝ้าหายเร็วขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการแสบไหม้ ระคายเคืองผิวจากการทำร้ายของแดดได้ พร้อมช่วยฟื้นบำรุง คืนความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้ด้วย

พูดได้เต็มปากจริง ๆ ว่าแต่ละสูตรล้วนแล้วแต่ปลอดภัยต่อผิวสาวของเราสุด ๆ วัตถุดิบแต่ละอย่างก็หาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ราคาถูกสุดอีกต่างหาก เพียงแค่เสียเวลาเตรียมนิด ๆ หน่อย ๆ แต่มั่นใจในคุณภาพ เท่านี้ใบหน้าของเราก็จะกลับมาสวยกระจ่างใสไร้ฝ้ากระ และความหมองคล้ำมากวนใจแล้วค่ะ

แต่ไม่ใช่ว่าใช้สมุนไพรพอกหน้าแล้วจะเป็นทางแก้ปัญหาฝ้าได้ 100% สาว ๆ ต้องคอยดูแล้วผิวหน้าของเราเองด้วย ทั้งทาครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่สำคัญ อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แม้ในวันที่ไม่มีแดดก็ต้องทา เพราะแสง UV ไม่เคยปราณีผิวสาวนะตัวเอง เดี๋ยวจะสงสัยว่าทำมั้ย ทำไมพอกหน้าเท่าไร ฝ้ายังหนาเหมือนเดิม แล้วจะหาว่าพี่กลิมฯไม่เตือน