Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

มะคาเดเมีย

Posted By Plookpedia | 01 พ.ค. 60
9,532 Views

  Favorite

มะคาเดเมีย

      เด็ก ๆ ที่เคยรับประทานถั่วลิสงทอด ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล หรือเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดหรือเคลือบน้ำตาลเวลาเคี้ยวจะรู้สึกว่ามีรสชาติมัน ๆ อร่อย เมล็ดมะคาเดเมียก็เช่นกันเคี้ยวแล้วมีรสชาติมัน ๆ แต่อร่อยกว่าและราคาแพงกว่ามาก มะคาเดเมียเป็นไม้ยืนต้นมีอายุยืนยาวถึง ๑๐๐ ปี และต้องปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น บนดอยสูง ๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย หรือดอยแม่จอนหลวงและดอยขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่

 

มะเคเดเมีย
มะคาเดเมีย

 

      มะคาเดเมียเมื่อผลแก่จัดจะร่วงหล่นจากต้นจึงต้องเก็บจากบนพื้นดินบริเวณใต้ต้น ผลมะคาเดเมียมีเปลือกสีเขียวไม่แข็งมาก กะเทาะเปลือกโดยใช้มีดหรือแกะด้วยมือเมื่อแกะเปลือกออกแล้วจะเห็นลูกกลม ๆ คล้ายลูกหิน มีกะลาสีน้ำตาลซึ่งแข็งมากถ้าจะเอาเนื้อในที่เรารับประทานก็ต้องกะเทาะกะลาออกซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องกะเทาะกะลา เมื่อกะเทาะกะลาออกแล้วจะได้เนื้อในสีขาว ๆ นำมาคลุกเกลือแล้วอบด้วยความร้อนประมาณ ๗๐ องศาเซลเซียสใช้ระยะเวลาประมาณ ๗๒ ชั่วโมงจึงรับประทานได้  ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้คัดเลือกพันธุ์ดี ๓ พันธุ์ สำหรับแนะนำให้เกษตรกรนำไปปลูกเป็นการค้า ได้แก่ พันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ พันธุ์เชียงใหม่ ๗๐๐ และพันธุ์เชียงใหม่ ๑๐๐๐  ผลิตภัณฑ์หลักของมะคาเดเมีย คือ เมล็ดมะคาเดเมียอบโรยเกลือเล็กน้อย บรรจุในกระป๋อง ถุงพลาสติกหรือถุงอะลูมินัมฟอยล์ และเมล็ดมะคาเดเมียเคลือบด้วยช็อกโกแลตหรือใช้เป็นส่วนผสมของคุกกี้

 

 

 

      มะคาเดเมียเป็นพืชที่มีอายุยืนยาวถึง ๑๐๐ ปี เนื้อไม้มีประโยชน์ในด้านใช้สอยโดยนำมาทำเป็นไม้ซุงหรือไม้สำหรับทำเครื่องเรือนตกแต่งบ้านหากมีอายุตั้งแต่ ๓๐ ปีขึ้นไป มะคาเดเมียเป็นพืชเคี้ยวมันเช่นเดียวกับมะม่วงหิมพานต์แต่ราคาแพงกว่ากันมาก พันธุ์มะคาเดเมียค้นพบครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลียและแพร่หลายไปยังสหรัฐอเมริกาโดยปลูกกันมากในรัฐฮาวายนับเป็นสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน

 

มะคาเดเมีย

 

พันธุ์มะคาเดเมียในประเทศไทย

ในประเทศไทยกรมวิชาการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พัฒนาพันธุ์มะคาเดเมียและคัดเลือกพันธุ์เพื่อแนะนำให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้าในปัจจุบัน ๓ พันธุ์ คือ

๑. พันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ (HAES 660)

      เป็นพันธุ์เบา ออกดอกดก ใช้ปลูกร่วมกับพันธุ์อื่นเพื่อช่วยผสมเกสรให้แก่พันธุ์อื่นในอัตราส่วนพันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ จำนวน ๑ แถว ต่อพันธุ์อื่น ๓ แถว มะคาเดเมียพันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง ๗๐๐ เมตรขึ้นไป ถ้าเป็นพื้นที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง ๔๐๐-๖๐๐ เมตร ก็ต้องอยู่ในแนวเส้นละติจูด ๑๙.๘ องศาเหนือขึ้นไป ได้แก่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ข้อเสียคือผลมีขนาดเล็กมีจำนวนเมล็ด ๑๗๕-๑๙๐ เมล็ดต่อกิโลกรัม ผลิตผลเมล็ดทั้งกะลาจำนวน ๑๓-๒๐ กิโลกรัมต่อต้น (อายุ ๑๔ ปี) ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพพื้นที่

 

มะคาเดเมีย
มะคาเดเมียพันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ พันธุ์เชียงใหม่ ๗๐๐ และพันธุ์เชียงใหม่ ๑๐๐๐ เป็นพันธุ์ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก

 

๒. พันธุ์เชียงใหม่ ๗๐๐ (HAES 741)

      ผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่น้ำหนักเนื้อในสูงกว่าพันธุ์เชียงใหม่ ๔๐๐ และพันธุ์เชียงใหม่ ๑๐๐๐ เมล็ดเนื้อในสีขาวสวยเป็นที่ดึงดูดตา เจริญเติบโตดี ให้ผลิตผลสูง และมีคุณภาพดีในพื้นที่สูงจากระดับ ทะเลปานกลาง ๗๐๐ เมตรขึ้นไป ผลิตผลเมล็ดทั้งกะลา จำนวน ๑๕-๓๐ กิโลกรัมต่อต้น (อายุ ๑๔ ปี)

๓. พันธุ์เชียงใหม่ ๑๐๐๐ (HAES 508)

      ผลมีขนาดปานกลาง เมล็ดเนื้อในมีคุณภาพยอดเยี่ยม คือ รูปทรงและสีสวย เจริญเติบโตดี และให้ผลิตผลสูง ในสภาพอากาศหนาวเย็น ที่ระดับความสูง ๑,๐๐๐ เมตรขึ้นไป เป็นพันธุ์ทนแล้งแต่ไม่ทนร้อน ถ้าปลูกในพื้นที่ต่ำกว่า ๗๐๐ เมตรลงมา จะเกิดอาการแพ้ความร้อน คือ ใบเหลืองซีด ขอบใบไหม้ ให้ผลิตผลเมล็ดทั้งกะลา จำนวน ๒๕-๔๐ กิโลกรัมต่อต้น (อายุ ๑๔ ปี) ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และสภาพพื้นที่

การปลูกและดูแลรักษา

      ระยะปลูกระหว่างต้น-แถว ๘x๑๐ เมตร และปลูกพืชอื่นแซมระหว่างแถวในช่วง ๑๐-๑๒ ปีแรก เช่น กาแฟ สตรอว์เบอร์รี ผักต่า ๆ ขนาดหลุมปลูก ๗๕x๗๕x๗๕ เซนติเมตร หรือ ๑x๑x๑ เมตร ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินรองก้นหลุมด้วยหินฟอสเฟต หลุมละ ๑-๒ กิโลกรัม และใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น เศษซากพืชแห้ง แกลบหรือปุ๋ยหมัก คลุกเคล้ากับดิน

 

มะคาเดเมีย
แปลงปลูกมะคาเดเมียสามารถปลูกพืชอื่นแซมระหว่างแถวได้ เช่น กาแฟ สตรอว์เบอร์รี่ ผักต่าง ๆ เป็นรายได้เสริม

 

การใส่ปุ๋ย
      ใช้ปุ๋ยสูตร ๑๕-๑๕-๑๕ หรือ ๑๒-๑๒-๑๗-๒  และปุ๋ยยูเรีย โดยปีที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ ใส่ปุ๋ย ๑๕-๑๕-๑๕ ต้นละ ๔๐๐, ๘๐๐, ๑,๒๐๐ และ ๑,๘๐๐ กรัม และผสมยูเรีย  ๔๕, ๙๐, ๑๓๕ และ ๑๘๐ กรัม ตามลำดับ ปีที่ ๕ เป็นต้นไปใช้ปุ๋ยสูตร ๑๒-๑๒-๑๗-๒ อัตราต้นละ ๒.๕ กิโลกรัมและเพิ่มขึ้นปีละ ๕๐๐-๖๐๐ กรัม และผสมยูเรียเพิ่มร้อยละ ๑๐ และโพแทสเซียมร้อยละ ๑๕ ของปุ๋ยสูตรทุกปี ปุ๋ยแบ่งใส่ปีละ ๔ ครั้ง คือ ระยะ ๓ เดือนก่อนออกดอก (เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน) ระยะเริ่มติดผลขนาดเล็ก ระยะเริ่มฤดูฝน และระยะปลายฤดูฝน

 

มะคาเดเมีย
ช่อดอก

 

การให้น้ำ
      ควรให้น้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งในระยะเริ่มติดผลไม่ควรให้ขาดน้ำในระยะผลกำลังพัฒนา

 

มะคาเดเมีย
การให้น้ำแบบน้ำหยด


การตัดแต่งกิ่ง
      มะคาเดเมียมีการตัดแต่งกิ่งน้อยมากเพราะจะออกดอกภายในทรงพุ่มเป็นส่วนใหญ่และเมื่อมีอายุประมาณ ๒ ปี จะออกดอกจากกิ่งแขนงเล็ก ๆ การตัดแต่งกิ่งจะทำในระยะแรกที่เริ่มปลูก คือ ๖-๑๒ เดือนแรก ต้องบังคับให้มีกิ่งหรือต้นประธานเพียง ๑ กิ่ง เมื่อกิ่งประธานสูงเกิน ๘๐-๑๐๐ เซนติเมตร และยังไม่แตกกิ่งข้างต้องเด็ดยอดกิ่งประธานออกเพื่อให้กิ่งข้างแตกอย่างน้อย ๒-๓ กิ่ง และเลือกกิ่งที่ตั้งตรงสำหรับใช้เป็นกิ่งประธานต่อไปหลังติดผลจะตัดเฉพาะกิ่งที่เป็นโรคและแน่นเกินไป สำหรับการขยายพันธุ์ใช้วิธีทาบกิ่ง ติดตา เสียบยอด โดยใช้ต้นตอจากการเพาะเมล็ด

 

มะคาเดเมีย
การขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง
มะคาเดเมีย
กิ่งพันธุ์ที่ได้จากการทาบกิ่งสำหรับใช้ขยายพันธุ์

 

การเก็บเกี่ยวและผลิตผล

      หากปลูกมะคาเดเมียบนที่สูงจะออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมและกรกฎาคมถึงสิงหาคมอายุตั้งแต่ดอกบานถึงผลแก่ประมาณ ๖-๙ เดือน ขึ้นกับบริเวณที่ปลูก ยิ่งสูงยิ่งออกดอกช้า ผลมะคาเดเมียเมื่อแก่จะร่วงลงพื้น หลังเก็บผลต้องรีบกะเทาะเปลือกเขียวข้างนอกออกเพราะถ้าผลกองรวมซ้อนกันมาก ๆ จะเกิดความร้อนทำให้เนื้อในมีคุณภาพไม่ดี การเก็บเมล็ดหลังกะเทาะเปลือกนอกสีเขียวแล้วควรนำไปผึ่งในที่ที่มีลมพัดผ่านสะดวกหรือวางบนตะแกรงเป็นชั้น ๆ เพื่อลดความชื้นในขณะรอส่งจำหน่ายหรือก่อนเข้าตู้ที่จะกะเทาะเปลือกแข็ง หลังจากปลูก ๔-๕ ปี เริ่มให้ผลิตผลปีแรกจำนวน ๑-๓ กิโลกรัมต่อต้นและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี  อายุ ๑๐ ปีขึ้นไปให้ผลิตผลจำนวน ๒๐-๓๐ กิโลกรัมต่อต้น อายุ ๒๐ ปีขึ้นไปให้ผลิตผลจำนวน ๔๐-๖๐ กิโลกรัมต่อต้น อายุที่ให้ผลิต ผลยาวนานไม่น้อยกว่า ๕๐ ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา การจำหน่ายผลิตผลอาจจำหน่ายเป็นเมล็ดทั้งกะลาที่มีความชื้นประมาณ ๑๐-๑๕ เปอร์เซ็นต์ หรือกะเทาะกะลาออกและจำหน่ายเนื้อในดิบที่มีความชื้นประมาณ ๑.๕-๓ เปอร์เซ็นต์

 

มะคาเดเมีย
การเก็บผลมะคาเดเมียที่แก่และร่วงลงพื้น

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow