Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เลี้ยงลูกด้วยความสามัคคี สิ่งดีดีที่พ่อแม่ควรใส่ใจ

Posted By สุภาพรรณ ศรีสุข | 01 ก.ย. 60
4,258 Views

  Favorite

พ่อแม่หลาย ๆ คู่มีความคิดเห็นและมุมมองในการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน ทำให้มีปัญหาในการเลี้ยงดูและฝึกฝนลูก ในบางบ้านพ่อเข้มงวด แต่แม่ปล่อยปละละเลย ทำให้ฝึกสอนลูกไม่ได้ผลและตามมาด้วยความขัดแย้งกันของพ่อแม่

 

ที่สำคัญพฤติกรรมของลูกก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะลูก ๆ ก็มักจะเลือกไปทางฝ่ายที่ตามใจเขามากกว่าฝ่ายที่เข้มงวด ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการเลี้ยงลูกก็คือ การหาจุดกึ่งกลางที่ลงตัวให้กับการเลี้ยงลูกในแบบของ 'เรา' ไม่ใช่แค่แบบของ “เธอ” หรือ ของ “ฉัน”      

 

ซึ่งในการหาจุดกึ่งกลางของการเลี้ยงดูลูกที่เหมาะสมนั้น อาจต้องใช้เวลาในช่วงแรก เพราะตามพื้นฐานแล้วพ่อและแม่ก็มาจากครอบครัวที่ต่างกัน และได้รับการเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน ดังนั้นในช่วงแรก พ่อและแม่จะต้องคุยกันในเรื่องของเป้าหมายหลักในการเลี้ยงดูลูกก่อนว่า พ่อและแม่ต้องการอะไร  เช่น ต้องการให้ลูกช่วยเหลือตนเองได้ มีความรับผิดชอบ เป็นคนตรงเวลา เป็นต้น

 

และเมื่อได้ประเด็นหลักซึ่งเป็นเป้าหมายของพฤติกรรมที่ต้องการฝึกลูกแล้ว ในการลงรายละเอียดของการฝึกฝนนั้น พ่อและแม่อาจจะมีวิธีที่แตกต่างกันได้ เพราะสุดท้ายในเป้าหมายของพฤติกรรมที่ต้องการนั้นพ่อกับแม่ได้มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันแล้ว

 

ภาพ : Shutterstock

 

ข้อดีของการเลี้ยงลูกที่มีแนวทางชัดเจน

1. ลูกจะมีอารมณ์ที่มั่นคง

ในวัยเด็กนั้นพ่อแม่เป็นหลักสำคัญของลูกในทุก ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ ดังนั้นเด็กที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่อยู่กันด้วยความรัก ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ขัดแย้งหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็จะเป็นเด็กที่มีพื้นฐานทางอารมณ์ที่มั่นคง และโตขึ้นเป็นคนที่มีวุฒิภาวะ มีจิตใจที่เข้มแข้ง ไม่อ่อนไหว ต่อปัญหารอบตัวง่าย ๆ

 

2. ลูกมีการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดี

การที่พ่อแม่มีแนวทางในการฝึกร่วมกันที่ชัดเจน ก็จะทำให้การฝึกสอนมีความสม่ำเสมอ ไม่สับสน ทำให้ลูกมีความเข้าใจในเรื่องที่เรียนรู้ได้เร็วขึ้น การวางเงื่อนไขที่ซับซ้อนและขัดแย้งกันของพ่อแม่ในบางครั้ง อาจส่งผลให้การเรียนรู้ของลูกไม่มีประสิทธิภาพ เพราะขาดความเข้าใจและขาดเป้าหมายที่ชัดเจน

 

3. ลูกมีระเบียบวินัย

เมื่อพ่อและแม่มีการตั้งกฎระเบียบร่วมกันที่ชัดเจน ก็จะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ข้อปฏิบัตินั้นได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อการปฏิบัติเกิดขึ้นอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง ก็จะทำให้ลูกเกิดการซึมซับและปฏิบัติสิ่งเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัยในอนาคต

 

4. ลูกได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่และการปฏิบัติตนที่เหมาะสม

ในการฝึกฝนลูกนั้น สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่การสั่งสอน แต่เป็นการกระทำของพ่อแม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่ทำจะเป็นภาพที่ชัดเจนและหยั่งรากลึกลงในสมองของลูก ดังนั้นการที่พ่อและแม่ได้ทำหน้าที่ของการเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ย่อมเป็นต้นแบบที่ดีที่ลูกจะนำไปปฏิบัติตนในสังคมได้อย่างเหมาะสม

 

เพราะ “ลูก” คือดวงใจของพ่อแม่ และ “พ่อแม่” ก็คือดวงใจของลูกเช่นกัน ดังนั้นจงเชื่อเถอะว่า หากเราเลี้ยงลูกด้วยความรัก และความใส่ใจอย่างเต็มที่แล้ว ลูกจะรู้ได้ถึงความรักนั้น และความรักที่ลูกได้จะเป็นพลังส่งให้เขาได้เรียนรู้และปฏิบัติตนไปในแนวทางที่ถูกต้อง ที่สำคัญหากการเลี้ยงดูในบางจุดที่ได้ตกลงร่วมกันเกิดข้อผิดพลาด พ่อแม่อย่า “คาดหวัง” หรือ “กล่าวโทษ” ซึ่งกันและกัน แต่จงให้กำลังใจและจับมือกันให้แน่นขึ้นเพื่อดูแล “ดวงใจ” น้อย ๆ ดวงนี้ให้ดีที่สุด 

 

เพราะเขาคือ “ลูกของเรา” ไม่ใช่แค่ “ลูกของเธอ” หรือ “ลูกของฉัน”

 

 

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • สุภาพรรณ ศรีสุข
  • 4 Followers
  • Follow