ในเวลาที่อยากปรนนิบัติผิวหน้าไปพร้อม ๆ กับผ่อนคลายความเครียด อะไรจะดีไปกว่าการแปะชีทมาสกลงบนใบหน้า แล้วปล่อยให้เนื้อเอสเซนซ์ซึมสู่ผิวหนัง พร้อมกันนั้นก็อาจหลับไปพร้อมกลิ่นหอมละมุนและสัมผัสชุ่มชื้นบนผิว แต่จะเลือกมาส์กยี่ห้อไหนดีล่ะ ?

เดินเล่น Watson หันซ้ายแลขวา เห็นมาส์ก Esfolio กำลังจัดโปรฯ อ่าน ๆ ที่ซองแล้วน่าสนใจ เขาบอกว่าเป็นสูตรใหม่ เอสเซนซ์เข้มข้นขึ้นและกลิ่นอ่อนโยน ราคาก็สบายกระเป๋าด้วยนะ จะช้าอยู่ทำไมเหมาหมดทุกแบบมาลองเลยดีกว่า

วิธีใช้มาส์กคือ ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นฉีกซองเอาแผ่นชีทออกมาแปะลงบนใบหน้า ไล่จากส่วนบนลงล่างเพื่อไล่ฟองอากาศ จากนั้นทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วลอกออก บนใบหน้าจะยังเหลือเอสเซนซ์อยู่ ก็ใช้นิ้วตบ ืๆ เบา ๆ เพื่อให้ซึมเข้าไป สะดวกง่ายดายมาก ๆ เลย

1. มาส์กว่านหางจระเข้

มาเริ่มอันแรกกัน มาส์กว่านหางจระเข้ วันนี้เพิ่งไปออกแดดมาค่ะ แสบร้อนผิวมาก เลยคิดว่าสูตรนี้น่าจะเหมาะกับสภาพผิวหน้าตอนนี้ที่ต้องการอะไรเย็น ๆ มาช่วยปลอบประโลมผิว เห็นเขาว่ามีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ อย่างที่เรารู้กันว่าเจ้าว่านหางจระเข้นี้มีสรรพคุณช่วยลดอาการแสบผิวดีนักล่ะ แถมยังมีสารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย

พอแกะห่อมาส์กออกมา อย่างแรกเลยที่ประทับใจคือกลิ่นค่ะ ละมุนมาก หอมสดชื่น ยิ่งถ้าเอามาส์กไปแช่เย็นแล้วเอามาแปะบนหน้ายิ่งสดชื่นเข้าไปอีก รู้สึกเลยว่าใบหน้าได้รับการเยียวยา แต่แผ่นมาส์กหนาไปนิดนึง ถ้าบางกว่านี้น่าจะดีค่ะ

2. มาส์กน้ำผึ้ง

มาส์กตัวที่สองที่ลองคือ มาส์กน้ำผึ้ง สูตรนี้มีมอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นเช่นกัน เป็นมาส์กที่หอมมากกก หอมเหมือนเวลาจะกินน้ำผึ้งมะนาวเลย ตัวนี้เขาเคลมไว้ว่ามีสารสกัดจากน้ำผึ้ง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ มีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาผิว พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว เท่าที่มาส์กดูผิวก็สดชื่นและชุ่มชื้นดีนะคะ รู้สึกว่าหน้ากระจ่างใสขึ้นนิดนึงด้วยนะ

3. มาส์กนม

อย่างที่สามเป็นมาสก์นม กลิ่นดีอีกเช่นเคย ที่ซองเขาบอกว่ามีโปรตีนจากน้ำนม ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว พร้อมเผยผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้น เมื่อวานช่วงเย็นอยู่ว่าง ๆ เลยจัดมาส์กมาแปะไว้ที่หน้าซะหน่อย ตอนลอกมาส์กออกหน้าก็นุ่มชุ่มชื้นดีนะคะ แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ หลังจากนอนแล้วตื่นมา หน้าก็ยังนุ่มอยู่ เด้งดึ๋ง ๆ เลยล่ะค่ะ เห็นผลดีขนาดนี้สงสัยต้องขึ้นแท่นลูกรักแล้วมั้งเนี่ย

4. มาส์กสเนล

อันที่สี่ มาส์กสเนล เขาบอกว่าเป็นสูตรสกัดจากเมือกหอยทาก ช่วยฟื้นฟูผิวที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะต่าง ๆ ให้ความชุ่มชื้น กระจ่างใส และช่วยให้ผิวแข็งแรงด้วย ลองอันนี้แล้วรู้สึกว่ากลิ่นแปลก ๆ บอกไม่ถูก จะว่าฉุนก็ไม่ใช่ จะหอมก็ไม่เชิง แต่ดีหน่อยที่เป็นกลิ่นอ่อน ๆ เลยพอมาส์กได้จนครบ 15 นาทีค่ะ ที่แตกต่างจากมาส์ก 3 ตัวบนก็คือ เนื้อเอสเซนส์เขาจะลื่น ๆ หน่อย เหมือนมีส่วนผสมของเมือกหอยทากมาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นค่ะ

5. มาส์กคอลลาเจน

อันถัดมา มาสก์คอลลาเจน อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าสูตรนี้ต้องช่วยเพิ่มความกระจ่างใสแน่นอน  วันนี้ต้องแต่งหน้าแต่งตัวออกจากบ้าน เลยหยิบมามาส์กตอนเช้าเสียเลย เขาเคลมไว้ว่าสูตรนี้ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวแข็งแรงเหมือนกัน แต่จะไปเน้นทางกักเก็บความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่น 

หลังจากมาส์ก หน้าก็กระจ่างใสขึ้นระดับหนึ่งนะคะ ดูรูขุมขนเล็กลงด้วย (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ) ชอบค่ะ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากมาส์กหน้าก่อนแต่งหน้าจริง ๆ

6. มาส์กไข่แดง

มาส์กตัวนี้ลองอันท้าย ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าจะคาวหรือเปล่า เห็นเป็นไข่ ๆ เขาบอกว่านอกจากสารสกัดจากไข่แดงแล้วยังมีวิตามินจากผลไม้อีกด้วยนะ เพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม ฟื้นฟูจากแห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น ทำให้หน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ แต่พอใช้จริงแล้วไม่มีกลิ่นคาวอะไรเลย แถมยังหอมดีอีกด้วย มาส์กเสร็จหน้าก็นุ่มชุ่มชื้น ประทับใจสุด ๆ ค่ะ

7. มาส์กชาเขียว

สูตรที่จะขาดไม่ได้เลยคือ มาส์กชาเขียว นั่นเอง ด้วยสรรพคุณมากมายจากชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัย และปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองเนื่องมาจากมลภาวะต่าง ๆ ทำให้ขาดสูตรนี้ไปไม่ได้เลยล่ะค่ะ หลังจากมาส์กก็สมราคาจริง ๆ เพราะรู้สึกว่าผิวผ่อนคลายขึ้น และด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาเขียว ถ้ามาส์กแล้วได้นอนพักสักหน่อยจะยิ่งดีค่ะ เพราะผิวหน้าของเราจะได้รับการเติมพลังอย่างเต็มเปี่ยมเลย

8. มาส์กไข่มุก

นี่ยังคิดไม่ออกเลยว่ากลิ่นจะออกมาเป็นแบบไหน พอแกะซองออกมาก็เป็นกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกเบาสบาย ได้มาส์กหน้าเย็น ๆ คู่กับการพักผ่อนดูทีวีอยู่กับบ้านนี่ฟินสุด ๆ เลยค่ะ ขอบอกว่าประทับใจมาส์กสูตรนี้ที่สุดแล้ว เพราะผิวหน้าหลังมาส์กเสร็จดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้ากระจ่างใสดูสุขภาพดี แถมยังนุ่มชุ่มชื้นที่สุดด้วยค่ะ นี่ถ้ามีโปรอีกต้องไปจัดมาหลาย ๆ ซองซะแล้ว

แผ่นชีทที่เอามาทำมาส์กของ Esfolio ทำมาจากเส้นใยเรยอง 100% ซึ่งมันไม่ได้ยืด ๆ ได้หรอกนะ แต่แนบสนิทกับหน้ามาก ๆ เวลามาส์ก และที่ขอบมาส์กมีรอยบากไว้ก็ทำให้กระชับติดแน่นกับหน้ามาก ๆ เลย ลุกขึ้นทำนู่นทำนี่ได้อยู่ แต่ติดปัญหาเดียวคือแผ่นค่อนข้างหน้าค่ะ ทำให้ต้องคอยสงสัยว่ามาส์กแนบหน้าดีหรือยัง และด้วยความที่เขามีเอสเซนส์ในซองค่อนข้างมาก เวลามาส์กหน้าเอสเซนส์ก็มักไหลย้อยมาที่คอ พาให้แผ่นมาส์กร่นลงมาเรื่อย ๆ ด้วยล่ะค่ะ นี่เลยแก้ปัญหาด้วยการแปะแผ่นมาส์กให้สูงกว่าปกติเล็กน้อย เวลานั่งทำโน่นนี่มาส์กก็จะค่อย ๆ เลื่อนลงมาอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับหน้าเอง

แต่ถ้าจะให้ดี มาส์กปุ๊บนอนงีบปั๊บ คือที่สุดแล้วค่ะ ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างผ่อนคลาย จะช่วยให้ผิวหน้าสุขภาพดีขึ้นอีกนะคะ อ้อ ! แล้วมาส์กของ Esfolio นี่ดีอีกอย่าง คือ สามารถมาส์กได้ทุกวัน เลยล่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องมาส์กวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2 วันอีกต่อไป วันไหนอยากให้ผิวสวยแบบไหนก็หยิบมามาส์กได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อใบหน้าใด ๆ เพราะเขาออกแบบมาให้เป็น Everyday Mask Sheet นั่นเองค่ะ

จริง ๆ แล้วมาส์กของ Esfolio มีทั้งหมด 9 สูตรนะคะ ที่ยังขาดอยู่คือสูตรเถ้าภูเขาไฟ ซึ่งขายดีมาก ๆ หมดก่อนเพื่อนเลย ไว้เดี๋ยวถ้าไปตามหาสูตรเถ้าภูเขาไฟมาได้ จะมาบอกนะว่าดีไหม และมีสรรพคุณยังไงบ้าง แต่แค่ 8 สูตรก็มาส์กกันเหนื่อยแล้วล่ะ ขอไปพักแปบนึงนะ