Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ธนูอาบยาพิษช่วยชีวิตคน

Posted By Plook Creator | 31 ก.ค. 60
9,607 Views

  Favorite

ขึ้นชื่อว่าพิษ ทุกคนคงต่างจะขยาด อยากหลีกหนีให้ห่าง แต่บรรพบุรุษของเรากลับใช้ประโยชน์จากพิษที่ได้จากพืชและสัตว์เพื่อเป็นอาวุธมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พิษจากกบมาอาบลูกศรของชนเผ่าต่าง ๆ ในป่าแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้ หรือจะเป็นการใช้พิษจากพืชเพื่อวางกับดักหรือวางยาเบื่อ ยกตัวอย่างเช่น ต้นยางน่อง (Upas) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Moraceae ลำต้นมีพิษต่อหัวใจและระบบประสาท พรานในประเทศไทยสมัยก่อนก็ใช้พิษของต้นยางน่องประกอบเข้ากับอาวุธเพื่อล่าสัตว์ แน่นอนว่าเนื้อส่วนที่โดนพิษจะไม่สามารถกินได้ นอกจากนี้พิษของต้นยางน่องยังเคยถูกใช้เพื่อประหารนักโทษในประเทศมาเลเซียด้วย หรือพิษจากต้นสามใบตาย (มะลิเหลือง)​ ซึ่งชาวเขาในภาคเหนือใช้วางยาเบื่อในกับดักล่าสัตว์

หากเรามองประโยชน์ของพิษจากธรรมชาติที่เราเคยนำมาประยุกต์ใช้แล้ว จะพบว่ามีพิษบางชนิดที่สามารถนำมาใช้ช่วยชีวิตคนได้ด้วย

 

อัญมณีแห่งป่าฝน คือ หนึ่งในตัวอย่างที่หลายคนอาจจะต้องแปลกใจกับความสามารถของมัน อัญมณีแห่งป่าฝน ไม่ใช่หินสี แต่เป็นกบ Poison Dart Frog ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ พวกมันมีสีสันสดใสซึ่งสีที่สดใสของมันนี้เองเป็นสัญญาณเตือนให้สัตว์นักล่าต้องหนีห่างจากมัน Poison Dart Frog มีขนาดเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตร ชนพื้นเมืองใช้พิษของมันอาบลูกศรของธนูเพื่อใช้ล่าสัตว์หรือป้องกันตัว พิษของกบชนิดนี้ไม่ทำอันตรายต่อคนหากคุณสัมผัสมัน แต่หากพิษมันเข้าสู่กระแสเลือดก็จะเข้าทำลายระบบประสาทอย่างรวดเร็ว ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หยุดหายใจ ไม่สามารถขยับตัวได้ และตายในที่สุด

ภาพ : Shutterstock

 

อย่างที่บอกว่าพิษมันมีประโยชน์มากกว่าการฆ่าศัตรูหรือการล่าเพื่อหาอาหารประทังชีวิต เพราะจริง ๆ แล้วเราใช้ประโยชน์จากพิษของกบชนิดนี้มานานแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่เข้าใจวิธีการทำงานของพิษ และผลกระทบที่แน่ชัดต่อร่างกายของเราเมื่อได้รับพิษก็ตาม โดยเริ่มต้นขึ้นมากว่า 500 ปีก่อน มีการใช้พิษนี้ช่วยในการผ่าตัด มันนับว่าเป็นสารเคมีรุ่นบุกเบิกที่มีส่วนช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด และเมื่อ 200 ปีก่อนหน้านี้ จึงมีการทดลองอย่างจริงจังถึงการใช้พิษและผลกระทบต่อกล้ามเนื้อที่ถูกพิษ โดยมีการทดลองฉีดพิษเข้าสู่กล้ามเนื้อของลา 3 ตัว ลาตัวแรกตายในทันที ตัวที่สองมีการผูกเงื่อนขันชะเนาะบริเวณขาเพื่อป้องกันการไหลเวียนของเลือด ซึ่งทำให้มันมีชีวิตยาวกว่าตัวแรกเล็กน้อย ส่วนตัวที่สามมีการเจาะลำตัวและปั๊มอากาศเข้าสู่ปอดจนกระทั่งผลของพิษสลายไป ผลก็คือมันมีชีวิตรอดเพียงตัวเดียว แม้ว่าการทดลองในสมัยก่อนนี้จะดูโหดร้ายแต่มันก็ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้มากขึ้นว่าพิษของเจ้ากบ Poison Dart Frog ทำงานอย่างไรต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่ถูกพิษ

 

การทดลองเพื่อความเข้าใจการทำงานของพิษยังดำเนินต่อไปในรูปแบบการลองผิดลองถูก จนกระทั่ง ปี 1935 เมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถสกัดสารประกอบที่มีเหมือน ๆ กันในพิษหลากหลายชนิด ที่หลายวัฒนธรรม หลายชนเผ่า หลายเชื้อชาติใช้กัน จนทำให้รู้ว่าสารที่ออกฤทธิ์และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้นคือ อัลคาลอยด์ (​Alkaloid) ซึ่งมีฤทธิ์กับร่างกายของเราเหมือนกับสารอื่น ๆ ที่เรารู้จักอย่างมอร์ฟีน คาเฟอีน เป็นต้น แต่โมเลกุลของมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหารได้ ต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายผ่านการฉีดเข้าเส้นเลือดเท่านั้น ดังนั้น พิษเหล่านี้จึงไม่เป็นอันตรายหากคุณกิน ถ้าระบบทางเดินอาหารของคุณตั้งแต่ริมฝีปากลงไปนั้นไม่มีแผลเปิด และนั่นเป็นสาเหตุที่กบพิษและพิษจากพืชทั้งหลายเองให้คุณประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ มันทำให้แพทย์สามารถควบคุมกล้ามเนื้อของผู้ป่วยหรือคนไข้ที่กำลังเข้าผ่าตัดให้อยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวในขณะผ่าตัดได้ รวมถึงยังเปิดความคิดเรื่องการพลิกแพลงใช้สารอินทรีย์ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติ หรือที่บรรพบุรุษของเราเคยใช้ประโยชน์จากมันมาเพื่อใช้ในการรักษาหรือมาใช้ในทางการแพทย์ได้มากขึ้น แม้แต่การพลิกแพลงใช้สารที่เคยคิดว่าเป็นโทษต่อร่างกายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างการใช้พิษจากสัตว์มีพิษ เช่น งูหรือผึ้ง เพื่อการรักษาโรคก็แพร่หลายและหลากหลายมากขึ้นด้วย

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow