Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

4 พฤติกรรมดูแลผิวที่ต้องหยุดเมื่ออายุเข้าวัย 35 ถ้าไม่อยากให้หน้าเหี่ยวก่อนวัย !

Posted By Glimmergirl | 27 ก.ค. 60
11,677 Views

  Favorite

จะว่าไปสภาพผิวหน้าของเราก็พัฒนาไปตามวัยนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าอยากให้ผิวหน้าสวยแลดูอ่อนกว่าวัยจนใคร ๆ เดาอายุไม่ถูกก็จำเป็นต้องอาศัยความใส่ใจให้มากขึ้นตามไปด้วย ว่าแต่วิธีดูแลผิวของเราตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจะยังคงใช้ได้ตลอดไปหรือไม่นะ เชื่อว่าสาว ๆ วัยกลาง 30 หลายคนคงข้องใจ

 

ภาพ : Pixabay

 

มาหาคำตอบกันค่ะ ถ้าใครเริ่มสังเกตว่าสภาพผิวของตัวเองเริ่มเปลี่ยนเมื่อเข้าวัยเลข 30 หรือยังคงใช้วิธีเดิม ๆ สมัยยังเป็นวัยรุ่นอยู่ดูแลผิวหน้าก็ต้องร้องเตือนดัง ๆ ว่า "หยุ้ดดดดด ค่ะ หยุดได้แล้ว" เนื่องมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างโดยเฉพาะฮอร์โมน หลายคนจะสังเกตว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า หรือวิธีการปรนนิบัติผิวแบบเดิม ๆ เริ่มไม่ทำให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างที่เคยไปเสียแล้ว มาค่ะสาว ๆ เรามี 4 พฤติกรรมดูแลผิวที่สาว ๆ ต้องเลิกทำเมื่อเข้าวัยกลาง 30 และคำแนะนำถึงทางออกของปัญหาผิวจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้ามาฝากกันทำอย่างไรบ้างไปดูกัน

 

1. รับมือกับปัญหาสิวด้วยวิธีเดียวกับเมื่อตอนวัยรุ่น

ภาพ : Pixabay

 

สมัยยังเป็นวัยรุ่น สาว ๆ อาจรับมือกับปัญหาสิวบุกด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกรดซาลิไซลิค ซึ่งช่วยควบคุมและกำจัดความมันส่วนเกินให้สาว ๆ วัย 20 ได้เป็นอย่างดี แต่สิวของสาววัย 30 นั้นจะต่างกับสิวหัวขาว ๆ สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น เพราะจะเกิดจากปัญหาผิวหนังในชั้นที่ลึกกว่า และมีปัญหาการอับเสบของสิวที่มากกว่าแค่เกิดจากการอุดตันของความมันส่วนเกินบนใบหน้า ผิวหน้าของสาววัยกลาง 30 มีแนวโน้มจะแห้งและแพ้ได้ง่ายกว่าเดิม เป็นไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีฤทธิ์รุนแรงอาจทำให้ผิวหน้าที่แห้งอยู่แล้ว เกิดการระคายเคืองและลอกเป็นขุยได้

 

ภาพ : Pinterest

 

ข้อควรปฏิบัติ

เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่อ่อนโยนขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่ดีพอ ๆ กันอย่างผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ ซัลเฟอร์ และจำไว้ว่าต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยสเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นกว่าเมื่อสมัยสาว ๆ หรือหากใครใช้เจลวิตามิน C อยู่ตั้งแต่ตอนวัยรุ่นซึ่งให้ความชุ่มชื้นไม่เพียงพอสำหรับผิววัย 30 แล้ว ได้เวลาเปลี่ยนมาใช้เซรั่มวิตามิน C ที่ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์คือหน้าใสเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสารอาหารผิวที่ต้องเพิ่มขึ้นไปตามวัยด้วยค่ะ

 

 

2. ทิ้งเครื่องสำอางและคราบฝุ่นไว้บนใบหน้าแล้วเข้านอน

ภาพ : Pinterest

 

สมัยสาว ๆ หลายคนอาจล้างแค่รองพื้นออกจากหน้าแต่ไม่ล้างมาสคาร่าออกให้หมด แหม ก็มาสคาร่าของวันนี้เก็บไว้เป็นอายไลน์เนอร์ของวันต่อไปก็ได้ เก๋ ๆ ประหยัดเวลาจะตาย จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ วัยไหนก็ไม่ควรเข้านอนพร้อมเครื่องสำอางนะคะ แต่พอเข้าวัยกลาง 30 ดวงตาจะเป็นส่วนแรกที่ฟ้องอายุของเรา หากไม่ดูแลปรนติบัติอย่างดี ความลับเรื่องอายุของเราจะถูกแฉด้วยริ้วรอยรอบดวงตานี่แหละ แถมคราบเครื่องสำอางรอบ ๆ ดวงตาที่ล้างไม่หมด ยังอาจทำให้สาว ๆ ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการตาบวม ตาแดง ระคายเคืองตาได้ ที่สำคัญเครื่องสำอางที่เราไม่ได้ล้างหรือล้างออกไม่หมดก่อนเข้านอน อาจทำให้ต่อมต่าง ๆ รอบดวงตารวมไปถึงขนตาอุดตันนำไปสู่อาการระคายเคืองตาได้เช่นกัน

 

ภาพ : Pinterest

 

ข้อควรปฏิบัติ

ห้ามถูแรง ๆ บริเวณรอบดวงตา เลิกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิคเพราะอาจทำให้แสบตา สาว ๆ จึงควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและไม่ต้องถูแรง ๆ หลังจากทำความสะอาดรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนแล้ว ควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาก่อนเข้านอน เพื่อให้ผิวรอบดวงตาดูอิ่มน้ำ กระจ่างใสดูอ่อนกว่าวัยได้

 

 

3. ไม่ระวังเรื่องน้ำหนัก

ภาพ : Pinterest

 

ช่วยวัยรุ่นคุณอาจไม่เคยต้องกังวลเรื่องไซส์เสื้อผ้า หรือน้ำหนักตัว เพราะน้ำหนักขึ้นเร็วลงเร็วไม่เคยมีปัญหา แต่พอเข้าวัยกลาง 30 ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของเราจะลดลง ทำให้การกระจายตัวของไขมันในชั้นผิวหนังทำได้ยากขึ้น รวมทั้งบริเวณใบหน้า ซึ่งส่งผลให้สาว ๆ ส่วนใหญ่สูญเสียความนุ่มเด้งบริเวณแก้ม และการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักที่รวดเร็วจะส่งผลให้เกิดร่องแก้ม ผิวฝ่อ และแก้มหย่อนคล้อยได้

 

ภาพ : Pixabay

ข้อควรปฏิบัติ

สาว ๆ ควรรักษารูปร่างและดูแลน้ำหนักของตัวเองให้คงที่อยู่เสมอ โดยเฉลี่ยแล้วหากน้ำหนักตัวขึ้น ลงไม่เกิน 1-3 กิโลกรัม จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า หากน้ำหนักขึ้นหรือลงจากเดิมเกิน 10 -20 กิโลกรัม มีปัญหาแน่นอน

 

 

4. ลืมทาครีมกันแดด

ภาพ : Pixabay

 

สาว ๆ หลายคนจะใส่ใจทาครีมกันแดดเฉพาะเวลาที่จะออกไปเดินกลางแจ้งช่วงแดดจัด ๆ เท่านั้น ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะปกป้องผิวให้พ้นจากการทำร้ายของแสงแดง แต่ถ้าปล่อยไว้เลยเถิดจนถึงช่วงวัยกลาง 30 เนี่ย พูดเลยว่าเข้าขั้นสาหัสแล้วค่ะ เพราะผิวที่ผ่านการทำร้ายจากแสงแดดมาอย่างโชกโชนจะทำให้ผิวหน้าของคุณมีรอยตีนกา ผิวหย่อนคล้อย และจุดดำที่เกิดการทำร้ายของแสงแดด ซึ่งต้องแก้ไขด้วยการทำเลเซอร์และมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง เพื่อปกป้องผิวของสาว ๆ ให้ปลอดภัยจึงควรทาครีมกันแดดหลังขั้นตอนการบำรุงผิวหน้าทุกเช้า 

 

ภาพ : Pinterest

ข้อควรปฏิบัติ

ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกเช้า และทาบริเวณผิวส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่ต้องถูกแดด เช่น มือ คอ หน้าอก ไหล่ และแผ่นหลัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาจต้องสัมผัสกับแสงแดดมากกว่าใบหน้าเสียอีก นอกจากนี้ยังมีการวิจัยจากสภาบันผิวหนังและศัลยกรรมด้านผิวหนัง ออกมายืนยันให้สาว ๆ หันมาใส่ใจทาครีมกันแดดเพิ่มขึ้นว่า การทาครีมกันแดดนอกจากช่วยปกป้องผิวให้พ้นจากรังสี UV ที่ทำร้ายผิวให้ดูแก่กว่าวัยแล้ว ยังช่วยลดการเกิดเม็ดสีบนชั้นผิว และลดรอยเหยี่ยวย่นบนร่างกายส่วนที่ทาครีมกันแดดได้ด้วย

 

สาววัย 35 อัพคนไหนยังมีพฤติกรรมทำร้ายผิวแบบนี้อยู่ก็ต้องเลิกแล้วล่ะ หากอยากมีสุขภาพผิวหน้าที่ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอก็ต้องใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ยังไงก็ต้องบอกว่าการดูแลตัวเองคือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และช่วยให้สาว ๆ มีความสุขขึ้นแน่นอนค่ะ ว่าแล้วก็อย่าลืมหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันให้มากขึ้น จะได้ดูสาวและสวยกันทั่วประเทศไทยไปเลย

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Glimmergirl
  • 5 Followers
  • Follow