เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ใส่คอนแทคเลนส์ได้ไม่จำเป็นต้องสายตาสั้น แต่ความจริงแล้วเรารู้จักวิธีใช้เจ้าไอเท็มที่ต้องสัมผัสกับอวัยวะสำคัญอย่างดวงตาของเราดีพอแล้วหรือยัง

สาว ๆ หลายคนอาจใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำจนกลายเป็นความเคยชิน ไม่ว่าจะเพราะสายตาสั้น อยากเปลี่ยนสีลูกนัยน์ตาด้วยคอนแทคเลนส์สี ๆ อยากให้ดวงตาดูกลมโตเปลี่ยนลุคให้เป็นสาวแบ๊วด้วย Big eyes ใส่เบื่อแล้วทิ้ง หาซื้อเปลี่ยนใหม่แสนง่ายสะดวกสบายไปหมด หรือแค่ใส่แล้วถอดออกมาแช่น้ำยาก็จบ แต่บางครั้งแค่การดูแลความสะอาดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับวิธีทำความสะอาด น้ำยาแช่เลนส์ รวมไปถึงผลข้างเคียงและอันตรายจากการใส่คอนแทคเลนส์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน มีอะไรบ้างมาดูกัน

1. น้ำเกลือใช้ล้างแผลได้ แต่ใช้แช่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ !

เพราะในน้ำเกลือล้างแผลหรือ Normal Saline ไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และล้างคราบโปรตีนบนคอนแทคเลนส์ ทำได้แค่เพียงล้างคราบไบโอฟิล์มที่เกาะเลนส์เท่านั้น จึงไม่ควรใช้น้ำเกลือแช่คอนแทคเลนส์ นอกจากจะไม่ช่วยฆ่าเชื้อโรคแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียอีกต่างหาก ต้องแช่เลนส์ในน้ำยาสำหรับแช่คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ ซึ่งมีสารกำจัดคราบโปรตีนและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หมดจด ปลอดภัยกว่า แต่ใช้น้ำเกลือล้างคอนแทคเลนส์ก่อนนำมาใส่ตาได้ หากกลัวว่าดวงตาอาจแพ้สารบางอย่างในน้ำยาแช่

2. ตัวอักษร B.C. บนฉลากคอนแทคเลนส์คืออะไร

B.C. ย่อมาจาก Base Curve หมายถึง ความโค้งของกระจกตา การใส่คอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธีควรคำนึกถึงขนาด B.C. ด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อความสบายตาขณะใส่คอนแทคเลนส์ โดยปรกติแล้วร้านแว่นส่วนใหญ่มีเครื่องวัดความโค้งของกระจกตา หากรู้สึกว่าคอนแทคเลนส์ที่ใส่อยู่บีบสายตามากเกินไป หรือเลนส์เลื่อนบ่อย ใส่ไม่สบายตา ก็ขอวัดค่า B.C. ก่อนซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่ได้

3. ห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น

เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ควรซื้อคอนแทคเลนส์ที่ไม่มีเครื่องหมาย อ.ย. กำกับ เพราะอาจไม่ได้มาตรฐาน และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้

4. เมื่อแกะคอนแทคเลนส์ออกมาใส่แล้วไม่ควรใส่สลับข้างกัน

การสลับข้างคอนแทคเลนส์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจเกิดความเสี่ยงนำเชื้อโรคจากตาข้างหนึ่งไปสู่อีกข้าง ทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้นได้ ดังนั้นไม่ควรใส่สลับข้างซ้าย-ขวานะคะ

5. น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ก็มีวันหมดอายุ

น้ำยาคอนแทคเลนส์เมื่อเปิดขวดแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน เช่นเดียวกับยาหยอดตา เพราะอาจทำให้น้ำยาเสื่อมสภาพ และกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค อาจทำให้ตาติดเชื้อได้ ดังนั้นถ้าเกิน 3 เดือนแล้วยังใช้ไม่หมดก็โยนทิ้งได้เลย

6. ใส่คอนแทคเลนส์ ก่อนหยอดตาต้องอ่านเอกสารกำกับการใช้ยาให้ละเอียดทุกครั้ง

ก่อนใช้ยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียม ควรมั่นใจว่าใช้คู่กับคอนแทคเลนส์ได้ ควรอ่านเอกสารกำกับการใช้ให้ดี เพราะบางชนิดไม่ควรหยอดตาขณะใส่คอนแทคเลนส์ และบางชนิดมีข้อแนะนำว่าห้ามหยอดเกินวันละกี่หยดด้วย

7. ใส่คอนแทคเลนส์นาน ทำให้เกิดเส้นเลือดฝอยวิ่งเข้าหาตาดำ

โดยปรกติตาดำจะใสไม่จำเป็นต้องมีเส้นเลือดเพื่อนำออกซิเจนมาหล่อเลี้ยง แต่การใส่คอนแทคเลนส์นาน ๆ อาจทำให้ดวงตาขาดออกซิเจน จึงต้องสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นเพื่อลำเลียงออกซิเจน หากใส่คอนแทคเลนส์มานาน อาจทำให้เส้นเลือดฝอยในตาขาวมากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อเส้นเลือดขาววิ่งไปสู่ตาดำจะเป็นอันตราย ส่งผลทำให้ตาบอดได้ หากสังเกตเห็นเส้นเลือดฝอยวิ่งเข้าใกล้ตาดำควรรีบไปพบจักษุแพทย์

8. ยาหยอดตาประเภทที่ทำให้เส้นเลือดในตาขาวจางลงนั้นไม่อาจทำให้หายถาวรได้

เมื่อเส้นเลือดฝอยในตามีเพิ่มมากขึ้น ควรหยุดใช้คอนแทคเลนส์แล้วรีบไปพบจักษุแพทย์ให้เร็วที่สุด

9. คอนแทคเลนส์ที่เขียนว่าใส่นอนได้ก็ไม่ควรใส่นอน

ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะนอนหลับ เพราะจะให้ตาขาดออกซิเจน เป็นอันตรายอาจทำให้ตาติดเชื้อถึงขั้นตาบอดได้ แม้เลนส์ที่ใส่จะบอกว่าเป็นแบบที่ใส่นอนได้ก็ควรถอดออกก่อนนอน 

10. คอนแทคเลนส์ถ้าไม่อยู่ในลูกตาก็ต้องอยู่ในน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์เท่านั้น

ไม่ควรล้างเลนส์ด้วยน้ำประปา น้ำลาย หรือน้ำอื่น ๆ เพราะแบคทีเรียในน้ำอาจทำให้ดวงตาเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ คลอรีนในน้ำประปาก็จะทำให้เลนส์กระด้างอีกด้วย

11. ใส่คอนแทคเลนส์ระยะเวลายาวนานทำให้กระจกตาบางลงได้

การใส่คอนแทคเลนส์มาก ๆ หรือใช้ต่อเนื่องมายาวนานจะทำให้กระจกตาบางลง เมื่อกระจกตาบางลงทำให้ตาแห้งง่ายขึ้น

มีหลายข้อเลยนะเนี่ยที่ยังไม่รู้มาก่อน บางข้อก็อันตรายเสี่ยงต่อการตาบอดเสียเหลือเกิน รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมหันมาใช้คอนแทคเลนส์และน้ำยาแช่ให้ถูกวิธี เพื่อถนอมรักษาดวงตาคู่สวยให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ดีกว่านะคะ