Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ประวัติ ถิ่นฐานดั้งเดิม และการแพร่กระจายของข้าวฟ่าง

Posted By Plookpedia | 18 มิ.ย. 60
1,962 Views

  Favorite

ประวัติ ถิ่นฐานดั้งเดิม และการแพร่กระจายของข้าวฟ่าง

 

        ประวัติความเป็นมา และถิ่นฐานดั้งเดิมของข้าวฟ่างเป็นเรื่องที่ไม่ทราบกันแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ พอจะสันนิษฐานได้ว่า ข้าวฟ่างน่าจะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา
โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีป มนุษย์คงจะรู้จักข้าวฟ่างมาไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ ปี
เพราะมีรายงานจากหลักฐานทางโบราณคดีว่ามีผู้นำข้าวฟ่างจากภาคตะวันออก ของทวีปแอฟริกาไปปลูกในอินเดีย เมื่อประมาณ ๑,๗๒๕ ปีก่อนคริสต์ศตวรรษ แต่แหล่งกำเนิดและจุดวิวัฒนาการของ
ข้าวฟ่าง จากพันธุ์ป่าดั้งเดิมมาเป็นพันธุ์เพาะปลูกนั้น สันนิษฐานว่าคงจะเริ่มมาจากแถบประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งในแถบนั้นมีพืชจำพวกข้าวฟ่างกระจายตัวอยู่อย่างมากมายหลายชนิด ชาวเอธิโอเปียรู้จักข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์มาตั้งแต่ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ ปีก่อนคริสต์ศตวรรษ ได้เพาะปลูกพืชทั้ง ๒ ชนิดนี้ เพื่อใช้เป็นอาหารเรื่อยมา ขณะเดียวกันก็คงพัฒนา และคัดเลือกข้าวฟ่าง ซึ่งเป็นพันธุ์ป่าดั้งเดิมอยู่บริเวณนั้น ให้เป็นพันธุ์สำหรับเพาะปลูก จนได้พันธุ์เพาะปลูก ซึ่งใช้ปลูกกันแพร่หลายต่อ ๆ มาแล้วแพร่กระจาย ไปยังประเทศต่าง ๆ ในทุกภาคของทวีปแอฟริกา ตามการอพยพของ                ชนพื้นเมือง

        การแพร่กระจายของข้าวฟ่างจากถิ่นเดิม ในทวีปแอฟริกาไปยังส่วนต่างๆ ของโลกนั้น เข้าใจว่า เกิดจากชาวเรือที่เดินทาง ระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง และอินเดีย เป็นผู้นำไป มีหลักฐานแสดงว่า ข้าวฟ่างแพร่ไปยังอินเดีย และยุโรปในราว ๆ ต้นคริสต์ศตวรรษ แล้วแพร่ขยายต่อไปยังทางตอนใต้ของทวีปเอเชีย สันนิษฐานว่า ข้าวฟ่างแพร่ไปถึงประเทศจีน ประมาณคริสต์ ศตวรรษที่ ๑๓ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีหลักฐาน หรือรายงานเกี่ยวกับข้าวฟ่างในประเทศจีนเลย ถึงแม้จะมีผู้กล่าวว่า ข้าวฟ่างไปถึงประเทศจีนก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม ข้าวฟ่างที่แพร่กระจายไปยังประเทศจีน อาจจะไปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออินเดียก็ได้ ข้าวฟ่างเหล่านี้ในเวลาต่อมา ได้พัฒนากลายมาเป็นข้าวฟ่างเกาเหลียง ชนิดต่างๆ ของจีน แมนจูเรีย และญี่ปุ่น

 

ข้าวฟ่างถูกนำจากแอฟริกาไปยุโรปมากขึ้น ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ และ ๑๘ โดยพวก
แอฟริกันที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นทาส นำติดตัวไป แม้จะมีการปลูกกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่พันธุ์ที่นำเข้าไปในระยะนั้น เป็นพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีความสำคัญนัก

 

ข้าวฟ่างพันธุ์เฮการีเมล็ดสีขาว

 

 

        การแพร่กระจายของข้าวฟ่างเข้าไปสู่สหรัฐอเมริกา เริ่มระหว่าง พ.ศ. ๒๓๙๖-๒๔๐๐ โดยมีผู้นำข้าวฟ่างหวานจากฝรั่งเศส และแอฟริกาใต้เข้าไปปลูก เพื่อทำน้ำตาล และเป็นพืชอาหารสัตว์
ซึ่งข้าวฟ่างบางพันธุ์ที่นำเข้าไปในช่วงเวลานั้น ได้กลายมาเป็น ข้าวฟ่างหวานที่นิยมปลูกกันในสมัยแรก ๆ สำหรับการปลูกข้าวฟ่างเมล็ดในสหรัฐอเมริกานั้น เริ่มมีขึ้น หลังจากที่มีการนำเอาข้าวฟ่างพันธุ์ดูร์รา (durra) จากอียิปต์ พันธุ์คาเฟอร์ (kafir) จากแอฟริกาใต้ พันธุ์ไมโล (milo) จาก โคลัมเบีย
และพันธุ์แชลลู (shallu) จากอินเดีย เข้าไปทดลองปลูกใน พ.ศ. ๒๔๑๗, ๒๔๑๙, ๒๔๒๒ และ ๒๔๓๓ ตามลำดับ จากนั้นได้มีการ นำเอาพันธุ์ข้าวฟ่างที่สำคัญอื่น ๆ จาก แอฟริกาใต้ อียิปต์ และซูดาน เข้าไปทดลองปลูกอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง คือ ในระหว่างพ.ศ. ๒๔๔๘- ๒๔๕๑ พันธุ์ที่นำเข้าไปในช่วงนั้นมีทั้งข้าวฟ่าง พันธุ์เฮการี คาเฟอร์ และเฟเทอริทา (feterita)
อยู่ด้วย พันธุ์เหล่านี้ต่อมา ได้พัฒนาเป็นข้าวฟ่างเมล็ด ที่ปลูกกันอยู่ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน นอกจาก นี้ ใน พ.ศ. ๒๔๓๓ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตร สหรัฐฯ ยังได้นำข้าวฟ่างพวกหญ้าซูดาน ซึ่งเป็นพืชอาหารสัตว์ที่สำคัญของสหรัฐฯอยู่ในขณะนี้
จากประเทศซูดานเข้าไปปลูกอีกด้วย ส่วนข้าวฟ่างไม้กวาด ซึ่งเกิดจากการคัดเลือกพันธุ์ให้ได้พันธุ์ที่มีก้านช่อดอกยาวและแข็ง ปลูกกันมากในยุโรป ในราวคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ นั้น
เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) นักวิทยาศาสตร์ ลือนามชาวอเมริกัน ได้เป็นผู้นำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา

 

เบนจามิน แฟรงคลิน ผู้นำข้าวฟ่างไม้กวาด เข้าไปเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา

 

แม้ว่าข้าวฟ่างจะแพร่ไปถึงอาร์เจนตินา ปารากวัย และออสเตรเลีย ในระยะแรกที่มีการตั้งถิ่นฐานกันนั้น การปลูกข้าวฟ่างในประเทศเหล่านั้น ก็เพิ่งจะมีความสำคัญในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ นี้ เมื่อได้มีการนำเอาข้าวฟ่างพันธุ์ใหม่ ๆ จากสหรัฐอเมริกาเข้าไปปลูก 

ข้าวฟ่างเมล็ดที่ปลูกกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ประกอบไปด้วย ข้าวฟ่างพันธุ์ดั้งเดิมหลายพันธุ์ และพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ได้จากการผสมพันธุ์ขึ้นมาอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้รวมไปถึงพวกข้าวฟ่างหวานด้วย

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow