Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

Posted By Plookpedia | 12 มิ.ย. 60
1,712 Views

  Favorite

 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. ๒๕๐๙ โดยมีรัฐบาลถือหุ้นร้อยละ ๙๙ เป็นสถาบันการเงินที่มีหน้าที่ในการจัดหาเงินทุนจากแหล่งต่างๆ ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อนำมาให้กู้แก่เกษตรกร และสถาบันเกษตรกร สำหรับใช้เป็นทุนในการดำเนินงาน เพื่อพัฒนา และปรับปรุงการเกษตรในด้านทรัพย์สิน วัสดุ และอุปกรณ์การเกษตรที่เกษตรกรยังขาดแคลน เพื่อเพิ่มพูนผลิตผลทางการเกษตรให้มากขึ้น อันเป็นการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกร และช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าเกษตรอันเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ธนาคารมีหลักพิจารณาให้กู้แก่เกษตรกรรายใด ในจำนวนเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับจากการใช้เงินทุน (เงินกู้ยืมจากธนาคาร) ที่คุ้ม และมีความเสี่ยง ในระดับที่ยอมรับได้ เมื่อเกษตรกรมีรายได้ ก็จะนำมาคืนธนาคารตามเงื่อนไขในสัญญากู้ยืม เพื่อธนาคารจะได้นำไปให้ลูกค้าอื่นกู้ต่อไป

 

เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง

 

การดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แบ่งเป็น ๒ ด้าน เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ คือ 

๑. ด้านการให้เงินกู้ 
ตามข้อบังคับของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารจะให้กู้แก่บุคคล ๓ ประเภท คือ เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และกลุ่มเกษตรกร

 

เกษตรกรที่ได้รับเงินกู้เป็นทุนดำเนินการพัฒนา และปรับปรุงการเกษตร จะสามารถเพิ่มพูนผลิตผลได้มากขึ้น

 

๑. ให้กู้แก่เกษตรกร 
หมายถึง ให้กู้แก่เกษตรกรรายบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตร หรือกลุ่มเกษตรกร แบ่งเป็น ๓ ประเภท ตามระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ และวัตถุประสงค์ของการ
ใช้เงินกู้ คือ

 

สมาชิกกลุ่มเกษตรกร รับปุ๋ยจากศูนย์บริการกลุ่มเกษตรกร ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุน
จากสินเชื่อเพื่อการเกษตร จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 

ก. เงินกู้ระยะสั้น ให้เกษตรกรกู้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทางการเกษตรในฤดูกาลหนึ่งๆ เช่น ซื้อปุ๋ย จ่ายค่าเช่า ค่าเมล็ดพันธุ์พืช และมีกำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ภายในเวลาไม่เกิน ๑๒ เดือน 

 

สมาชิกกลุ่มเกษตรกร รับปุ๋ยจากศูนย์บริการกลุ่มเกษตรกร ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุน
จากสินเชื่อเพื่อการเกษตร จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 

ข. เงินกู้ระยะปานกลาง ให้เกษตรกรกู้ เพื่อการลงทุนในทรัพย์สินทางการเกษตร มีระยะเวลาการชำระคืนภายใน ๓ - ๕ ปี

ค. เงินกู้ระยะยาว ให้เกษตรกรกู้เพื่อวัตถุประสงค์ ๒ อย่าง คือ เกษตรกรกู้ไปเพื่อชำระหนี้เดิม และเพื่อการลงทุนระยะยาว ทางด้านการเกษตร ซึ่งมีระยะเวลาการชำระคืนมากกว่า ๕ ปี

 

๒. ให้กู้แก่สหกรณ์การเกษตร 
สหกรณ์การเกษตรเป็นสถาบันที่จัดตั้ง โดยเกษตรกร เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านการเกษตร เป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองของเกษตรกรผู้เป็นสมาชิกในการขายพืชผลทางการเกษตร ให้ได้ราคาที่ยุติธรรม และเพื่อการซื้อวัสดุที่จำเป็น สำหรับการเกษตรได้ ในราคาที่ถูกกว่าราคาขายปลีกในท้องตลาด ธนาคารมีส่วนช่วยสนับสนุนและส่งเสริม ให้สหกรณ์การเกษตรบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น โดยเป็นแหล่งเงินกู้ให้กับสหกรณ์การเกษตร ซึ่งสหกรณ์การเกษตรสามารถกู้ได้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ดังต่อไปนี้
 

ก. เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อขายผลิตผลทางการเกษตร
ข. เป็นทุนให้กู้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตร
ค. เป็นทุนหมุนเวียนในการจัดหาอุปกรณ์การเกษตรมาจำหน่ายแก่สมาชิก
ง. สำหรับลงทุนระยะยาวในทรัพย์สินประจำสำหรับแปรรูป และขายผลิตผลทางการเกษตร
 
 
เกษตรกรชาวไร่ส้ม

 

 

๓. ให้กู้แก่กลุ่มเกษตรกร
กลุ่มเกษตรกรเป็นสถาบัน ซึ่งเกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเกษตรประเภทเดียวกันในท้องถิ่นเดียวกัน จัดตั้งขึ้นตามหลักการ เช่นเดียวกับสหกรณ์การเกษตร แตกต่างกันที่ ขอบเขตของกลุ่มอาชีพ และพื้นที่ดำเนินงาน คือ กลุ่มเกษตรกร รวมกลุ่มเฉพาะผู้มีอาชีพเดียวกัน เช่น กลุ่มทำนา กลุ่มเลี้ยงไก่ และกำหนดเขตตำบลเป็นพื้นที่ดำเนินงาน ส่วนสหกรณ์การเกษตร รวมกลุ่มเกษตรกรหลาย ๆ อาชีพเข้าด้วยกัน และมักจะกำหนดเขตอำเภอเป็นพื้นที่ดำเนินงาน การดำเนินงานของกลุ่ม ตลอดจน ประเภทของการให้กู้เงินของธนาคารต่อกลุ่ม
มีลักษณะคล้ายคลึงกับสหกรณ์การเกษตร

 

เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ตรวจสอบ และคัดแยกประเภทข้าวเปลือก
ตามคุณภาพ ก่อนรับจำนำข้าวเปลือก จากเกษตรกร

 

 

๒. ด้านแหล่งที่มาของเงินทุนของธนาคาร 
การดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งให้ได้กำไรสูงสุด แต่ก็มีความจำเป็น ที่จะต้องดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ให้เกิดมีกำไรพอสมควร เงินทุนของธนาคารที่ได้มา เพื่อการดำเนินงาน ส่วนใหญ่มาจากเงินกู้ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่ธนาคารต้องเสียดอกเบี้ย เช่น เงินกู้จากธนาคารโลก เงินกู้จากรัฐบาลต่างประเทศ เงินกู้จากธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น นอกจากแหล่งเงินกู้ดังกล่าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ก็มีแหล่งเงินทุนเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ คือ เงินกองทุน เงินฝากจากประชาชน และเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์ เป็นผลมาจากนโยบายของทางราชการ ที่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์มีบทบาท ในการให้สินเชื่อเพื่อการเกษตร แก่เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรมากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดเป้าหมายการขยายสินเชื่อเพื่อการเกษตร ให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละธนาคารปฏิบัติ เทียบกับยอดเงินฝากของธนาคารพาณิชย์นั้น ๆ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องให้สินเชื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น สำหรับธนาคารพาณิชย์ใด ที่ไม่สามารถให้สินเชื่อเพื่อการเกษตรตามเป้าหมาย ก็ให้นำจำนวน ที่เท่ากับจำนวนที่ขาดจากเป้าหมาย ฝากไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้เป็นผู้ให้สินเชื่อกับเกษตรกรต่อไป

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow