แม้ใคร ๆ จะบอกว่า "อายุเป็นเพียงตัวเลข" หรือ "30 จิ๊บจ๊อย" เพราะความสวยและแซ่บของสาววัยเลข 3 ยังไม่สร่างจากสาระร่างเราไปง่าย ๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านศัลยกรรมความสวยความงามก็ก้าวหน้าไปไกล ช่วยให้ยังคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น ฉีดนั่นนิด เติมนี่หน่อย ก็สวยเป๊ะ เต่งตึงได้เหมือนวัย 20 ต้น ๆ บวกกับตัวช่วยอย่าง เมคอัพ การแต่งตัว และเลือกทรงผมที่เข้ากับตัวเองยิ่งทำให้เดาอายุได้ยากขึ้นไปอีก

แต่เมื่อขึ้นเลข 3 แล้วจะตามใจปากเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป อาหารที่เราเคยกินอย่างไม่ยั้งคิด อาจกลายเป็นอาวุธกลับมาทำร้ายให้เราดูแก่กว่าวัย เกิดการสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน ต้นเหตุของการย้วย หย่อน และยาน ทำให้รูปร่างไม่เป๊ะ ปังเหมือนเดิม เผลอ ๆ จะเป็นตัวการสร้างริ้วรอยบนใบหน้า และเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้อีกต่างหาก อาหาร 10 ชนิดที่พอขึ้นเลข 3 ปุ๊บก็ต้องหลีกให้ไกลปั๊บมีอะไรบ้างมาเช็คกัน

1. โปรตีน และธัญพืชอัดแท่ง

สมัยสาว ๆ เราอาจเลือกกินโปรตีน หรือ ธัญพืชอัดแท่งเป็นอาหารเช้าเพราะง่าย สะดวก และประหยัดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารจำพวกนี้ไม่ได้ให้โปรตีนและคุณค่าทางอาหารที่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นยังประกอบไปด้วยกลีเซอรีน สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เวย์โปรตีน น้ำตาลฟรุกโตส และน้ำตาลเด็กซ์โตส ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายทั้งสิ้น อาหารเช้าสำหรับสาว ๆ วัย 30 ขึ้นไป จึงควรเป็นอาหารที่เป็นอาหารจริง ๆ มีสารอาหารครบถ้วน อย่างผักสด ผลไม้สด และธัญพืชเต็มเมล็ดที่จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเริ่มต้นวันใหม่ และคงความสมดุลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์

 2. ขนมปังขาวและเบเกิ้ล

ข่าวร้ายคืออาหารทุกอย่างที่ทำจากแป้งขัดสีเป็นสิ่งต้องห้ามทั้งสิ้น ในขนมปังขาวและเบเกิ้ลมีปริมาณน้ำตาล และกลูโคสที่สูงลิบลิ่ว ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการขัดขวางกระบวนการสร้างคอลลาเจนและโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ทางที่ดีจึงควรเปลี่ยนมารับประทานขนมปังและเบเกิ้ลที่ทำจากแป้งไม่ขัดสี และธัญพืชเต็มเมล็ด เพื่อเป็นการควบคุมน้ำหนักและรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ให้สร้างคอลลาเจนรักษาความสมดุลของกระบวนการการสร้างเซลล์ใหม่ต่าง ๆ ไปในตัว

3. คุกกี้สอดไส้ครีม

ข้อนี้อาจทำให้สาว ๆ ใจสลาย เพราะของโปรดของใครหลาย ๆ คนอย่างคุกกี้สอดไส้ครีม กลับกลายเป็นความอร่อยที่มาพร้อมฝันร้ายของคู่หูดูโออย่างแคลอรี่และไขมัน สมัยที่อายุของเรายังน้อยกว่านี้ การหาข้ออ้างกินคุกกี้สอดไส้ครีมสักชิ้นสองชิ้นอาจไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เพราะแค่เข้ายิมไม่กี่นาทีก็เผาผลาญแคลอรี่ออกไปได้อย่างหมดจด แต่พอขึ้นวัย 30 การเผาผลาญแคลอรี่เพียงน้อยนิดอาจต้องทุ่มเทเรี่ยวแรงมากมาย กว่าน้ำหนักจะลงได้แต่ละขีดก็ยากเย็นกว่าที่คิดไว้เยอะ ทางที่ดีควรปล่อยให้คุกกี้สอดไส้ครีมเป็นของว่างสำหรับเด็กน้อยไปดูจะเป็นทางออกที่เข้าท่าที่สุด

4. ป๊อบคอร์นรสเนย

ชอบรสสัมผัสเวลาที่เนยหอมชุ่มจากข้าวโพดคั่วละลายช้า ๆ ในปากของเราใช่ไหม แต่รู้ไหมว่าร่างกายเราอาจไม่ชอบเท่าไร แม้ว่าของว่างอย่างข้าวโพดคั่วรสธรรมชาติถือว่ามีประโชยน์ต่อร่างกาย แต่การเติมเครื่องปรุงรสชาติและไขมันจากเนยลงไปในข้าวโพดคั่ว ทำให้มีไขมันมากเกินความต้องการของร่างกาย เมื่อรับประทานมากเกินไป ไขมันจากเนยอาจไปเกาะหลอดเลือดแดงขัดขวางระบบการไหลเวียนโลหิต ทำให้เส้นเลือดตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจในที่สุด

5. มาการีน

เนยเทียมอย่างมาการีนมักมีปริมานไขมันเติมไนโตรเจนหรือไขมันทรานส์จำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจและไขมันอุดตันเส้นเลือด ยิ่งไปกว่านั้นไขมันทรานส์ยังเป็นตัวการเร่งให้ผิวแก่แซงวัย และเพิ่มความไวต่อรังสีอัลตร้าไวโอเลตในเซลล์ผิวอีกด้วย

6. เนื้อสัตว์แปรรูป

เนื้อสัตว์แปรรูปอย่าง เบคอน แฮม ซาลามี่ และไส้กรอก เป็นตัวการทำให้ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้สารไนเตรทและเกลือไนไทรทที่มีมากมายในเนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้ ยังกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายเกิดภาวะเครียดที่เกิดจากการออกซิเดชั่น ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ปรกติ และยับยั้งการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณไม่เต่งตึง ไม่สดใส เกิดริ้วรอยก่อนวัย สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบรับประทานเบคอนและแฮมเป็นอาหารเช้าแต่กลัวแก่แซงวัยเพื่อน ๆ ลองหันมาเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปชนิดปลอดไนเตรทดูน่าจะเป็นทางออกที่ดีนะคะ

7. ของว่าง Sugar-Free

ของว่างหรือขนมขบเคี้ยวชนิดปราศจากน้ำตาล ไม่ได้มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักแต่อย่างใด หากเผลอกินมากเกินไปเพราะเห็นเพียงคำว่า Sugar-Free ก็อาจทำให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะในขนมเหล่านี้มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือน้ำตาลเทียม นอกจากไม่ทำให้ผอมแล้วยังไปรบกวนการทำงานของตับ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปรกติ การหลีกเลี่ยงการบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจึงเป็นการฟื้นฟูอวัยวะสำคัญภายในร่างกายอีกทางหนึ่ง และช่วยคุมน้ำหนักไปในตัว

8. กาแฟเย็น

เครื่องดื่มแสนอร่อยอย่างกาแฟเย็น ช่วยสร้างความพึงพอใจในยามที่ร่างกายต้องการความสดชื่นจากคาแฟอีน แต่กาแฟกลับเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัย เพราะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด อาจทำให้คุณประสบกับปัญหาการนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ จนกลายเป็นตัวการขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูผิวเกิดใหม่ของร่างกาย ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เรานอนหลับเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นการจิบเครื่องดื่มจากหลอดยังอาจทำให้เกิดรอยตีนกาและรอยลึกตรงร่องแก้มได้อีกด้วย

9. ซุปกระป๋อง

ซุปกระป๋องมีโซเดียมในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการบริโภคซุปกระป๋องมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงก่อนวัยอันควร และอีกเหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคซุปกระป๋องคือ BPA ส่วนผสมหลักในซุปกระป๋อง ที่อาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดหมัน โรคอ้วน และโรคมะเร็งได้

10. เบียร์และค็อกเทล

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญในร่างกายจะกำจัดแอลกอฮอล์ได้ยากขึ้นตามไปด้วย ทำให้คุณรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นหลังการดื่ม และแอลกอฮอล์ยังส่งผลให้นอนไม่หลับ ทำให้แก่ก่อนวัยและน้ำหนักขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าแอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น และทำลายความยืดหยุ่นของผิวอีกด้วย ทางที่ดีปาร์ตี้ครั้งหน้าก็เลือกดื่มน้ำผลไม้หรือสมูทตี้อร่อย ๆ แทนค็อกเทล สีสวยไม่แพ้กันแถมคงความชุ่มชื้นอ่อนเยาว์ให้ผิว ดีต่อร่างกายและรูปร่างมากกว่าด้วย

เมื่ออายุมากขึ้นก็จำเป็นต้องใส่ใจและดูแลตัวเองให้มากขึ้นตามไปด้วย เรื่องอาหารการกินยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะนอกจากความแก่แล้ว โรคภัยไข้เจ็บอาจถามหาเอาได้ง่าย ๆ รู้ทันความน่ากลัวของอาหาร 10 ชนิดอย่างนี้แล้ว สาววัยเลข 3 ที่กลัวแก่เกินวัยก็พยายามหลีกเลี่ยงนะคะ อย่าลืมหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญต้องไม่เครียด เพียงเท่านี้ สาว ๆ 30 อัพก็คงความอ่อนเยาว์เหมือนตอน 20 ต้น ๆ ไปได้อีกนานแสนนานแน่นอนค่ะ