4,844 Views
Favorite
ว่ากันว่าช่วงเวลาก่อนเข้านอนและหลังตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้อยู่กับตัวเองมากที่สุด ก่อนนอนเราจะใช้เวลา 10-15 นาทีในการเขียนไดอารี่ทบทวนตัวเองว่าวันนี้ทำอะไร กับใคร รู้สึกอะไรบ้าง ทำอะไรดี ๆ ก็จดไว้ เอาไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเอง กลับมาอ่านอีกทีก็ทำให้ยิ้มได้ แล้วอีกอย่างที่สำคัญสำหรับเราก็คืออะไรที่ไม่ดี ก็จะจดไว้เหมือนกัน อย่างน้อยมันคือความซื่อสัตย์กับตัวเอง ที่รู้ว่าตัวเองทำไม่ดี ทำอะไรผิดไปบ้าง หรือแม้แต่ความรู้สึกที่ไม่ดี ก็จดเอาไว้ด้วย เราจะได้เอาไว้ปรับปรุงตัวเองในวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไป หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเข้านอน เราจะนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชม. ปิดไฟ ปิดเสียงโทรศัพท์ พยายามผ่อนคลายร่างกายและจิตใจก่อนที่จะหลับโดยการหายใจเข้า-ออกลึก ๆ และอยู่กับลมหายใจเข้า-ออกนั้นจนหลับไปเลยค่ะ และไม่ว่าทั้งวันที่ผ่านมาจะเจออะไรมาบ้าง แค่วิธีการง่าย ๆ ที่บอกมานี้ก็ทำให้เราสามารถหลับสนิทตลอดคืน...
หลังจากที่เรานอนหลับอย่างมีคุณภาพกันมาแล้วทั้งคืน เมื่อถึงเวลาจะต้องตื่น เราก็ควรจะตื่นนอนอย่างมีความสุขในทุก ๆ เช้า สำหรับเราแล้วการรู้สึกตัวตื่นในแต่ละวันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราตระหนึกถึงการมีชีวิตของตัวเองมากขึ้น อะไรที่ดีต้องทำให้ดียิ่งกว่าเดิม อะไรที่ไม่ดีต้องปรับปรุง นี่คือโอกาสที่เราจะเริ่มต้นใหม่ได้ในทุก ๆ วัน... ไม่มีอะไรสายเกินไปถ้าจะเริ่มทำอะไรดี ๆ ให้ตัวเองค่ะ
วันนี้เราจะมาแชร์วิธีตื่นนอนอย่างมีความสุขในทุก ๆ เช้าที่เราทำเป็นประจำ เผื่อเพื่อน ๆ อาจจะนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับตัวเองหรืออาจจะเป็นวิธีใหม่ ๆ ที่ให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำตามดูบ้างนะคะ
เริ่มจาก...
หลังจากรู้สึกตัวตื่นแล้ว เราจะยังไม่รีบลุกจากเตียง แต่จะหลับตาอยู่ซักพัก กำหนดรู้อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก เหมือนเวลาก่อนที่เราจะหลับนั่นแหล่ะค่ะ แล้วค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ พร้อมยิ้มให้ตัวเองไปด้วยก็จะดีมากเลยค่ะ
จะบิดขี้เกียจบนที่นอนหรือลุกขึ้นมานั่งขยับร่างกายเบา ๆ บนที่นอน แค่นี้ก็รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูกแล้ว (หลังจากที่นอนมาเต็มอิ่ม) หลังจากนั้นเราก็จะนั่งสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนลมออกช้า ๆ ทำแบบนี้สัก 10 ครั้ง ร่างกายจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลยล่ะค่ะ
ลุกไปเปิดม่านให้แสงสว่างลอดเข้ามาในห้อง รับความอบอุ่นจากแสงแดดยามเช้า (หรือยามสาย) เป็นสัญญาณให้รู้ว่าวันใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วนะ
หลังจากนั้นเราก็จะเปิดเพลงที่ชอบ มีหลาย play list เลยล่ะค่ะ เป็นการปลุกความรู้สึกดี ๆ ความมีชีวิตชีวา ความร่าเริง เตรียมพร้อมเริ่มวันใหม่ด้วยความแฮปปี้สุด ๆ
รอยยิ้มเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสุข ก่อนจะไปยิ้มให้คนอื่น เราต้องหัดยิ้มให้ตัวเองก่อนค่ะ ยิ้มให้ท้องฟ้าภายนอก ต้นไม้ สายลม หรือจะเป็นตุ๊กตาตัวโปรดที่เรานอนกอดเมื่อคืนนี้ หรืออะไรก็ตามแต่ที่เรารู้สึกอยากยิ้มให้ ก็ยิ้มไปเลยค่ะ (ไม่มีใครว่าเราบ้าได้เพราะเราอยู่คนเดียว 555) ยิ้มออกมาจากความรู้สึกยินดี มีความสุข การเริ่มต้นวันใหม่ของเราก็มีความสุขขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลยค่ะเนี่ย
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าหลังจากตื่นนอนแล้วเราควรดื่มน้ำ เพราะตลอดคืนที่เราหลับเลือดจะข้นกว่าปกติ การกินน้ำหลังตื่นนอนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอีกด้วย ดื่มน้ำแล้วร่างกายจะรู้สึกสดชื่น สมองปลอดโปร่ง เราแนะนำเป็นน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ
ดื่มน้ำแล้ว เราก็จะไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ ถือเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ผ่อนคลายไปอีกแบบค่ะ (เราเอาโทรศัพท์ที่เปิดเพลงไว้ เข้าไปในห้องน้ำด้วยนะ) ล้างหน้าไปอย่างมีความสุข แปรงฟันอย่างมีความสุข และอาบน้ำอย่างมีความสุข เคล็ดลับการอาบน้ำในตอนเช้าของเราคือ อาบน้ำอุ่นและล้างตัวครั้งสุดท้ายด้วยน้ำเย็นค่ะ
หลังจากทำกิจวัตรในห้องน้ำเสร็จแล้ว เราก็จะมานั่งทาครีมบำรุงผิวหน้า ผิวกาย และร้องเพลงไปด้วย มีความสุขเพลิดเพลินมากค่ะ ไม่ทันได้รู้สึกเลยว่าเราทาไปมากแค่ไหน เนื่องจากอายุอานามไม่น้อยแล้วก็ต้องบำรุงกันหลายขั้นตอนนิดนึงค่ะ :P แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ เราสารภาพเลยว่าเมื่อก่อนขี้เกียจมาก ๆ ทาครีมบำรุงขั้นตอนเดียวแล้วตามด้วยครีมกันแดดเลย พอมาถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่าผิวหน้า ผิวกายไม่โอเค ประจวบกับไปอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งที่บอกว่า....ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนขี้เหร่ จะมีก็แต่ผู้หญิงที่ขี้เกียจดูแลตัวเองเท่านั้นแหละ...โอ้โหเจ็บจี๊ดถึงทรวงใน เราเลยลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง เริ่มจากการมีความสุขในทุก ๆ อย่างที่ทำ เราต้องสวยจากภายในก่อนค่ะ ^^
หลังจากนั้นเราก็จะแต่งหน้า แต่งตัว แต่ระหว่างนั้นก็จะยิ้มให้กับตัวเองไปด้วย เป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองก่อนที่จะออกจากบ้านไปทำงานหรือออกไปไหน ๆ เราเชื่อว่าถ้าเรามีความสุขจากตัวเราเองได้มากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถแบ่งบันความสุขนั้นให้กับผู้อื่นได้มากเท่าที่เราต้องการค่ะ
