1,679 Views
Favorite
เรื่อง: กัลยาณี แนวเล็ก ภาพประกอบ:พลอยขวัญ สุทธารมณ์
status...single ไม่ได้เป็นแค่ตัวบอกสถานะ แต่ยังเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนที่ใช้สเตตัสนี้ได้ต้อง Strong! เพราะใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุขได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องผูกหัวใจไว้กับใคร...ชีวิตดี๊ดี
แต่ในเดือนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนแห่งความรัก คนโสดแบบไหนถึงจะดูแลตัวเอง และเป็นผู้อยู่รอดในบรรยากาศแบบนี้ได้ กูรูเรื่องเด็กและวัยรุ่น หมอมินบานเย็น จากเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ โรงพยาบาลมนารมย์ แนะวิธีโสดแต่มีความสุขมาก
ปัจจุบันคนโสดเยอะขึ้น
มองไปทางไหนคนนี้ก็โสด คนนั้นก็เพิ่งโสด ทำไมคนเราหันกลับมาอยู่ในสถานะตั้งต้นเยอะขึ้น อาจเป็นเพราะสเปกสูง เป็นคนชอบเลือก เข้ากันไม่ได้ คุณดีเกินไป โลกส่วนตัวสูง หรือเพราะยังหาคนที่ทำให้รักจนอยากเปลี่ยนสถานะมีคนรักยังไม่ได้กันแน่นะ
สังคมสมัยใหม่ มีความเป็นปัจเจกมากขึ้น เราสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใครมาก ถึงไม่มีแฟนก็มีอะไรให้ทำมากมาย เช่น โซเชียลมีเดีย อินเทอร์เน็ต แชทรูม งานอดิเรกสารพัด ไม่มีแฟนเราก็ไม่ได้เหงามากเหมือนสมัยก่อน
โสดแบบสุขหรือสุขเพราะมีคู่
ความสุขแบบไหนถึงจะเรียกว่าสุขแบบโคตรสุข ระหว่างโสดแต่มีความสุข เพราะมีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ทำ ไปไหนมาไหนสบาย ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ ได้พูดคุยกับคนได้หลากหลายตามที่สะดวกใจ หรือมีแฟนเลยสุขมาก เพราะมีคนช่วยคิด คอยดูแลกันและกัน คอยแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างสองเรา
การมีแฟนหรือไม่มีแฟนคงไม่เกี่ยวกับว่าแบบไหนจะทำให้มีความสุขมากกว่ากัน ของแบบนี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนมากกว่า ถ้าไม่มีแฟนแล้วมีความสุขกับการเป็นโสดได้ ก็คงดีกว่ามีแฟนที่ไม่ใช่แล้วทำให้ต้องทะเลาะกันบ่อย ๆ แบบนี้ มีแฟนแล้วก็คงเครียดมากกว่าการเป็นโสด
โสดสด ๆ รับมือยังไง
ทั้งทุกข์ทั้งเศร้า ผิดหวัง เจ็บปวด กินไม่ได้นอนหลับ หรืออาจจะโล่งใจกว่าที่คิดที่ได้กลับมาโสด สารพัดอาการของคนที่โสดหมาด ๆ แบบนี้ต้องเตรียมตัวรับมือกับการที่ได้กลับมาดูแลตัวเองแบบตัวคนเดียว อยู่ได้ด้วยตัวเอง อาจเหงาในตอนแรก และเป็นความเคยชินในที่สุด
สถานการณ์เวลาเพิ่งโสดสิ่งสำคัญคือ สติ เพราะอารมณ์ที่เกิดหลังจากที่เพิ่งโสดก็คงเป็นอารมณ์ด้านลบ เช่น ความเศร้า เสียใจ ผิดหวัง โกรธ เป็นต้น ซึ่งเป็นธรรมดาที่ต้องรู้สึกแบบนั้น แต่ก็ต้องมีสติ คือควบคุมอารมณ์ความรู้สึกนั้นได้ จัดการกับมันได้อย่างเหมาะสม เช่น คุยระบายกับคนที่ไว้ใจ เช่น พ่อแม่ เพื่อน พี่น้อง หาอะไรทำก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ต้องเป็นทางที่ไม่ทำร้ายตัวเองและคนอื่น อย่างโสดแล้วไปกินเหล้าจนเมา เสพยา แบบนี้ก็ไม่ดีเท่าไร
เที่ยวแบบเราสองสามคน
เฮ้ยแกทำไงดี? เพื่อนกลัวเราเหงาเลยชวนไปเที่ยว แต่แฟนเพื่อนก็ไป แย่ละสิ ปฏิเสธก็กลัวเพื่อนจะเสียใจ ถ้าบอกว่าไปจะต้องทำตัวยังไง กลัวตัวเองอึดอัด ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแฮะ
สถานการณ์นี้อาจจะลำบากใจหน่อย เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนและแฟนเพื่อน ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจนิดหน่อยนะ เพราะบางทีไปแล้วก็อาจจะอึดอัดเวลาที่เพื่อนกับแฟนจู๋จี๋กัน ซึ่งเป็นธรรมดาของคนที่เป็นแฟนกัน แล้วถ้าเราไปก็อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเราไม่คิดอะไรมาก นั่นก็โอเค
กินข้าวคนเดียวแปลกมากไหม
จะถูกมองว่าแปลกไหม จะเหงาหรือเปล่านะ แต่คิดดูดี ๆ ทำไมบางคนถึงคิดว่าการกินข้าวคนเดียวแล้วแปลกล่ะ ไม่กินข้าวสิแปลกกว่า แต่ข้อเสียของการกินข้าวคนเดียวที่สำคัญสุด ๆ คือสั่งกับข้าวได้น้อย แต่อยากกินหลายอย่างไง :p
เป็นสไตล์ของแต่ละคนมากกว่าว่าชอบกินข้าวคนเดียว หรือกินข้าวกับเพื่อน บางคนชอบกินข้าวคนเดียวเพราะสงบดี ไม่ค่อยอยากคุยกับใครตอนกินอะไรอร่อย ๆ แต่บางคนก็ชอบมีเพื่อนไปกินด้วย ไม่ได้แปลกอะไรแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะ
ไม่มีระยะสุดท้ายของคนโสด
อะไรคือระยะสุดท้ายล่ะ ก็จุดสุดท้ายที่คิดว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องการใครอีกแล้ว ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวไปจนวาระสุดท้าย (โอ้โห ฟังดูเหมือนปล่อยวาง) แต่บางคนอาจจะคิดว่าถ้าไม่มีแฟนตอนเรียนมัธยมต้องแย่แน่ ๆ หรือถ้าเรียนมหา'ลัย แล้วยังโสดมีหวังคานถามหาชัวร์ ในโลกของความจริงอาจจะเจอคนที่ถูกใจ เข้ากันได้และอยากอยู่ด้วยตลอดชีวิต ตอนไหนก็ได้ว่ามะ
ของแบบนี้ก็ไม่แน่นะ มีข่าวที่คุณตาคุณยายอายุเก้าสิบกว่าแต่งงานก็มี เรื่องของหัวใจอะไรก็ไม่แน่นอน แต่เราก็ไม่ต้องคาดหวังมากมาย ทำให้สบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรัดตัวเอง เกิดเจอคนที่ไม่ใช่อาจจะทำให้เซ็งกว่า
ข้อดีของการอยู่คนเดียว
ใครว่าอยู่คนเดียวจะมีแต่ความเหงา เศร้า โดดเดี่ยว ว้าเหว่ อารมณ์อื่นก็มีนะ เผลอ ๆ มีความสุขมากกกว่าคนมีคู่อีกแหนะ
อิสระดี อยากทำอะไรก็สามารถตัดสินใจได้คนเดียว ไม่งั้นก็ต้องไปถามความเห็นแฟน ปลอดภัยจากสภาวะอกหักรักคุด ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะเจอแฟนที่ไม่ดีกับเรา แต่ก็ต้องรักตัวเองให้เป็น กินให้อิ่มแต่พอเหมาะ นอนให้หลับ ออกกำลังกายบ้าง หางานอดิเรกทำ ไปเที่ยวบ้าง อย่าบ้างานเกินไป
วิธีเอาตัวรอดในบรรยากาศวาเลนไทน์
จะว่าไปมันก็ยากอยู่นะ ยิ่งในสังคมยุคโซเชียลด้วยแล้วถ้าไม่เจอบรรยากาศตามร้านค้า ก็จะมาเจอในฟีดเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรมก็จะเต็มไปด้วยคนอวดแฟน เฮ้ย ไหวป่ะ! คนโสด
ถ้าไม่คิดอะไรก็ไม่ต้องทำอะไร วันวาเลนไทน์ก็เหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไป คนไปทำงานก็ไป ไปเรียนก็ไปตามปกติเห็นดอกไม้เยอะหน่อยก็ให้มองว่าสวยสดชื่นดี แต่ถ้าทำใจไม่ได้ก็อยู่กับบ้านไม่ต้องไปไหน หาอะไรทำสนุกๆเดี๋ยวก็ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว
สุดท้ายอย่าเอาความโสดมาเป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจ หรือลดคุณค่าของตัวเอง เรียนอยู่ ม.ต้น ไม่มีแฟนแต่มีเพื่อนก็ยังสนุก ม.ปลาย เป็นโสดแต่มีเวลาให้ตัวเองได้ค้นพบคณะที่อยากเรียนจริง ๆ ชีวิตก็ดีไปอีกยาว เข้ามหาวิทยาลัยแล้วยังไม่มีใคร ก็ไม่ผิดปกติเพราะถ้าเรียนดี สุขภาพดี ดูแลบุคลิกภาพตัวเองได้ดี จนมีคนชื่นชม เผลอ ๆ จบออกมาได้ทั้งงานที่ดี คู่รักที่รักจริงก็ได้นะ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะก็มีความสุขได้ ถ้ารักตัวเองเป็น
8 สถานที่ต้องห้ามวันวาเลนไทน์
ถ้าไม่อยากให้ใจต้องต้องเจ็บช้ำ หรือตาร้อนยิ่งกว่าพระอาทิตย์
- ร้านอาหาร มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านที่จัดธีมความรัก มีแต่คนมาสวีทเป็นคู่ คงปวดใจสุด ๆ ถ้านั่งกินเหงา ๆ คนเดียว
- โรงหนัง ในโรงหนังมืด ๆ คงไม่เป็นไรหรอก ที่ไหนได้ข้าง ๆ มาเป็นคู่ ข้างหน้าก็ซบกันให้เห็น ถึงแม้ไม่ได้ดูหนังรักก็เหอะ
- เดินห้าง นัดเพื่อนเดินห้างเย็น ๆ ดูโน่น กินนี่ น่าจะเวิร์ก ไม่ก็จบที่หงอยเป็นกลุ่ม เพราะเหมือนศูนย์รวมคู่รักยังไงก็ไม่รู้
- ที่เรียนพิเศษ ใจหนึ่งก็อยากจะเนียน ๆ แปะ สติ๊กเกอร์หัวใจให้คนที่แอบชอบ แต่อีกใจก็คิดว่าต้องเจอแต่คู่รักที่มาเรียนด้วยหันแหง
- ตลาดนัด เดินดูของน่าจะได้ช้อปปิ้งเพลิน ๆ แต่แค่เห็นเขาเดินจับมือ ช่วยถือของใจก็แป้วได้เหมือนกัน
- ทะเล ยังหวานได้ แค่มีคู่รักสวีทกัน ตาเราก็ร้อนยิ่งกว่าพระอาทิตย์แล้ว
- ภูเขา หนีขึ้นเขาก็ไม่น่ารอด อากาศยิ่งเป็นใจเข้าไปอีก
- สวนสนุก เอาความสนุกเข้าสู้ คิดว่าจะรอด แต่ถ้าหันไปเจอเขาดูแลกันและกัน ก็มีให้เจ็บจี๊ดที่ใจบ้างแหละ
8 ข้อ เปลี่ยนจาก "โสด" แต่ "สุข" มาก
- มีความรักตนเองและพอใจในสถานะของตัวคุณเอง
- อย่าหวั่นไหวกับสิ่งรอบข้างที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าแปลกแยกจากคนอื่น
- ดูแลตัวเองได้ดี ทั้งจิตใจและภายนอก เช่น การแต่งตัว สุขภาพ
- สร้างคุณค่าให้ตัวเอง
- ใช้ชีวิตอย่างมีสติ คนเราจะดูดีได้ต้องมาจากภายใน
- ให้โอกาสตัวเอง ออกไปเดินเล่น ทำงานอดิเรกที่เราสนใจ
- โอกาสที่จะะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- ออกไปพบปะคนใหม่ ๆ
"ทุกที่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยทางใจถ้าใจเรายอมรับสิ่งที่เป็นได้ ในทางกลับกันถ้าใจเรามันไม่ยอมรับ
จะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุขรู้สึกไม่ปลอดภัย"
พญ.เบญจพร ตันตสูติ
ข้อมูลจาก
กรมสุขภาพจิต
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
