เด็กที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางครอบครัวที่มีความสุข จะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี เรียนรู้สิ่งรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับเด็กที่ได้รับแรงกดดันสูงตั้งแต่เล็ก มักมีผลการเรียนที่ไม่ดี เรียนรู้ช้า เฉื่อยชา และซึมเศร้า บางรายอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว โกรธเกรี้ยว และเอาแต่ใจ เพิ่มเข้ามาด้วย

สังเกตได้ว่าคุณแม่ที่อารมณ์ดีตั้งแต่ตั้งครรภ์ มักส่งผลให้เด็กทารกมีอารมณ์ดี และมีพัฒนาการที่สมวัยมากกว่าคุณแม่ที่อยู่ในภาวะเครียดหรือไม่สบายใจตลอดตั้งแต่ตั้งครรภ์กระทั่งคลอดลูก เนื่องจากสภาวะจิตใจส่งผลต่อฮอร์โมนและการหลั่งสารต่าง ๆ ภายในร่างกาย อาทิ โดปามีน (ฮอร์โมนแห่งความสุขใจหรือประสบความสำเร็จ), ซีโรโทนิน (ฮอร์โมนแห่งความผ่อนคลาย) และเอ็นดอร์ฟิน (ฮอร์โมนแห่งความสุข) ลูกน้อยก็เช่นกัน หากเขาได้รับการเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุข ก็จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มองโลกในแง่ดี มีจิตใจที่ดี และพร้อมเปิดใจเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด

วิธีการเพิ่มความสุข

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกไม่ค่อยมีความสุข หรือมีความสุขดีอยู่แล้ว แต่อยากหาวิธีเพิ่มความสุขให้ลูกอีก วิธีการเหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบ้านได้

1. รับฟังกันให้มากขึ้น

2. ให้ลูกพูดและระบายความรู้สึกออกมามากขึ้น

3. สนับสนุนให้เขาพัฒนาจุดเด่นของตัวเองอย่างเหมาะสม

4. หลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกด้วยอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์

5. ส่งเสริมให้ลูกคบเพื่อนที่ดี

6. สอนลูกให้รู้จักเคารพและคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น

7. ในแต่ละวัน ให้ลูกมีเวลาว่างเป็นของตัวเองบ้าง

8. กินอาหารร่วมกันอย่างน้อยวันละ 1 มื้อ

9. แสดงออกให้รู้ว่าพ่อแม่รักเขา และเรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน

10. บอกรักลูกบ่อย ๆ เพื่อเสริมหัวใจน้อย ๆ ให้แข็งแรง

ความสุข เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยมของเด็ก หากครอบครัวสามารถเติมเต็มความรู้สึกนี้ได้ เด็กก็จะมีพัฒนาการด้านสมอง จิตใจ และสังคมที่ดีตามไปด้วย ความเครียดและแรงกดดันเป็นเหมือนอุปสรรคเพื่อให้ลูกน้อยก้าวผ่านไปให้ได้ หากเขามีพื้นฐานจิตใจที่ดี ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะใหญ่แค่ไหน เขาก็จะผ่านไปได้อย่างสวยงาม