มีผลการวิจัยหลังจากที่ศึกษาพฤติกรรมเด็กที่ถูกพ่อแม่ตีบ่อย ๆ พบว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมแข็งกร้าว มีความก้าวร้าวมากขึ้น และเด็กที่ถูกลงโทษด้วยการตีบ่อย ๆ มีโอกาสที่จะมีปัญหาสุขภาพจิต มีความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า และมีปัญหาในการควบคุมความโกรธเมื่อโตขึ้นมากกว่าเด็ก ๆ ทั่วไปที่ไม่ถูกลงโทษด้วยการตี
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ควรหาวิธีอื่นในการลงโทษลูกแทนการตี และหากจะทำโทษลูกควรทำเมื่อเด็กมีอายุ 3 ปีขึ้นไป เพราะเด็กในวัยนี้จะสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรดีไม่ดี เริ่มเข้าใจอารมณ์ต่าง ๆ ได้บ้างแล้ว และเขาพอจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่กระทำ ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี คุณพ่อคุณแม่ควรเน้นเรื่องการสอนและแนะนำมากกว่าการดุด่า เพราะเด็กอยู่ในช่วงเรียนรู้ระเบียบวินัยต่าง ๆ
โดยการจับไปนั่งอยู่มุมใดมุมหนึ่งคนเดียว และนั่งเฉย ๆ ห้ามออกจากจุดนั้น ห้ามคนอื่นมาคุยด้วย กำหนดเวลาไว้โดยใช้เวลา 1 นาที / อายุ 1 ปี ขณะนั้นเราจะไม่ตอบสนองเขาไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นวิธีแสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับหากทำพฤติกรรมที่ไม่ดี
ใช้ในกรณีที่ลูกร้องไห้เอาแต่ใจ อาละวาด ขอให้คุณพ่อคุณแม่ใจแข็ง ปล่อยให้ลูกร้องไห้ไปก่อน ลูกจะร้องไห้สั้นลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่ร้อง เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าเขาเองก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้เองโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง แต่วิธีนี้แนะนำให้ใช้เวลาที่อยู่ที่บ้าน หรือที่ส่วนตัว ไม่ควรใช้เวลาอยู่ในที่สาธารณะ เพราะเสียงร้องอาจรบกวนผู้อื่นได้
เช่น อดเล่นของเล่น อดไปเที่ยว ไม่ได้กินของที่ชอบ สามารถใช้ได้กับเด็ก 6 ขวบขึ้นไป เพราะเริ่มเข้าใจเงื่อนไขง่าย ๆ ได้แล้ว
เช่น ทำความสะอาด ให้กินผัก ลดเงินค่าขนม แต่เมื่อลูกแก้ไขพฤติกรรมได้ก็ควรให้รางวัล เพื่อให้เขาได้เห็นถึงผลของการกระทำที่แตกต่างกัน
เช่น เมื่อทำลายข้าวของต้องเก็บกวาด ทำร้ายคนอื่นต้องขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ อาจใช้วิธีถามเพื่อให้เด็กได้แสดงความรู้สึกออกมา ให้เขาได้อธิบายว่าสิ่งที่เขาทำผิดหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่คุณพ่อคุณแม่จะได้สอนในสิ่งที่ถูกต้อง