Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Eternal Sunshine of the Spotless Mind เธอจะลืมความรักที่ผ่านมาจริงๆ หรือ

Posted By พรายพระจันทร์ | 13 ก.พ. 60
9,311 Views

  Favorite

ในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ หลายคนอาจไม่ได้มีโปรแกรมออกไปไหน (จะว่าไปวันวาเลนไทน์ก็ไม่ใช่วันหยุด) วันนี้เราเลยขอแนะนำภาพยนตร์รักหน่วงนิด ๆ โรแมนติกหน่อย ๆ ไว้สำหรับใครที่ไม่อยากออกจากบ้าน แต่ก็อยากอินกับความรักเหมือนคู่อื่นเขา

 

ภาพปก : imdb.com

 

 

ภาพ : พรายพระจันทร์
 

 

Eternal Sunshine of The Spotless Mind (2004)

ภาพยนตร์ชื่อยาวที่มาพร้อมกับชื่อภาษาไทยเก๋ ๆ ว่า “ลบเธอ...ไม่ให้ลืม” เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มผู้เชื่อว่าชีวิตของเค้าธรรมดาไม่น่าสนใจนามว่า “โจเอล” ได้รู้ความจริงว่าแฟนของเขา “คลีเมนไทน์” ไปพบดร.โฮเวิร์ดเพื่อขอลบความทรงจำที่มีเกี่ยวกับโจจนหมดสิ้น นั่นทำให้โจตัดสินใจลบความทรงจำเกี่ยวกับคลีเมนไทน์เช่นกัน ทว่าระหว่างการลบความทรงจำ โจเอล กลับต้องการยกเลิกภารกิจนี้เพราะเขาไม่อยากลืมคลีเมนไทน์จริง ๆ 

 

แค่อ่านพล็อตเรื่องก็น่าสนใจแล้วนะคะ ชายหนุ่มที่ต้องการลบความทรงจำเกี่ยวกับคนที่ตัวเองรักและเลิกกันไปแล้ว แต่สิ่งที่คิดว่าดีกว่าพล็อต ดีกว่าการแสดงของจิม แคร์รีย์ และ เคท วินสเล็ต นั่นก็คือ บท และการลำดับภาพแม้ว่าตอนต้นของหนังจะดูเนือย ๆ ถึงขั้นน่าเบื่อ แต่ยิ่งดูก็ยิ่งรู้ว่าหนังเต็มไปด้วยรายละเอียดให้เราสังเกตและพลาดช่วงไหนไม่ได้เลย เพราะหนังเล่นสลับระหว่าง เรื่องก่อนที่จะรัก และเรื่องก่อนที่จะลบความทรงจำ ส่วนนี้เมื่อดูจบหลายคนน่าจะเป็นเหมือนกันคือ คนเขียนบทเยี่ยมยอดมาก ๆ พอ ๆ กับการลำดับภาพที่น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังไปเลยค่ะ

 

พูดกันเรื่องการต้องการลืมเรื่องราวที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกคนคงเคยมีประสบการณ์แย่ ๆ หรือเรื่องราวที่เสียใจและไม่อยากจะจดจำเรื่องราวเหล่านั้น น่าแปลกที่ว่ายิ่งไม่อยากจำก็กลับไม่ยอมลืม ในหนังไม่ได้ชี้นำให้เราตรง ๆ ว่าการลืมใครสักคนที่เคยรัก เป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ แล้วหากลืมกันได้จริง ๆ ชีวิตจะเดินต่อไปอย่างถูกต้อง หรือส่วนนี้ทำให้นึกถึงตัวละคร ทิฟฟานี่ ในหนังเรื่อง Silver Linings Playbook ที่เจอเรื่องแย่ ๆ ในชีวิตจนเสียศูนย์เช่นกัน แต่เธอกลับเลือกที่จะมองว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ

 

“There's always going to be a part of me that's sloppy and dirty,
but I like that. Withall the other parts of myself.”

 

 

ภาพ : พรายพระจันทร์

 

 

ในช่วงที่โจเอลพยายามสุดตัวเพื่อหนีจากการลบความทรงจำ เขาได้เดินทางกลับไปยังความทรงจำที่เขาและคลีเมนไทน์เคยมีร่วมกัน และนั่นกลับยิ่งที่ให้ความรักเด่นชัดขึ้น จนเมื่อรู้ว่าไม่มีทางหนีจากการ “ลืม” ได้แล้ว เขาจึงบอกกับคลีเมนไทน์ในความทรงจำว่า 

“แค่เพลิดเพลินกับเวลาที่มีอยู่นี้ก็พอ” 

 

เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาอาจมีความสุขร่วมกับเธอแต่ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเมื่อเลิกกันความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อกันก็ไม่เหลืออยู่ ต่างฝ่ายต่างจำได้แต่เรื่องแย่ ๆ ดังที่เราได้ยินจากเทปสนทนาก่อนการรักษานั่นเอง

 

ในตอนท้ายที่ทั้งสองคนรู้แล้วว่าต่างฝ่ายต่าง “ลบความทรงจำ” ที่มีระหว่างกันไปก่อนหน้านี้ แต่การที่ทั้งสองกลับมาพบกัน และประทับใจกันอีกรอบก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะบอกว่า “แม้ความทรงจำจะหายไปแต่ความผูกพันน่าจะยังคงอยู่” คลีเมนไทน์ยอมรับกับโจเอลว่าเธอไม่ใช่คนที่ดีพร้อม และเธออาจจะเบื่อเขาอีกครั้งก็ได้ถ้าเขายังมีกรอบให้เธอต้องเดินตามอยู่เหมือนเดิม โจเอลตอบออกไปแค่ “โอเค” นั่นเพราะเขายอมรับได้แล้วว่า เขารักเธอที่เป็นเธอ เธอที่ไม่ได้ดีพร้อมและตัวเขาเองก็เช่นเดียวกัน

 

Eternal Sunshine of The Spotless Mind จึงเป็นหนังที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนตัดสลับไปในช่วงที่มีความสุข ความสัมพันธ์ไม่ลงรอย การลบอีกฝ่ายออกจากความทรงจำและการกลับมารักกันอีกครั้ง เพราะยอมรับได้แล้วว่า การลืมไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความสัมพันธ์ ตราบที่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน ยอมหันหน้าคุยกันแม้ว่าในสักวันจะต้องเลิกกัน แต่ช่วงระหว่างความทรงจำที่ดี ๆ ก็จะยังคงอยู่และไม่จำเป็นต้องลบใครออกจากความทรงจำอีกต่อไป

 

 

แหล่งข้อมูล
Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • พรายพระจันทร์
  • 4 Followers
  • Follow