Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

จากเด็กเส้น สู่ตำนานผู้ยิ่งใหญ่

Posted By pao'o | 06 ก.พ. 60
3,315 Views

  Favorite

ไม่มีใครอยากถูกคำครหาจากบุคคลภายนอก หรือคนที่เห็นผิวเผินว่าเป็น “ เด็กเส้น ” หรอกครับ ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีเด็กจำพวกนี้อยู่เกลื่อนในสังคมก็ตาม สังคมที่มีแต่การอุ้มชูลูกหลานบุคคลที่มีชื่อเสียง

เด็กน้อยคนนึงที่อยู่ในฐานะครอบครัวที่ร่ำรวย และได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีมีผลการศึกษาเกรดเฉลี่ยที่สูงได้รับโอกาสในการเข้าเรียนในสถาบันเอกชนเก่าแก่ชื่อดังในประเทศอังกฤษได้ และยิ่งไปกว่านั้นสามารถสอบ “ จีซีเอสอี ( GCSE ) ” เปรียบเสมือนคล้าย ๆ การสอบเข้ามหาวิทยาลัย วิชาภาษาละตินได้เกรดเอเลยทีเดียว

ผมกำลังพูดถึงตำนานที่ยังมีลมหายใจที่พึ่งประกาศเลิกเล่นฟุตบอล นำสตั๊ดขึ้นไปแขวนบนหิ้งเรียบร้อยแล้วอย่าง “ แฟร้งค์ แลมพาร์ด “

ครั้งนึง “ ซุปเปอร์แฟร้งค์ “ ถูกกองเชียร์เวสแฮมและคนภายนอกดูถูกว่าเป็นเด็กเส้นโดยอิทธิพลของคุณพ่อที่เป็นผู้ช่วยกุนซืออยู่ในสมัยนั้น คุณพ่อของแลมพาร์ดเป็นอดีตนักฟุตบอลชื่อดังชองเวสแฮมเอง ( ลงเล่น 551 นัด ยิง 18 ประตู )

โดยแลมพาร์ดใช้เวลาในการอยู่ชุดเยาวชของเวสแฮมเพียงปีเดียวเท่านั้นก่อนถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่โดยมีแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เป็นผู้จัดการทีมในตอนนั้น คำครหาของเด็กคนนี้มีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ประจวบเหมาะพอดีนอกจากคุณพ่อเป็นผู้ช่วยโค้ชแล้ว เร้ดแนปป์เองก็เป็นคุณลุงของตัวเขาด้วย จึงทำให้คำครหาค่อนข้างรุนแรงเป็นทวีคูณ

 

ภาพ : walesonline.co.uk

 

และด้วยวัยเพียง 17 ปี แลมพาร์ดถูกปล่อยลงสนามกับเวสแฮมเป็นครั้งแรกในนัดที่พบกับ โคเวนทรี ซิตี้ ด้วยเป็นการสตาร์ทจากตัวสำรองแทน “ จอห์น มองเคอร์ ” ก่อนถูกปล่อยไปให้สวอนซียืมตัวไปใช้งาน ก่อนกลับมาเป็นตัวหลักกับเวสแฮมด้วยการลงรับใช้ต้นสังกัดถึง 148 นัด พ่วงด้วย 24 ประตู

เป็นการใช้ 2 เท้าของเขาและผลงานในสนามตบหน้าบรรดานักวิจารณ์ต่าง ๆ ที่ครั้งนึงเคยดูถูกและเหยียดหยามว่าเป็นเพียงแค่ " เด็กเส้น " ใช้ชื่อเสียงและตำแหน่งของคุณพ่อในการไตเต้าเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2001 เชลซีได้ยื่นสัญญาและค่าตัวให้กับเด็กหนุ่มวัย 23 ปีเป็นจำนวนเงินถึง 11 ล้านปอนด์เป็นเส้นทางที่เจ้าตัวได้ก้าวเดินครั้งใหม่ 

 

ภาพ : www.skysports.com/football

 

และต่อจากนี้ทุกฝีก้าวคือ “ ตำนาน ”

แชมป์พรีเมียร์ ลีก : 3 สมัย ( 2004–05 , 2005-06 , 2009-10 )

แชมป์เอฟเอคัพ อังกฤษ : 4 สมัย ( 2006-07 , 2008-09 , 2009-10 , 2011-12 )

แชมป์ลีก คัพ อังกฤษ : 2 สมัย ( 2004-05 , 2006-07 )

แชมป์คอมมูลิตี้ ชิลล์ อังกฤษ : 2 สมัย ( 2005 , 2009 )

แชมป์ยูเอฟ่าแชมเปี้ยนลีก : 1 สมัย ( 2011-12 )

แชมป์ยูโรป้าลีก : 1 สมัย ( 2012-13 )

ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ใหญ่ ๆ เข้าร่วมการแข่งขันได้หมด แค่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะนำแฟร้งค์ แลมพาร์ด ขึ้นหิ้งเป็นตำนานของทั้งสโมสรเชลซีและทีมชาติอังกฤษ โดยไม่มีเสียงไหนกล้าคัดค้าน นอกจากโทรฟี่ที่ประสบความสำเร็จกับ สิงโตน้ำเงินครามแล้ว สถิติดาวซัลโวสูงสุดประจำสโมสรกองกลางผู้นี้ก็ยึดสัมปทานแล้วเรียบร้อยด้วยจำนวน 211 ประตู

โดยตำแหน่งไม่ใช่กองหน้า

แต่คือกองกลางที่ยิงประตูให้มากที่สุดของสโมสรชั้นนำของโลกอย่าง “ เชลซี “

กองกลางที่มีพรสวรรค์ด้านการจบสกอร์ นี่คือคุณสมบัติติดตัวกองกลางผู้นี้

หลังจากออกจากเชลซีแลมพาร์ด ได้ไปปิดท้ายชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ด้วยความที่สโมสรนิวยอร์ก ซิตี้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้คือเจ้าของเจ้าเดียวกันเลยทำให้มีการยืมตัวระหว่างสโมสร แลมพาร์ดเลยต้องกลับมาอังกฤษอีกครั้งกับสโมสรในเมืองแมนเชสเตอร์ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยคิดเล่นให้สโมสรอื่นอีกแล้วในเกาะอังกฤษ

แต่ด้วยความดราม่าบนโลกใบนี้ ตามโปรแกรมแลมพาร์ดต้องมีเจอกับอดีตสโมสรที่ตัวเขาสร้างชื่อ และเป็นตำนานอยู่ที่นั่น เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 78 ขณะที่เชลซีนำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือแมน ซิตี้ส่ง “ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ” ลงสนาม

และนาทีที่ 85 เป็นวินาทีที่บาดลึกหัวใจของแลมพาร์ดมากที่สุดครั้งนึง คือการยิงประตูเชลซี ไม่มีการดีใจเกิดขึ้น ไม่มีสีหน้าที่ที่ยินดี ภายใต้ใบหน้าของเขาข้างในคงเจ็บปวดถึงที่สุด แต่เมื่ออยู่ในสนามด้วยความเป็นมืออาชีพที่คือสิ่งที่ต้องทำ

 

ภาพ : Dailymail.co.uk

 

2 กุมภาพันธ์ 2560 แฟร้งค์ แลมพาร์ดประกาศยุติชีวิตค้าแข้งด้วยวัย 38 ปี ทิ้งร่องรอยความสำเร็จ และก้าวย่างบนโลกลูกหนังในฐานะนักฟุตบอลแต่เพียงเท่านี้

จากเด็กที่ถูก ปรามาศว่าเป็น ” เด็กเส้น ” ค่อย ๆ ลบเสียงนกเสียงกาด้วยฝีเท้าของตัวเอง จนก้าวมาเป็นตำนานของวงการฟุตบอลทั้งระดับทีมชาติและสโมสร

“ แด่ตำนาน ” แฟร้งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์

 

แหล่งข้อมูล
ภาพ : Dailytime.com.py
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • pao'o
  • 0 Followers
  • Follow