การแต่งหน้าสไตล์นี้ คือการแต่งให้ดูใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด ฟังดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายนะจ๊ะขอบอก เพราะต้องใช้ทักษะงานผิวที่ค่อนข้างละเอียด กลบจุดด้อยได้เนียน แต่ไม่โป๊ะ แต่งให้ดูเหมือนตื่นมาแล้วสวยเลย - I woke up like this! อะไรประมาณนี้ มาดูหัวใจสำคัญของการแต่งหน้าแนวนี้กันว่ามีอะไรบ้าง แล้วลองฝึกแต่งกันดู
หากผิวของคุณดีอยู่แล้ว ไม่มีรอยสิว หรืออะไรให้ต้องปิดบังก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะการแต่งหน้าสไตล์นี้จะเน้นโชว์ผิว แต่หากคุณมีรอยบนใบหน้าอยู่บ้าง ก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์อำพรางเฉพาะจุด โดยเฉดสีของคอนซีลเลอร์ที่ใช้กลบรอยคล้ำใต้ตาควรสว่างกว่าสีผิวหนึ่งระดับ ส่วนคอนซีลเลอร์ที่ใช้ปิดรอยสิวควรเป็นเฉดสีที่ใกล้เคียงกับผิวจริงมากที่สุด พยายามใช้คอนซีลเลอร์เฉพาะจุดที่จำเป็นจริงๆ และใช้ให้น้อยที่สุด
สำหรับสาวๆ ที่ต้องการการปกปิดที่มากขึ้นอีกนิด ก็ยังสามารถใช้รองพื้นได้นะ แต่ต้องเลือกแบบ Tint หรือแบบน้ำที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นไปในตัว เพราะจะทำให้หน้าไม่แห้งตึงจนเกิดอาการแป้งแตกเป็นคราบๆ ระหว่างวัน
ไม่ว่าจะเป็นแป้งรองพื้น แป้งอัดแข็ง บลัชออนแบบแข็ง ฯลฯ ที่เป็นเนื้อแป้ง เพราะจุดเด่นของการแต่งหน้าสไตล์นี้คือโชว์ผิวฉ่ำวาวลุค Dewy ดูสุขภาพดี มีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวหน้าเล็กน้อย เครื่องสำอางที่เป็นแป้งจะดูดซับความวาวนี้ออกไป ใช้บลัชออนแบบครีมแทน ส่วนใครกลัวว่าจะหน้ามันระหว่างจนเกินไป ให้เลือกใช้เบสหรือไพรม์เมอร์ที่ช่วยให้หน้าแมทท์ตลอดวันแทนการใช้แป้งเซ็ตเครื่องสำอาง
ถึงจะเป็นการแต่งให้เหมือนไม่แต่ง แต่จริงๆ แล้วก็ยังต้องแต่งอยู่นะ เพียงแต่การเลือกใช้สีสันควรให้ใกล้เคียงกับสีแนวธรรมชาติที่สุด ไม่เติมแต่งมากจนเกินไป ตัวอย่างเช่น เขียนคิ้วตามรูปคิ้วและสีคิ้วตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนอายไลน์เนอร์ หรือเขียนให้ชิดขอบขนตาด้วยอายไลน์เนอร์แบบดินสอสีน้ำตาลจะดูเป็นธรรมชาติกว่าสีดำหรือแบบน้ำ และแน่นอนว่าไม่ติดขนตาปลอมแต่ปัดมาสคาร่าและดัดขนตาได้ตามปกติ ส่วนลิปสติกเลือกแบบ Tint จะให้ความรู้สึกธรรมชาติกว่าแบบแท่ง matte หรือลิปจิ้มจุ่มสีสดๆ
ภาพปก pixabay