ต้องยอมรับว่า ณ ตอนนี้กระเเสละครพิเรียด หรือละครย้อนยุค มาเเรงมากจริง ๆ วันนี้เราเลยขอแนะนำ หนังสือนวนิยายที่เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 สำหรับแฟนละครรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ที่อยากอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านนวนิยายที่ทั้งสนุกและเศร้าปนกันไปค่ะ

1. สายโลหิต

ผู้ประพันธ์ : โสภาค สุวรรณ

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

คำโปรย

นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ชาติไทยปลายกรุงศรีอยุธยา ก่อนเสียกรุงแก่พม่าข้าศึกเรื่องนี้ เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์ไม่เตรียมพร้อมและประมาทของพลเมือง ความขัดแย้งสืบเนื่องจากความไม่สามัคคี การทำลาย ฆ่าฟันกันเอง อันเป็นผลให้คนดีมีฝีมือลดน้อยลงเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งแม้ว่าจะต่างวาระกันก็ตาม

2. พิษวาท

ผู้ประพันธ์ : ทมยันตี

สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม

คำโปรย

พิษสวาท คือ พิษสงแห่งรัก พิษร้ายแห่งความพิศวาส อุบล...คือดวงวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานด้วยความรักและหน้าที่ หน้าที่พิทักษ์ทรัพย์แผ่นดินมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก

นานนับศตวรรษ ที่เธอตกอยู่กับอาฆาต แค้นเคือง นับเนื่องศตวรรษ ที่ดวงตาวาววับบ่งบอก รอยรัก รอยแค้น รอยอาลัย และความสงสัยในหัวใจว่า...ทำไมชายคนรัก ขุนศึกคู่แผ่นดินที่เธอแสนรักและรักเธอ ถึงได้กระทำต่อเธอด้วยความเหี้ยมโหด โดยที่เธอไม่รู้ถึงเหตุผลของการกระทำ และวิธีเดียวที่เธอ...วิญญาณเธอจะได้การปลดปล่อย ไม่ต้องทำหน้าที่ตนไปจนกว่าไฟบรรลัยกัลป์จะแล่นล้างสี่หล้าให้พินาศลงสิ้น

นั่นคือ เธอต้องหา ‘ตัวตายตัวแทน’!!

และอุบล...หรือในชื่อ สโรชินี ในเวลาแห่งปัจจุบัน ก็ไม่ปรารถนาใคร นอกจากเขาคนนั้น...

‘อัคนี’ ขุนศึกคู่แผ่นดิน ชายคู่ชีวิตคู่เสน่หาที่เธอรักปานดวงใจ ชายที่ทำไว้กับเธออย่างสาหัสสากรรจ์!

“แม้ในความชิงชัง เจ็บแค้น ความรักก็ไม่สามารถหักหายไปได้”

3. เรือนมยุรา

ผู้ประพันธ์ : แก้วเก้า

สำนักพิมพ์ : ทรีบีส์

คำโปรย

ความรักของหนุ่มสาวต่างยุค และนกยูงสำริด ในวังวนของคำมั่นสัญญา กับมนต์กฤตยา เมื่อความโลภและกิเลศชักจูงให้ผู้คนจำนวนหนึ่งมาพบกัน จนก่อให้เกิดความวุ่นวายและอุปสรรค แต่เพราะคุณธรรมอันเคร่งครัด รวมทั้งความมั่นความซื่อสัตย์ ทำให้ นกยูง และ พระนาย พบรักที่สมหวังในที่สุด

4. อตีตา

ผู้ประพันธ์ : ทมยันตี

สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม

คำโปรย

...กำดาบ ตีนเหยียบแผ่นดิน ทิ้งถิ่นทิ้งเพื่อนฤาได้

อโยธยาลุกร้อนเป็นไฟ มีแต่เลือดไหลโลมดิน...

“เจ้ามิเคยลี้หาย ห่างไกลหัวใจพี่เลย” ไม่ว่าจะถ้อยนี้ หรือคำไหน

“พี่จักไม่มีวันทิ้งเจ้า เราจะต้องพบกัน พี่จะตามหาเจ้า”

ฤากับมิ่งมิตร “เจ้ารู้! ข้าจักไม่มีวันทิ้งเพื่อน!”

นี่คือสัจจาธิษฐาน ที่ผูกพันเป็นสัญญาให้เขาย้อนมิติ คืนสู่...บางระจัน

มาพบ ‘เมืองใจ’ เจ้าเพื่อนตาย และ ‘จันกะพ้อ’ น้องน้อยอันเป็นที่รัก

แม้นหน้าประวัติศาสตร์จะบอกให้เขารู้ว่า...

เกิดอะไรขึ้นกับ ‘เมืองใจ’ และเหล่าวีรชนบางระจัน

เพื่อทำตามสัจจะแห่งสัญญา และย้ำคำของลูกผู้ชาย...

"เมืองใจ...จันกะพ้อ แผ่นดินไทยไม่มีคนอย่างเจ้าไม่ได้เลย!"

5. ฟ้าใหม่

ผู้ประพันธ์ : ศุภร บุนนาค

สำนักพิมพ์ : เพื่อนดี

คำโปรย

ฟ้าใหม่ เป็นผลงานนวนิยายของศุภร บุนนาค มีเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผ่านสายตาของตัวละครหลักชื่อ "แสน" นายทหารมหาดเล็กเชื้อสายผู้ดีแขกเทศ ซึ่งได้เค้าโครงมาจากประวัติของเจ้าพระยามหาเสนา (บุนนาค) ต้นสกุลบุนนาค และแม่หญิงเรณูนวล ผู้ป็นที่รักของแสนนั่นเอง

นี่ขนาดได้อ่านแค่คำโปรยเท่านั้น ก็อยากจะหามาอ่านแล้ว เอาเป็นว่าใครสนใจอยากศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรา แต่อาจจะไม่อยากอ่านหนังสือสารคดีแล้ว ก็ลองหยิบนวนิยายทั้ง 5 เรื่องเหล่านี้มาอ่านดูนะคะ เชื่อได้ว่าจะได้ความรู้และเกร็ดประวัติศาสตร์มากมายเลยล่ะค่ะ