ในประเทศไทย เต็มไปด้วยตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง วันนี้เราจะชวนไปสักการะและทำความรู้จักกับ “เสาร้องไห้” หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองสระบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว แต่ที่น่าสนใจก็เพราะว่า เสาร้องไห้นี้ปรากฏประวัติความเป็นมาอันน่าทึ่งชวนขนหัวลุก...ถ้าพร้อมแล้ว เรามา "เดินทางใกล้" ไปกันเลย...

ปริศนาเสียงร้องไห้ของนางไม้

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานี เล่ากันว่าในครานั้นมีคำสั่งให้หัวเมืองต่างๆ ส่งไม้ที่มีลักษณะดีลอยตามน้ำเพื่อนำไปคัดเลือกให้เป็นเสาเอกและเสาตะเคียนต้นหนึ่งที่ถูกตัดจากป่าดงพญาไฟ (ป่าดงพญาเย็น) เมืองสระบุรี ก็ถูกส่งลอยตามแม่น้ำป่าสักเข้าไปคัดเลือกด้วยเช่นกัน จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผลปรากฏว่าเสาต้นนั้นไม่ได้รับเลือกให้เป็นเสาเอกทำให้นางไม้ที่สิงสถิตอยู่ในเสาต้นนั้นเสียใจมาก จึงบันดาลปาฏิหาริย์ให้เสาต้นนั้นลอยทวนแม่น้ำป่าสักกลับมาที่สระบุรีและทิ้งตัวจมลงใต้น้ำบริเวณ “บ้านไผ่ล้อมน้อย” ในรุ่งอรุณ นับจากนั้นก็มีเรื่องเล่าชวนขนหัวลุกว่า

ผู้คนที่ผ่านไปมาบริเวณบ้านไผ่ล้อมน้อยมักได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้คร่ำครวญอย่างโศกเศร้า จนถึงกับขนานนามบ้านไผ่ล้อมน้อยว่า “บ้านเสาร้องไห้” ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่ออำเภอ “เสาไห้” ของจังหวัดสระบุรีในทุกวันนี้

พิธีเชิญเสาขึ้นจากน้ำ

ตำนานเกี่ยวกับนางไม้ร้องไห้นี้มีมานมนานกว่า 100 ปี จนทำให้หลายคนอยากอัญเชิญเสาขึ้นมาจากน้ำ แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเสาต้นนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2501 ได้มีการเข้าทรง ให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ช่วยชี้จุดที่เสาจมอยู่ใต้น้ำ ก็ปรากฏว่าชี้ได้อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถค้นเจอเสาและอัญเชิญขึ้นมาจากน้ำได้

พิธีอัญเชิญเสาตะเคียนขึ้นจากน้ำและแห่เคลื่อนเสาไปประดิษฐานที่วัดสูง มีคนมาร่วมพิธีเป็นสักขีพยานกว่าสามหมื่นคนซึ่งมากมายจนต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของอำเภอเสาไห้เลยทีเดียว

ทุกวันนี้เสาตะเคียนศักดิ์สิทธิ์ต้นนั้นก็ยังประดิษฐานไว้ที่วัดสูง โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้าไปสักการะขอพรได้ในเวลา 08.30 - 16.30 น. หากใครต้องการไป ชื่นชมความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ตะเคียนทอง ก็สามารถเดินทางไปได้เลยจ้า

ขอบคุณภาพปกจาก http://Tourthai.TourismThailand.org