เด็กวัดเล่าเรื่อง - ในหลวงทรงขับรถมาหาหลวงตาบัว-ถวายทองตั้งผ้าป่าช่วยชาติ

อดีตเด็กวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เล่านาทีสุดประทับใจ เหตุการณ์วันที่ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงขับรถด้วยพระองค์เอง จากพระตำหนักภูพานฯ เพื่อสนทนาธรรมกับหลวงตามหาบัว เมื่อปี 2522 และอีกครั้งปี 2541 ได้ถวายทองคำ ตั้งต้นโครงการผ้าป่าช่วยชาติ...

วันที่ 26 ต.ค. ที่วัดป่าเกสรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด หมู่ 1 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2522 พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัด ได้กำชับพระเณรในวัดว่า "วันนี้จะมีบุคคลสำคัญเข้ามา จงพากันทำความสะอาดวัดให้เรียบร้อย อย่าให้บกพร่อง" และเย็นในวันนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินมาสนทนาธรรมกับหลวงตามหาบัว โดยประทับรถยนต์ส่วนพระองค์มาจอดภายในวัด มีชาวบ้านตาดที่ทราบข่าว รอรับเสด็จอยู่รอบศาลาวัด
 

นายพงศธร ศิริรัตน์ อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ผังรายการและโทรทัศน์ สถานีวิทยุและโทรทัศน์เสียงธรรมเพื่อประชาชน จ.อุดรธานี อดีตเด็กวัดป่าบ้านตาด เล่าว่า ตนเป็นชาวบ้านตาดโดยกำเนิด ทั้งยังเป็นเด็กวัด เข้ามารับใช้หลวงตาและพระภายในวัด จนได้รับความไว้วางใจ หลวงตาได้เมตตาส่งเรียนหนังสือจนจบปริญญาโท จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และกลับมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในสถานีวิทยุเสียงธรรม
 

นายพงศธร เล่าอีกว่า เมื่อครั้งในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ขณะนั้นตนอายุแค่ 12 ปี เรียนชั้น ป.2 จำได้ว่าประมาณ 4 โมงเย็น วันที่ 10 พฤศจิกายน เห็นรถตำรวจทหารขับเข้ามาในวัด ตนได้สอบถามพระในวัดว่า ใครมา จึงทราบว่าในหลวงประทับรถยนต์ เสด็จฯ มาส่วนพระองค์ ทรงขับรถมาด้วยพระองค์เอง เพราะคงอยากเห็นสภาพที่แท้จริง เพื่อจะนำโครงการต่างๆ มาช่วยเหลือ ซึ่งในวันนั้น ในหลวง ร.9 ทรงเข้าไปสนทนาธรรมกับหลวงตาอยู่บนศาลาวัดอยู่ได้ 2 ชั่วโมงแล้ว ตำรวจทหารเพิ่งจะขับรถตามมาภายหลัง 
 

หลวงตาจึงให้โอวาทว่า 
“มหาบพิตร ! พระองค์เป็นถึงพระเจ้าอยู่หัว เป็นเจ้าชีวิตของชนทั้งชาติ หากพระองค์เสด็จมาโดยลำพัง มีอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น จะเป็นความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ถ้าพระองค์เป็นอะไรขึ้นมา คนทั้งชาติจะไม่เหยียบหลวงตาบัวมิดแผ่นดินหรือ ?”

“กลัวจะเป็นการรบกวนองค์หลวงตา”
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสพร้อมพนมพระหัตถ์ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส

“รบกวน ไม่รบกวนจะเป็นอะไร แผ่นดินนี้เป็นของพระองค์ พระองค์พึงมาได้ทุกเมื่อ” 
จากนั้นหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ถวายธรรมะหลายประการ
 

จากนั้น เมื่อเสด็จลงมาจากศาลา ได้พูดคุยสอบถามชาวบ้านที่มารอรับเสด็จ ซึ่งขณะนั้นมืดแล้ว วัดไม่มีไฟฟ้า ตนได้เห็นพระองค์และได้กราบด้วย ซึ่งในหลวงทรงขับรถออกมาจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เอง ไม่ได้ทรงบอกทหารใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะเอิกเกริกรบกวน ต้องการเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์
 

"ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2541 ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ไปกราบหลวงตาที่สวนแสงธรรม หลังสนทนาธรรมเสร็จ ในหลวงได้ถวายทองคำและเงินสดไม่ทราบจำนวนแน่ชัด เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในโครงการผ้าป่าช่วยชาติ" นายพงศธร กล่าว

ขณะที่ นายสวง นันยาย อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับเสด็จในหลวง รัชกาลที่ 9 อยู่ใต้ศาลาวัดป่าบ้านตาด เล่าว่า หลังมีคนมาบอกว่าในหลวงเสด็จฯ มาสนทนาธรรมกับหลวงตา ที่วัดป่าบ้านตาด ตนก็มารับเสด็จที่ใต้ศาลา เมื่อพระองค์เสด็จลงมา ได้มาประทับลงเบื้องหน้าตน หัวเข่าของตน และพระชานุ (เข่า) พระองค์แทบจะชนกัน ตนรู้สึกตื่นเต้นมาก

ในหลวงได้ตรัสถามตนว่า "ทางไปหนองประเสริฐ ห้วยสามพาดไปทางไหน" ตนก็บอกพระองค์ไป พระองค์จึงทรงบอกว่าจะถามเจ้าหน้าที่อีกที ซึ่งในวันนั้น มีช่างภาพในหมู่บ้านตาดได้ถ่ายรูปในหลวงทรงสอบถามทางกับตนไว้ และนำไปล้างอัดมา 1 แผ่น แล้วนำมาขายให้ตน 200 บาท แต่ตนไม่มีเงินซื้อภาพเก็บไว้ ฐานะยากจน ยังรู้สึกเสียใจที่ไม่มีเงินซื้อรูปเก็บไว้
 

"มาวันนี้ได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาปรับใช้ ทำไร่นาสวนผสมจาก 6 ไร่ ขยายเป็น 70 ไร่ อยู่บริเวณหลังวัดป่าบ้านตาด พออยู่มีกินสบาย ไม่ลำบากเหมือนก่อนแล้ว แต่หลังทราบว่าในหลวงเสด็จสวรรคต ก็รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด ไม่รู้จะบอกออกมาได้อย่างไร" นายสวง กล่าว ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้น และปล่อยโฮออกมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่อัดแน่นอยู่ในอก.