Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ป้องกันลูกอย่างไรไม่ให้เป็นภูมิแพ้

Posted By Plook Parenting | 26 ส.ค. 59
5,253 Views

  Favorite

 

พ่อแม่ลูก
ภาพ pixabay

 

โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่ภูมิในร่างกายมีปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งแวดล้อมบางอย่างไวกว่าคนปกติ ส่งผลให้เกิดอาการแสดงได้ในหลายระบบของร่างกาย เช่น ทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร  โรคภูมิแพ้จัดเป็นกลุ่มอาการที่เกิดกับเด็กในอันดับต้น ๆ ที่พบบ่อยคือ การแพ้อาหารบางอย่าง เช่น นมวัว  ไข่ ถั่วเหลือง อาหารทะเล และแป้งสาลี อาการแพ้แสดงออกได้หลายลักษณะ ทางระบบผิวหนังได้แก่ ผื่นคัน ผื่นลมพิษ อาการของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย ซึ่งอาจทำให้เด็กเจริญเติบโตไม่สมวัย และอาการของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ คัดจมูก หายใจเหนื่อยหอบ อาจเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของลูก นอกจากนี้เด็กอาจมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้นไปอีกถ้าพ่อหรือแม่มีประวัติการเป็นภูมิแพ้มาก่อน พ่อแม่จึงควรใส่ใจดูแลเพื่อป้องกันการเกิดภูมิแพ้ให้กับลูกรอบด้าน

 

วิธีการป้องกัน

1.เริ่มดูแลลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยต้องให้ลูกมีสิ่งแวดล้อมที่ดีตั้งแต่อยู่ในท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่ารับประทานอาหารที่มีโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่ายมากเกินไป เช่น อาหารทะเล ไข่ ถั่วลิสง นมวัว ช็อกโกแลต ผลิตภัณฑ์จากนม แป้งสาลี เพราะอาจทำให้ลูกได้สัมผัสกับสิ่งก่อภูมิแพ้เหล่านี้เร็วเกินไป

 

ตั้งครรภ์
ภาพ pixabay

 

2.ในเด็กแรกเกิดภูมิในร่างกายยังน้อยควรเน้นให้เด็กได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวให้นานที่สุด อย่างน้อยช่วง 6 เดือนแรกและพยายามหลีกเลี่ยงนมวัว นมถั่วเหลือง นมแพะ นมแกะ ทั้งนี้เนื่องจากมีโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

 

อุ้มลูก
ภาพ pixabay

 

3.ให้อาหารเสริมเมื่อเด็กมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยให้เด็กกินอาหารเสริมทีละชนิด และสังเกตว่ามีการแพ้อาหารที่ให้หรือไม่ภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะให้อาหารเสริมชนิดใหม่ โดยเริ่มจากอาหารเสริมที่ทำให้เกิดอาการแพ้น้อย ได้แก่ ข้าวบด กล้วยน้ำว้า ฟักทอง น้ำต้มหมู น้ำต้มไก่ ผักใบเขียว

 

ทารกกินข้าว
ภาพ pixabay

 

4.เด็กในวัย 1-6 ปี ควรได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ในแต่ละวันควบคู่ไปกับการดื่มนม และให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะน้ำเป็นตัวช่วยกระจายสารอาหารต่าง ๆ เพื่อสร้างเป็นภูมิคุ้มกัน ถ้าร่างกายมีปริมาณน้ำเพียงพอก็สามารถกระจายสารอาหารไปได้อย่างทั่วถึง

 

เด็กกินข้าว
ภาพ pixabay

 

5.เด็กควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด มีฝุ่นหรือมลพิษให้น้อยที่สุด รวมถึงคุณพ่อคุณแม่และคนใกล้ชิดต้องงดสูบบุหรี่ไม่ว่าจะนอกบ้านหรือในบ้านก็ตาม

 

เด็กน่ารัก
ภาพ pixabay

 

6.เปิดโอกาสให้ลูกได้ออกไปเรียนรู้อย่างเต็มที่กับกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้านที่เขาเลือกเองบ้าง เช่น การเล่นดินทรายตามสวนสาธารณะ ทำกิจกรรมในสวนสนุก วิ่งเล่นเพื่อน หรือเข้าร่วมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่พร้อมจะให้ลูกได้ลุย ได้เลอะเทอะ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและร่างกายให้แข็งแรงพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต

 

เดินเล่น
ภาพ pixabay

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Parenting
  • 8 Followers
  • Follow