Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 2/2561

Posted By Plook Teacher | 17 ก.พ. 61
3,721 Views

  Favorite

นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้องประชุมจันทรเกษม อาคารราชวัลลภ โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. เป็นประธานการประชุม และศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุม

 

● รับทราบข้อมูลบัญชีผู้สอบแข่งขันครูผู้ช่วย ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี

ที่ประชุมรับทราบข้อมูลบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี และเห็นชอบให้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาการขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ดังนี้

           - สำนักงาน กศน. ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้

           - สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีผู้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ และยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชีคงเหลือ จำนวน 5,161 คน จะครบอายุการขึ้นบัญชีวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งจะเรียกบรรจุเร็ว ๆ นี้ 737 คน จะมีผู้ขึ้นบัญชีคงเหลือ 4,424 คน

           - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีผู้ขึ้นบัญชีสอบแข่งขันได้ และยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชีคงเหลือ จำนวน 13,848 คน จะครบอายุการขึ้นบัญชี วันที่ 27 เมษายน 2561 นอกจากนี้เมื่อได้รับจัดสรรคืนอัตราจาก คปร. และจะต้องนำมาแบ่งสัดส่วนเพื่อนำไปใช้ในการคัดเลือกกรณีพิเศษอีกจำนวน 25% จึงคาดว่าจะมีตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุได้อีกประมาณ 9,000 อัตรา

 

ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) สำรวจบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของแต่ละจังหวัดว่ามีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการหรือไม่ หากมีก็สามารถเรียกบรรจุได้ แต่หากไม่มีก็ให้ขอใช้บัญชีจาก กศจ.อื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนดก่อนที่จะครบอายุการขึ้นบัญชี

 

● เห็นชอบหลักเกณฑ์ฯ คัดเลือกรอง ผอ.สพท.

ที่ประชุมเห็นชอบให้ประกาศใช้บังคับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามแนวทางเดียวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งจะมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน 1 ปี

 

โดยมอบให้ สพฐ. ไปดำเนินการสำรวจอัตราผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  (เงื่อนไข) ว่าผู้ใดมีความประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โครงสร้าง) ก่อน หลังจากนั้นจึงจะประกาศตำแหน่งว่างและเปิดให้มีการคัดเลือกต่อไป

 

● เห็นชอบการเลื่อนขั้นเงินเดือนครู

ที่ประชุมเห็นชอบให้การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ดำเนินการตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550

โดยใช้บัญชีเงินเดือนชั่วคราวของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แนบท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แนบท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.7/ว 8 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 และกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องไปพลางก่อน

โดยคาดว่าการเลื่อนเงินเดือนแบบช่วงชั้น จะสามารถใช้ได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

 

● เห็นชอบหลักเกณฑ์ฯ คัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา กศน.อำเภอ

ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ สำหรับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ สังกัดสำนักงาน กศน. โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

 

           - หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ให้ใช้คัดเลือกเฉพาะตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่พิเศษ สำหรับศูนย์ กศน. อำเภอ สังกัดสำนักงาน กศน. เท่านั้น

           - ให้ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก

           - ให้สำนักงาน กศน. ตั้งคณะกรรมการกำหนดองค์ประกอบในการพิจารณาสถานศึกษาที่จะกำหนดให้เป็นสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ โดยให้คำนึงถึงพื้นที่ที่มีการจัดการเรียนรู้อยู่ในพื้นที่ที่เป็นเกาะหรือบนภูเขาสูง หรือหุบเขา หรือเชิงเขา ที่ไม่สามารถเดินทางด้วยพาหนะใด ๆ ได้สะดวกตลอดปี หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ หรือเหตุอื่น โดยอาจนำประกาศของกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา โดยพิจารณากำหนดสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ เป็นรายปี และให้ประกาศให้ทราบก่อนการดำเนินการคัดเลือกในแต่ละครั้ง ไม่น้อยกว่า 30 วัน

           - ให้ประกาศตำแหน่งว่างปัจจุบันและสถานศึกษาที่จะบรรจุและแต่งตั้งให้ผู้สมัครทราบก่อนดำเนินการคัดเลือก

           - ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในวันสมัครและวันบรรจุและแต่งตั้ง และให้เลือกสมัครได้เพียงสถานศึกษาใดสถานศึกษาหนึ่งเท่านั้น ถ้าสมัครหลายแห่งจะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด

           - การประเมินมีทั้งหมด 4 ด้าน ๆ ละ 50 คะแนน รวม 200 คะแนน คือ 1) ประวัติและประสบการณ์ 2) ประเมินผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาและผลงานที่ภาคภูมิใจ 3) แนวคิดในการพัฒนาสถานศึกษาที่สมัครคัดเลือก และ 4) สัมภาษณ์

           - ผู้ได้รับการคัดเลือก จะต้องได้คะแนนแต่ละด้านไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนรวมจากมากไปหาน้อย

           - ผู้ได้รับการคัดเลือก ต้องผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง และต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 4 ปี จึงจะขอย้ายออกนอกสถานศึกษานั้นได้

           - ไม่มีการขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก

 

● เห็นชอบแต่งตั้งอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญ

ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้ง นายสาโรช บุตรเนียร เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แทนนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow