Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

LOW COST photographer "เที่ยวสะสมไมล์ ถ่ายสะสมฝีมือ"

Posted By Plook Panya | 02 พ.ค. 57
9,687 Views

  Favorite

เรื่อง: กัลยาณี แนวเล็ก  ภาพ: สุทธา สถาปิตานนท์  พงษ์ระวี แสงแข  และ ณัฐพงษ์ โปธา  ภาพประกอบ: วันนิตา จุนถาวร

Alfred Eisenstaedt ช่างภาพระดับโลกเคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่กล้องถ่ายรูป แต่อยู่ที่มุมมอง” ถ้าความฝันของเราคือการเดินทางไปถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก แต่เมื่อก้มลงมองอุปกรณ์ในมือ เรายังเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นที่ต้องพึ่งตั๋วชั้นประหยัดอยู่เลยก็ไม่เป็นไร เพราะในเมืองไทยก็มีสถานที่ให้คุณลองลงสนามถ่ายภาพเสมือน(ว่าไปมา)จริงๆ เพื่อฝึกฝีมือ สะสมไมล์ไว้ก่อน

เรามีโจทย์เป็นสถานที่ท่องเที่ยว 6 แห่งในเมืองไทยที่ให้อารมณ์เหมือนเมืองนอกไว้ให้คุณแล้ว เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม จะกล้อง compact กล้อง mirrorless หรือกล้อง DSLR ก็จัดมา เตรียมตัวเตรียมใจเผื่อไปถึงจุดหมายแล้วท้องฟ้าไม่เป็นใจ ก็เปลี่ยนมามุมมองภาพถ่ายได้ตามที่ฟ้าประทาน พร้อมแล้วสองมือถืออุปกรณ์สองเท้าออกเดินทางได้เลย

 

หยวนหยางหยวนหยางเมืองไทย

นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง

อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

SPOT เมืองมรดกโลกอย่างหยวนหยาง เมืองแห่งนาขั้นบันได อยู่ทางตอนใต้ของยูนนาน ประเทศจีน มักมีช่างภาพรีวิวถึงความสวยงามยามแสงตกกระทบของท้องฟ้าและพระอาทิตย์ลงมาที่นาไล่เฉดสวยงามในฤดูที่น้ำเต็มนาขั้นบันได หรือจะเป็นช่วงฤดูทำนาสีเขียวที่ไล่เฉดลดหลั่นกันไป อื้อหือ ทำเอาอยากเสพบรรยากาศพร้อมรัวชัตเตอร์เหลือเกิน

 

BEST SHOT ด้วยงบที่มีน้อยนิด ตากล้องชั้นประหยัดเดินทางไปเชียงใหม่ ณ บ้านป่าบงเปียงของชาวปกาเกอะญอ ผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทั้งนาขั้นบันได ไร่ข้าวโพด ล้อมรอบไปด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็อดลั่นชัตเตอร์ไม่ได้ ถ้าอยากได้ภาพทุ่งนาสีเขียวสุดลูกหูลูกตาต้องไปช่วงต้นกันยายนถึงปลายตุลาคม แต่ถ้าอยากเห็นทุ่งนาสีทองอร่ามตาต้องเดือนพฤศจิกายน หากถามถึงช่วงเวลาในการถ่ายรูปล่ะก็ อยากแนะนำช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจะมีทะเลหมอกกับแสงอุ่นๆ ยามเช้า หรือจะเป็นยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่มีแสงสีส้มลอดผ่านก้อนเมฆมากระทบทุ่งนาและขุนเขาก็สวยไม่หยอก แต่ต้องพึ่งขาตั้งกล้องหากอยากได้ท้องฟ้าสีส้มไล่ไปสีน้ำเงินคลุมท้องนาขั้นบันไดได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ป่าบงเปียง

 ป่าบงเปียง

 

GET THERE เส้นทางแรก จากดอยอินทนนท์ ขับรถกระบะ หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับไปทางดอยอินทนนท์จนถึงด่านของอุทยาน เลี้ยวไปยังทางแยกที่จะไปแม่แจ่ม ขับเรื่อยๆ จนพบป้ายน้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้ายนั้น ขับเรื่อยไปก็จะถึงบ้านป่าบงเปียง หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้ บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากจอมทอง หรือรถกระบะนำเที่ยว เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองแม่แจ่ม ซึ่งจะใกล้และเส้นทางดีกว่า สามารถใช้บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากแม่แจ่ม ค่าบริการไปกลับ 1200 บาท (นั่งได้ 10 คน)

 

ภูเขาไฟฟูจิฟูจิ

ภูป่าเปาะ

จ.เลย

SPOT ภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปกับฟูจิซังก็ยังมาไม่ถึงญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วย 

 

BEST SHOT ฟูจิเมืองเลย หรือภูหอ หรือชาวบ้านเรียกว่าเขาจุกหัวนม ด้วยความที่เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบ ทำให้มองแล้วดูคล้ายภูเขาไฟภูจิ โดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอก ถึงแม้จะไม่มีหิมะปกคลุม แต่ด้วยรูปพรรณสัณฐานก็คล้ายอยู่มาก สำหรับจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูปฟูจิเมืองเลย คือ ภูป่าเปาะ เขาอีกลูกที่เป็นจุดชมวิว มีจุดชมวิว 4 จุด ถ้าอยากได้ภาพที่ใกล้เคียงกับฟูจิซังต้องมาช่วงหน้าหนาวมีทะเลหมอกล้อมรอบภูหอได้บรรยากาศสุดๆ แต่ถ้ามาช่วงหน้าร้อนก็จะได้บรรยากาศทุ่งหญ้าและขุนเขาสีเหลืองทองก็สวยไม่เบา หรืออยากได้ภาพแบบสีเย็นๆ สบายตาอย่างภูเขาสีเขียว และท้องนาของชาวบ้านก็ต้องฤดูฝน ขยับมาอีกนิดช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะได้ภาพแนวนาข้าวสีทองอยู่กลางหุบเขา ต่างฤดูก็สวยกันไปคนละแบบ

ภูป่าเปาะ

ภูป่าเปาะ

 

GET THERE รถอีแต๊กคือยานพาหนะ สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวของภูป่าเปาะ จะคล้ายรถไถนาถูกดัดแปลงให้มีที่นั่งทั้งข้างหน้าและหลัง นั่งได้ประมาณ 4-5 คนต่อ 1 คัน ค่าบริการคนละ 60 บาท

ภูป่าเปาะ

 

 


ซากุระซากุระ

ภูลมโล

จ.พิษณุโลก

SPOT อีกสักโลเคชั่นเสมือนญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัยมีเทศกาลฮานามิหรือเทศกาลชมดอกซากุระ ในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคม เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตในสมัย เฮอันจนถึงปัจจุบัน สำหรับคนไทยเราจะรู้สึกว่่าดอกพญาเสือโคร่งก็สวยไม่แพ้ซากุระเลย

 

BEST SHOT นางพญาเสือโคร่งเป็นต้นไม้ในวงศ์เดียวกับต้นซากุระของญี่ปุ่น เวลาออกดอกเบ่งบานจะมีสีชมพูสวยงามดูคล้ายดอกซากุระ เวลาออกดอกเบ่งบานจะมีสีชมพูสวยงามคล้ายดอกซากุระ ต้นซากุระเมืองไทยปลูกกันในหลายพื้นที่แต่เราเลือกไปที่ภูลมโล โลเคชั่นน้องใหม่ที่กำลังบูมเพราะไม่ไกลจากกรุงเทพ ภูลมโลเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อสามจังหวัด เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกดอกพญาเสือโคร่งมากที่สุดในไทยอีกด้วย ถ้าอยากแชะภาพสวยๆ ต้องมาช่วงกลางฤดูหนาวประมาณเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ จะได้ภาพสีชมพูของดอกไม้ตัดกับสีฟ้าเข้มของท้องฟ้า จนแทบไม่อยากวางกล้องลงเลย

 

ภูลมโล

ภูลมโล

 

GET THERE มีสองเส้นทางสู่ทุ่งซากุระ ที่ภูลมโล เส้นทางแรกขึ้นทางบ้านร่องกล้า พิษณุโลก ค่ารถเช่าที่ภูลมโล ไม่เกิน 5 คน 600 บาท ตั้งแต่ 6-10 คน คิด 1,000 บาท เหมาคันแบบไม่จำกัดเวลา เฉลี่ยแล้วคนละ 100-120 บาท ระยะทางจากหมู่บ้านไปถึงแปลงสุดท้ายประมาณ 11 กิโลเมตร ทางเป็นลูกรังที่รถยนต์ขึ้นไม่ได้ ต้องกระบะสูงเท่านั้น เส้นทางที่สองบ้านกกสะทอน เลย เส้นทางลำบาก ต้องใช้รถกระบะยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น หรือจะเช่ารถของกลุ่มการท่องเที่ยวชาวบ้านกกสะทอนก็ได้คันละ 1,500 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

 

กุ้ยหลินกุ้ยหลิน

เขาสกหรือเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)

จ.สุราษฎร์ธานี

SPOT กุ้ยหลิน เมืองทางตอนใต้ของจีนขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งภูเขาและแม่น้ำบรรจบกัน มีลักษณะเป็นที่ราบแอ่งกระทะและมีเทือกเขาขนาดเล็กคดเคี้ยวยาวต่อเนื่องกัน นอกจากนี้ยังเป็นเขตหินปูนขาวคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของประเทศ จึงมีถ้ำหินปูนอยู่มากมาย 

 

BEST SHOT เป็นที่รู้กันว่ากุ้ยหลินเมืองไทยคือเขาสก ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นภูเขาหินปูนยอดแหลม ท่ามกลางสายน้ำของเขื่อนเชียวหลาน สวยจนแทบไม่อยากวางกล้องลง ภาพของหมอกจางๆ กระทบกับแสงแดดเหนือน้ำฉากหลังเป็นภูเขารายล้อมในช่วงเช้าดูอบอุ่นไม่เบา อีกโลเคชั่นหนึ่งอาจเรียกได้ว่า ถ้าไม่ได้ไปก็ยังไม่ถึงกุ้ยหลินเมืองไทย เขาสามเกลอหรือภูเขาหินกลางน้ำ ถ้าไปช่วงที่แสงกำลังพอดี ท้องฟ้าสีเข้ม สายน้ำสีมรกตสะท้อนแสงแดดเป็นฉากหลัง ขับให้เขาสามเกลอโดดเด่นออกมาสวยงาม ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวที่เขาสกอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเมษายน

เขาสก

เขาสกเขาสก

 

GET THERE บริการเรือเช่าตรงจุดขึ้นเรือบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน ค่าเรือขึ้นอยู่กับความใกล้ไกลของสถานที่ มีเรือ 2 แบบ เรือเล็ก 10 ที่นั่ง และเรือใหญ่ 20 ที่นั่ง ถ้าอยากเสพบรรยากาศให้ครบทุกรูปแบบ ราคาไปรับ-ส่งพร้อมชมกุ้ยหลินเมืองไทยประมาณ 1,500-2,200 บาท บวกค่าเที่ยวถ้ำปะการังอีกประมาณ 600 บาท บวกค่าล่องเรือชมสายหมอกประมาณ 500 บาท

 

สโตนเฮนจ์สโดนเฮนจ์เมืองไทย

มอหินขาว

จ.ชัยภูมิ

SPOT มรดกโลกอย่างฟูจิเมืองไทยก็ไปมาแล้ว อยากไปเยือนถิ่น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสักครั้ง สโดนเฮนจ์ (Stonehenge) กลุ่มหินประหลาดที่คาดว่าถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว เป็นที่น่าสงสัยว่าคนสมัยนั้นสามารถยกแท่นหินที่มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร บ้างก็ว่าสร้างขึ้นมาเพื่อประกอบพิธีกรรม บ้างก็ว่าเกี่ยวกับดาราศาสตร์ แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้

 

        มอหินขาวมอหินขาว

มอหินขาว

BEST SHOT ลักษณะหินตั้งเรียงรายแบบนี้ในไทยก็มีที่มอหินขาว เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ท่ามกลางทุ่งหญ้าบนเนินเขา ต่างกับสโตนเฮนจ์ที่อังกฤษตรงที่มอหินขาวแท่งหินถูกกัดกร่อนตามธรรมชาติจนกลายมาเป็นลักษณะของเสาหินและแท่งหิน ถ้ามาช่วงฤดูฝนก็จะพบกับสีสันของดอกไม้ป่าที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง เราจะได้ภาพแข็งแกร่งของหินที่แวดล้อมไปด้วยดอกไม้ป่าดูขัดแย้งแปลกตาดี แนะนำให้มาช่วงธันวาคมถึงมกราคม อากาศหนาวเย็นกำลังดี ท้องฟ้าก็สดใส ถ่ายภาพมุมกว้างได้ทั้งดอกไม้ใบหญ้า ตรงกลางเป็นแท่งหินเรียงราย โลเคชั่นนี้มีลานกางเต็นท์ใกล้กับอาคารหน่วยพิทักษ์ฯ พร้อมบริการเต็นท์ให้เช่า 100 บาทต่อคืน ถ้ามีเวลาค้างคืนจะได้ถือขาตั้งกล้องมารอถ่ายดาวให้ฉากให้เป็นแท่งหิน ฉากหลังเป็นดวงดาวเป็นเส้นๆ

 

GET THERE การเดินทางค่อนข้างสะดวกจะขับรถมาเองหรือจะเหมารถจากตัวเมืองชัยภูมิเพื่อไปยังมอหินขาวก็ได้

 

ฮาลองเบย์ฮาลองเบย์

สามช่องใต้

จ.พังงา

SPOT สะสมไมล์ไปมาทั่วโลก(หรอ) ลองหาโลเคชั่นถ่ายรูปชิลล์ๆ กันบ้างดีกว่า ที่ฮาลองเบย์ เวียดนาม เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เต็มไปด้วยเกาะกว่า 3,000 เกาะ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม การันตีด้วยการได้รับประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก

 

BEST SHOT สบายกระเป๋าตากล้องชั้นประหยัดเมื่อเมืองไทยเรามี สามช่องใต้ หมู่บ้านประมงเล็กๆ ณ ท้องทะเลอันดามัน แม้จะไม่กว้างขวางเท่าฮาลองเบย์แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน เสน่ห์ของที่นี่คือแสงยามเช้า ตั้งแต่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากสีน้ำเงินไล่มาจนประทับสีทองของพระอาทิตย์ สะท้อนกับผืนน้ำ บวกกับวิถีชีวิตของชาวประมง หากสายอีกนิดพระอาทิตย์เปล่งแสงสีทองสะท้อนกับผิวน้ำ ยิ่งเป็นภาพที่น่าหลงใหลสำหรับตากล้องทุกคน

สามช่องใต้

     สามช่องใต้   สามช่องใต้

สามช่องใต้

 

GET THERE ขับรถส่วนตัวใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปจนถึง จ.ชุมพร จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง จ.สุราษฎร์ธานี เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 44 (เซาท์เทิร์นซีบอร์ด) ทะลุออกเส้น 1002 แยกออกไปทาง อ.ตะกั่วทุ่ง ถึง ต.กะไหล เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านสามช่องใต้ รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงบ้านสามช่องใต้ จ.พังงา ประมาณ 800 กม.  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง

 

เลนส์กล้อง

ใช้เลนส์ให้ถูกกับวิว

เลนส์ normal 
ให้ภาพที่สายตาปกติเห็น เลนส์ยอดนิยมของประเภทนี้ คือ lens 50mm. f1.8 สำหรับถ่ายภาพบุคคล

เลนส์ tele 
เป็นเลนส์ซูม ให้ความรู้สึกเหมือนส่องกล้องส่องทางไกล เหมาะสำหรับการถ่ายภาพนก หรือสัตว์ที่อยู่ไกล

เลนส์ wide 
หรือเลนส์มุมกว้าง ให้ภาพมมุมกว้าง เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ภูเขา ท้องฟ้า ทะเล ธรรมชาติ

เลนส์ macro 
ใช้ถ่ายระยะใกล้ๆ วัตถุได้มากกว่าปกติ สวนใหญ่จะใช้ถ่ายแมลง ดอกไม้

ขอบคุณข้อมูล

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น

www.facebook.com/Tripschiangmai

www.เที่ยวเลย.com

www.paiduaykan.com

www.oceansmile.com

www.ilovetogo.com

travel.sanook.com

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Panya
  • 7 Followers
  • Follow