สวัสดีค่ะ ยังจำพี่แพร ADGANG 59 ได้ไหมเอ่ย (ใครอะ ไม่รู้จัก ฮ่า ๆ) ตอนนี้พี่เรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันนี้ในฐานะรุ่นพี่จะพามาส่องชีวิตเด็กเกษตร รั้วนนทรี และนี่จะเป็นการรีวิวแบบตรงไปตรงมา และน่ารักที่สุดด้วย อิอิ (อย่าแอบมองบนนะคะ) น้อง ๆ สงสัยกันใช่ไหมละ นนทรีคืออะไร คือต้นนนทรี ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้น อายุยาวนาน มีใบเขียวตลอดทั้งปี ทนทานกับสภาพอากาศทุกที่ในประเทศไทย ดั่งมหาวิทยาลัยนี้ที่เป็นศาสตร์แห่งแผ่นดิน และมีพระราชดำรัสต่อบุคลากรและนิสิต ให้ช่วยกันดูแลรักษาต้นไม้ และตนเองที่อยู่ได้ด้วยผืนแผ่นดินไทย ทุก ๆ ปีที่มีนิสิตรุ่นใหม่เข้ามา ก็จะปลูกต้นนนทรีเพิ่ม 1 ต้น ให้เป็นนนทรีประจำรุ่น

ช่วงเวลาความเป็น Freshy นั้นได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็จะขึ้นปี 2 ซะแล้ว ความคิดและสังคมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เอาตรง ๆ เลยนะ ตอนแรกไม่ได้ดีใจขนาดนั้น แอบเฟลเล็ก ๆ ด้วย เพราะหวังไว้อีกแบบ แต่ที่เลือกไว้ในอันดับแอดมิชชั่นก็เพราะมีความสนใจอยากเรียนรู้ศาสตร์ทางนี้อยู่เหมือนกัน

สำหรับคณะเศรษฐศาสตร์ที่พี่เรียน ขอให้ข้อมูลคร่าว ๆ สำหรับน้องที่อยากเรียนคณะนี้ วิชาที่หนีไม่ได้แน่ ๆ คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค, มหภาค 1 - 2 (วาดกราฟวนไปค่ะ) นอกจากนั้นก็จะเป็นวิชาที่แต่ละสาขาต้องเจอ อย่างสาขาที่พี่เรียนคือ สหกรณ์ ก็จะมีวิชาภาค บัญชี 1, 2 บัญชีภาค แคลคูลัส 1 โดยสาขานี้จะเรียนเทอมละ 6 ตัว เลิกเรียนก็มีเวลาว่างพอสมควร เหมือนจะชิว ! แต่เนื้อหาแน่นเกือบทุกวิชาจ้า ต้องแบ่งเวลาทบทวนเพื่อเก็บบทเรียน เพราะถ้ารออ่านตอนใกล้สอบบอกเลยว่าไม่ทันแน่ ๆ ตอนเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยว่าหนักแล้ว เจอ Final มหาวิทยาลัยเข้าไป โอ้โห ! หนักยิ่งกว่าหลายเท่า คะแนนอยู่ในเกรด F ก็คือตก ยิ่งบางวิชาเป็นตัวต่อกันก็ลงไม่ได้อีก เพราะตัวแรกยังไม่ผ่านก็ไม่สามารถลงเรียนตัวต่อไปได้ งานนี้ต้องคอยพยายามเกาะกลุ่มกับเพื่อนอ่านหนังสือช่วย ๆ กันติว จะได้ผ่านไปพร้อมกัน (กว่าจะผ่านไปได้น้ำตาแทบเล็ดจ้า)

อย่างช่วงแรกที่พี่เข้ามาเรียนก็ยังปรับตัวกับชีวิตมหาลัยไม่ได้ เพราะใจไม่พร้อม แบบฉันต้องซิ่วปะเนี่ย คือคิดไปไกลขนาดนั้นเลยอะ แต่พอเริ่มปรับตัวได้เท่านั้นแหละ กรี๊ด !! ฉันรู้สึกดีมาก ฉัน Happy กับที่นี่ เจอเพื่อนดี รุ่นพี่น่ารัก สิ่งแวดล้อมเริศ (อะไรจะอวยขนาดนั้น) คือมันดีจริง ๆ นะสำหรับคนที่เคยคิดจะถอยแบบพี่ พอปรับตัวได้ขึ้นมาคือก็รู้สึกดีไปเลยอะ ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลาเลยดีกว่า เราไปดูบรรยากาศในมอกันเลย

บรรยากาศรอบรั้ว ม.เกษตร

ขอเตือนน้อง ๆ ค่ะ ว่าเข้ามาครั้งแรกจะมีอาการหลงทางสุดขีด งงสุด ๆ แต่หากผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ น้องจะเชี่ยวชาญเส้นทางไปโดยปริยายค่ะ บางทียังไม่รู้เลยว่า อ้าวทางนี้ก็ไปได้หรอ ก็เพิ่งปี 1 ใส ๆ อะเนอะ ต้องมีหลงทางกันบ้าง ฮ่า ๆ ที่นี่มีรถโดยสารรับส่งบุคลากรฟรีรอบมอ ! เรียกว่า “ตะลัย” ย่อมาจาก “ตะลุยรอบมอ” รถทั้งหมดมี 5 สาย สายที่พี่นั่งบ่อยสุดคือสาย 1 เพราะผ่านคณะตัวเอง (อิอิ) นอกจากนั้นก็ผ่านหอสมุดกลาง, ศูนย์เรียนรวม, อาคารจักร ต่อด้วยสายที่ 3 ผ่านสำนักกีฬา, บาร์ใหม่ แต่ความจริงแล้วทุกสายผ่านหลายที่มากเลยนะ ซึ่งพี่ขอเล่าให้ฟังเบื้องต้นเท่านี้ก่อน กลัวว่ายาวแล้วน้องอ่านไม่ไหว เดี๋ยวจะงงไม่เข้าใจกันไปอีก เอาเป็นว่าถ้ามาเรียนที่นี่ก็จะได้นั่ง ซึ่งก็จะรู้เองนะว่าเป็นยังไงค่ะ และที่สำคัญน้องจะได้พบกับการรอจนหนำใจ (บางวันได้ขึ้น บางวันเดินเอายังเร็วกว่าฮ่า ๆ)

สำคัญมหาวิทยาลัยของเรานั้น สนับสนุนให้นิสิตออกกำลังกายค่ะ มีจักรยานให้ยืมปั่นด้วยนะ กิจกรรมทางด้านกีฬาก็มีเยอะเลย ทั้ง Fitness Club, สนามเทนนิส, เวทีมวย, โรงยิม, สระว่ายน้ำ, คอร์ดแบต (คือแบบว่า everything จิงเกอร์เบลมากจ้า) สำหรับชมรมทางด้านกีฬาก็มีหลายอย่างเลยนะ ลองมาเลือกดูได้ค่ะ ใครเข้าร่วมกิจกรรมก็จะได้คะแนนจากการสแกนบัตรนิสิตเพิ่มด้วยจ้า จบเรื่องกิจกรรมกีฬาแล้ว เรามาแวะกันที่เรื่องสะพานปลาแปบนึงดีกว่า ที่นี่มีสะพานปลาให้ทุกคนสามารถมาให้อาหารปลาได้ค่ะ ใครไปแล้วก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะสะพานปลาจะเป็นซี่ ๆ ให้เราได้เดินผ่านแบบใจเต้นรัว (ตึกตัก ๆ ) จงมีสติอยู่ทุกย่างก้าว ฮ่า ๆ อย่าก้มเล่นมือถือนะคะ เพราะโทรศัพท์ของน้องอาจจะตกไปว่ายน้ำเล่นเป็นเพื่อนปลาในบ่อได้ ส่วนใหญ่นักศึกษาที่ว่างจากเรียนก็จะชอบมาเดินเล่น ให้อาหารปลากันที่นี่บ่อย ๆ

รีวิวร้านเด็ดรอบ ม.เกษตร

มาเรื่องกินกันบ้าง ในมหาวิทยาลัยมีโรงอาหารหลายที่ ซึ่งเรียกว่า “บาร์” ตอนพี่เข้ามาวันแรกคือเข้าใจผิด เพื่อนพูดว่าไปบาร์ใหม่กัน เรานี่แบบห๊ะ !! ในมอนี่เค้ามีบาร์ได้โจ่งแจ้งขนาดนี้เลยเหรอ (ซื่ออะไรขนาดนั้นอะ ฮ่า ๆ) ซึ่งบาร์ที่ว่าก็คือโรงอาหารกลาง ที่นี่ของกินเยอะสุดแล้ว ขนาดใหญ่พอสมควร ช่วงสอบบาร์ใหม่จะเปิดให้อ่านหนังสือได้ แถมแจกของกินอร่อย ๆ ด้วยแหละ (ทั้งอ่านทั้งกินฟิน ๆ ไปจ๊ะ) ตอนเย็นถึงค่ำ ๆ มีบาร์ไนท์อยู่ข้างนอก เด็กเกษตรชอบชวนกันเดินไปหาอะไรกิน ไม่ก็ร้องคาราโอเกะ ตรงข้ามประตูงาม 1 ส่วนเราชอบกินร้านสเต็กบาร์ไนท์มาก มันบดอร่อย ต้องไปลอง !! หรือถ้าใครอิ่มแล้วง่วง ๆ ให้ไปใต้ศร. 4 มีเก้าอี้หลากสี นั่งเล่นที่นั้นก็ได้ หรือนอนก็ดี แถมมีเจ้าหมาตัวกลมขวัญใจชาวเกษตร ชื่อ “จีนแดง” ด้วย น่ารักสุด ๆ นักศึกษาชอบไปเล่นกันบ่อย ๆ

นอกจากบาร์ใหม่แล้ว ก็จะมีบาร์วิศวะ (IUP), บาร์บัส (บาร์บริหาร บาร์นี้มีสตาร์บัค), บาร์ใหม่กว่าบาร์วิทยา และร้านอาหารในคณะ (ถ้าตกหล่นอะไรขออภัยด้วยนะคะ) อย่างพี่เรียนเศรษฐศาสตร์ก็มี ร้านม่าพร ม่าที่ว่าก็คือขายยำมาม่านั้นเองค่ะน้อง ร้านนี้บอกเลยว่าต่อแถวเป็นกิโล (เวอร์ไปอีก) ส่วนล่างตึกปฏิบัติการเศรษฐศาสตร์ที่เรากินบ่อยก็คือ ร้านเบอร์เกอร์กับโซ้ยชา ถ้าพูดถึงร้านอาหารรอบมอ ส่วนตัวชอบกินสเต็ก ที่แนะนำเลยก็คือร้าน SAM ร้านนี้ราคาถูก ได้เยอะ มีเมนูให้เลือกเยอะ เด็กเกษตรกินกันจนจะเป็น แซมเลิฟเวอร์แล้วเนี่ย ฮ่า ๆ และอีกร้านที่แนะนำเลยคือ Gorilla Grill เด็กโยธินน่าจะรู้จักเพราะมีสาขาหน้าโรงเรียน ร้านนี้ราคาสูงขึ้นมานิดนึง แต่บรรยากาศดีกว่า ใครชอบกินบิงซูชาเย็นก็ไปกินกันได้ เพราะราคาแค่ 99 บาท แต่ได้ขนาดใหญ่อลังการ ถ้าใครยังคิดว่าแค่นี้ไม่อิ่ม แบบว่ามีที่อื่นอีกไหมค่ะพี่ ก็สามารถเดินไปที่ร้าน Home Village ซอยอมรพันธ์ อยากกินอะไรเดินเลือกเลย เพราะย่านนี้ของกินเยอะมาก แต่ที่สำคัญอย่าเดินกินอย่างเดียว จ่ายตังด้วยนะ ฮ่า ๆ

กิจกรรมในมหาวิทยาลัย

มาต่อกันเรื่องกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยบ้างดีกว่า มหาวิทยาลัยของเรานี่บอกเลยว่า เปิดเร็ว ปิดช้า เพราะหยุดบ่อยค่ะ ช่วงรับปริญญาก็หยุดเป็นอาทิตย์ ไหนจะเกษตรแฟร์อีก แต่ถามว่าหยุดบ่อยแบบนี้ชอบไหม ตอบเลยว่าชอบมาก ฮ่า ๆ อย่างงานเกษตรแฟร์ ใช้เวลาดำเนินงานประมาณหนึ่งสัปดาห์ ในงานก็จะมีขายอาหาร ต้นไม้ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ สมุนไพร เป็นกิจกรรมที่นิสิตได้ทั้งความเพลิดเพลิน และประสบการณ์จากการขายสินค้า อย่างคณะเศรษฐศาสตร์เราจะขายเป็นร้านสเต็ก คณะอุตสาหกรรมเกษตร (Have a seat) คณะสัตวแพทย์ (Vet restaurant) คณะวิทยาศาสตร์ (จิ้มจุ่มวิทยา) คณะประมง (ประมงซีฟู้ด ) ฯลฯ บอกเลยว่าทุกคณะมีร้านมาออกงานกันหมด ขายกันแบบกำไรก็อยากได้ ความสนุกสนานก็อยากมี งานนี้ใครไม่เคยต้องลองนะ เพราะเราจะได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนและรุ่นพี่ในคณะ ช่วยกันเปิดร้าน ช่วยกันขายของ ช่วยกันเชียร์แขกให้เข้าร้าน คือแบบว่าเงินต้องต้องนับ สตางค์ก็ต้องทอน แถมยังต้องเรียกคนเข้าร้านอีก แยกสมองมึนเลยค่ะน้อง แต่ถึงจะมึนขนาดไหนก็เป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ เลยล่ะ

สำหรับใครที่สนใจอยากเข้าชมรม ก็สามารถศึกษาข้อมูลได้ เพราะทุกชมรมจะมีกิจกรรมที่จัดขึ้นกันหมด ซึ่งก็มีหลายชมรมให้น้องได้เลือกมากมาย ถ้าเป็นค่ายด้านบำเพ็ญประโยชน์ ก็จะจัดค่ายอาสาไปช่วยเหลือ ทาสีโรงเรียน ปลูกป่า ฯลฯ หรือบางที่ก็มีฝึกซ้อมเพื่อเล่นดนตรีตามงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ได้ทั้งเพื่อน รุ่นพี่ มิตรภาพจากชมรม เหมือนเป็นครอบครัว รู้สึกอุ่นใจและสนุกสนานทุกครั้งที่ได้เข้าชมรม อย่างพี่ก็ชอบฟังเพลง ร้องเพลง ก็จะคอยตามไปดูคอนเสิร์ตจากชมรมตัวเองและชมรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้น ล่าสุดไปคอนเสิร์ต KU Band มา อลังการงานสร้างมาก เป็นโชว์ที่ประทับใจมาก ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องมาสัมผัสเองนะ แล้วจะรู้ว่าเด็ดขนาดไหน

นอกจากจะมีนนทรีเกมส์ ซึ่งเป็นกีฬาประจำมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยังมีกีฬาสีคณะด้วยนะ เป็นกิจกรรมที่แต่ละคณะจัดขึ้น เพื่อนสร้างความสุขและทำให้ทุกคนรักกัน ได้ทำความรู้จักกันเพิ่มขึ้น เพราะพอกีฬาสีคณะจบ ทุกคนก็จะสนิทกันไปเองเกือบทั้งภาค ซึ่งก็ทำให้ชีวิตมหาลัยสนุกไปอีกแบบ ช่วงเล่นก็เต็มที่ ช่วงสอบก็อ่านหนังสือกันเต็มที่ค่ะ (ช่วยกันติวหนังสือก่อนสอบ อดหลับ อดนอนกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ )

การเดินทางไปกลับ ม.เกษตร

สำหรับการเดินทางไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็มีหลายช่องทางให้เลือก มีทั้งการนั่งรถสองแถว นั่งเรือข้ามฟาก และรถเมล์ สำหรับเส้นทางการเดินทางฝั่งประตูงามวงศ์วาน ก็จะมีรถเมล์สาย 24 ประชานิเวศน์ 3 - อนุเสาวรีย์ , สาย 63 ตลาด อตก. - อนุเสาวรีย์ , สาย 144 อู่นครอินทร์ - แยกลำลูกกา , สาย 545 ท่าน้ำนนท์ - ม.เกษตร ส่วนฝั่งประตูพหลโยธิน ก็จะมีสาย 26 มีนบุรี - อนุสาวรีย์ , สาย 34 รังสิต - หัวลำโพง , สาย 59 รังสิต - สนามหลวง , สาย 512 หมอชิตใหม่ - ปากคลองตลาด และประตูฝั่งวิภาวดี ก็มีรถเมล์สาย 39 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต - อนุสาวรีย์ , สาย 42 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต -อนุสาวรีย์ , สาย 510 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต - อนุสาวรีย์ , สาย 513 สำโรง - รังสิต , สาย 522 รังสิต - อนุสาวรีย์ ใครอยู่ฝั่งไหนก็สามารถเลือกการเดินทางตามความสะดวกได้เลยจ้า เพราะรถที่จะเดินทางมาที่ ม.เกษตร มีค่อนข้างมาก ซึ่งค่อนข้างสะดวกกับการเดินทางมาก ๆ เลย

รวมหอเด็ดรอบมหาวิทยาลัย

สำหรับใครที่กำลังหาที่พักอยู่นั้น พี่ก็มีหอพักมาแนะนำสำหรับคนบ้านไกล ย้ายจากต่างจังหวัด มาแบ่งปันเพื่อเป็นทางเลือกและข้อมูลในการหาหอพัก ได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น เอาล่ะ ไปดูกันเลยว่ารอบรั้ว ม.เกษตร จะมีที่ไหนน่าสนใจให้เราเข้าไปอยู่ได้บ้าง

หอใน

สำหรับหอในของ ม.เกษตร นั้นจะแยกเป็นตึกหญิงและตึกชาย ซึ่งจะแยกอยู่กันคนละตึกเพื่อความเป็นระเบียบ และความเหมาะสมนั้นเอง ส่วนขนาดของห้องนั้นกว้างประมาณ 45 ตร.ม. คิดค่าใช้จ่ายเดือนละ 2,300 บาท ค่าน้ำ/ไฟ จ่ายแยก สำหรับรูมเมทร่วมห้องกำหนดไว้ให้อยู่ห้องละ 3 - 4 คน แล้วแต่หอ ซึ่งสามารถเลือกรูมเมทห้องเองได้ การอยู่หอในมีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน แต่ไม่บังคับว่าจะต้องเข้าร่วมทุกครั้ง ให้ทำกิจกรรมตามความสมัครใจ และการเดินทางก็มีรถตะไลรับส่งไปมอทุก 15 - 30 นาที ซึ่งค่อนข้างสะดวกเรื่องการเดินทาง และประหยัดเงินเอามาก ๆ

หอนอก

- หอพลอยจีน ราคาห้องอยู่ที่ 4,500 - 6,000 มีทั้งห้องพัดลมและแอร์ตามราคาที่กำหนดไว้ ภายในห้องก็เฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ ส่วนค่าน้ำ/ไฟ ค่าเน็ต ต้องจ่ายแยก ใต้หอของกินเยอะมาก ร้านอาหารตามสั่ง 3 ร้าน ก๋วยเตี๋ยว 1 ร้าน คือนี่แค่หน้าหอนะ หน้าปากซอยนี่มีร้านอีกเพียบเลยล่ะ แถมที่นี่ยังมีเครื่องซักผ้าให้บริการด้วยนะ ค่าซักผ้าก็ไม่แพง 20 บาทเท่านั้นเองจ้า

- หอเกษตรวิลล่า ราคาแต่ละห้องไม่เหมือนกัน เรทราคาก็จะอยู่ประมาณ 8,000 – 10,000 นิด ๆ ค่ะ สภาพห้องและเฟอร์นิเจอร์แต่ละห้องไม่เหมือนกันนะ ชอบแบบไหนมาเลือกห้องดูเองเลยจ้า ส่วนค่าน้ำ/ไฟ แยกจ่ายตามมิเตอร์ และเน็ตต้องติดเองค่ะ

หอพลชนะเพลส ราคาห้องอยู่ที่ 5,500 - 6,000 ค่าน้ำไฟจ่ายตามยูนิตที่หอกำหนด ค่าเน็ตคนละ 400 บาท ถ้าเอา 2 เหลือคนละ 350 บาท ใครสนใจว่าห้องเป็นแบบไหน ลองเข้าไปติดต่อสอบถามดูได้ค่ะ

- หอกัญญาเพลส เป็นหอพักหญิงนะคะ ราคาค่าห้องมีตั้งแต่ 5,000 - 9,500 บาท ภายในห้องก็มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ ทั้งทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เสื้อผ้า ที่นอน (เตียงเดี่ยว 2 เตียง สำหรับ 2 คน และเตียงเดี่ยว 4 เตียงสำหรับห้องใหญ่) ที่นี่เป็นห้องแอร์ แต่ค่าน้ำ/ไฟ ต้องจ่ายแยก และมีที่จอดรถให้ รวมถึงมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการอีกด้วย ราคาถังละ 30 บาท มีเหรียญให้เเลก และอีกอย่างเลยคือหอพักที่นี่อินเทอร์เน็ตฟรีค่ะ ! อีกอย่างเลยคือ เวลาดึก ๆ รปภ จะถามว่าจะไปไหนกัน ขอให้บอกตรง ๆ เลยป้าเเกชอบ ไปเที่ยวก็บอกไปเที่ยว ที่สำคัญนะคะ มีคนสวย ๆ แบบพี่อยู่ด้วย ฮ่า ๆ

หอพักรายวัน

สำหรับน้อง ๆ ที่จะมาสัมภาษณ์แล้วหาห้องพักรายวัน พี่ขอแนะนำ SENA HOUSE พหลโยธิน 30 ราคาห้องคืนละ 800 บาท เห็นตอนนี้มีโปรโมชั่น เหลือ 700 ถึง 30 มิ.ย. 60 นี้ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะขอบอก ฮ่า ๆ) ใครที่จะมาสอบก็สามารถเข้าไปสอบถามได้ค่ะ

ก่อนจะจบการรีวิว ขอเล่าตำนานที่รุ่นพี่เล่ากันรุ่นต่อรุ่นให้น้อง ๆ ได้ทราบกันล่วงหน้านะคะ ว่ากันว่าถ้าหนุ่มสาวคู่ไหนขี่จักรยานผ่าน Loving Way ตอนเที่ยงคืน (ทางเล็ก ๆ ที่มีทิวสนสร้างบรรยากาศความโรแมนติกตลอดข้างทางคณะเกษตร) ก็จะได้เป็นแฟนกัน !! (ว๊าย !! จะได้เป็นแฟนกัน ๆ) แต่ถ้าเกิดหลงเข้าไปใน Breaking Way ก็จะเลิกกันทันที !! อยากรู้ว่าจริงไหม ต้องมาลองกันดูนะคะ (อุ้ย นี่พี่ไม่ได้สนับสนุนนะคะ แค่เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ฮ่า ๆ) เอาล่ะรีวิวมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงต้องขอบคุณสำหรับการอ่านรีวิวจนจบนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่จะเข้ามาเรียนใน ม.เกษตร

สุดท้ายพี่อยากบอกว่า พี่เองก็ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยของเราใช่ที่แรกในใจของน้อง ๆ หรือเปล่า แต่พี่บอกเลยว่าส่วนตัวพี่แล้วที่นี่อาจไม่ใช่ที่แรกในใจพี่ แต่เมื่อวันที่พี่ได้ก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว กลับได้รับความอบอุ่น ความสนุก และความสุขมากมาย แบบที่ตัวพี่เองในวันแรกไม่เคยคาดคิดมาก่อน จากคนที่คิดจะเดินถอยหลังออกไปเพราะความไม่เคยชิน แต่เมื่ออยู่ไปแล้วสิ่งที่พี่ได้จากที่นี่กลับเป็นความสุขมากมาย ที่พี่เองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่คือบ้าน บ้านอีกหลังหนึ่งที่ชาวเกษตรศาสตร์ทุกคนรักและผูกพัน สถานที่ที่รวมความรักของรุ่นพี่รุ่นน้องทุกคนไว้ด้วยกัน มีทั้งความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาคือความอบอุ่นในทุก ๆ วันที่อยู่ในรั้วเกษตรศาสตร์ พี่หวังว่าน้อง ๆ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับเรา เพราะที่นี่คืออีกหนึ่งครอบครัวสำหรับพี่ และหวังว่าที่นี่จะเป็นบ้านหลังใหม่ของน้อง ๆ นะคะ ประตู ม.เกษตร เปิดรับน้องอยู่เสมอ ยินดีต้อนรับน้องใหม่ทุกคนสู่คำว่าครอบครัวในวันรับน้องนะคะ

เรื่อง : อติกานต์ ทิพพะพาทย์