Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
[รีวิว] ชีวิต มศว องครักษ์ เปิดทุกมุม ในรั้วมหาวิทยาลัย

  Favorite

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังในย่านสายคลอง หากใครที่ไม่ได้อยู่แถวนั้นก็อาจจะไม่รู้ว่ามีมหาวิทยาลัยอยู่แถวนั้นด้วยเหรอ? มีสิน้อง! ก็มหาลัยที่พี่เรียนอยู่นี่ไง แต่ถ้าพี่พูดว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังย่านอโศก ก็คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ใช่แล้วเพราะว่าพี่เป็นนิสิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มศว (ย่อแบบไม่มีจุด) เกริ่นมาสักพักแล้วพี่ขอแนะนำตัวสักหน่อยแล้วกัน พี่ชื่อสมายด์ จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์ นิสิตเภสัชศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางคนคงอาจจะคิดว่าพี่เรียนอยู่แถว ๆ ย่านอโศก ใจกลางเมืองละสิ ฟังดูแล้วชีวิตดีใช่ไหมล่ะ แต่มันไม่ใช่เลยนะ อย่างที่พี่ได้บอกไปในตอนแรกคณะเภสัชศาสตร์ของที่นี่ ตั้งอยู่ที่ ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 16 อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

 


 
ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


คณะไหนบ้าง ที่ต้องเรียนที่องครักษ์

คณะที่ได้ไปเรียนอยู่ที่องครักษ์มีหลายคณะ โดยพี่จะแบ่งออกเป็นคณะที่ตอนปี 1 จะต้องไปเรียนอยู่ที่องครักษ์ แล้วกลับมาเรียนที่ประสานมิตรตั้งแต่ปี 2 เป็นต้นไป ได้แก่ คณะสังคมศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์ ส่วนคณะที่เรียนอยู่ที่องครักษ์ตลอดหลักสูตร ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะพยาบาล, คณะกายภาพบำบัด, คณะเภสัชศาสตร์, คณะเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร และคณะพลศึกษา ส่วนคณะแพทยศาสตร์ ในปี 1 จะเรียนอยู่ที่องครักษ์ ปี 2-3 กลับมาเรียนที่ประสานมิตร ปี 4-6 เรียนที่องครักษ์ หรือศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน จ.นนทบุรี ซึ่งการไปเรียนรวมกันที่องครักษ์ในปีแรกก็จะทำให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อน ๆ ต่างคณะ ที่เราอาจจะมีโอกาสได้เรียนในห้องเดียวกันหรือได้ทำกิจกรรมร่วมกัน นับได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว

 

วิถีชีวิตการเป็น นิสิต มศว องครักษ์

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


อย่างแรกสำหรับการมาเรียนที่ มศว องครักษ์แห่งนี้ ทุกคนจะต้องได้สัมผัสกับ "ชีวิตเด็กหอ" การที่เด็กเมืองกรุงคนหนึ่งผู้ไม่เคยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตคนเดียว จะต้องไปใช้ชีวิตอยู่หอตามลำพังนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไป เพียงแค่เราจะต้องรู้จักปรับตัว ทั้งในเรื่องของสถานที่ การใช้ชีวิตโดยลำพัง สังคมในมหาวิทยาลัย ถ้าน้องได้มาลองใช้ชีวิตเป็นเด็กองครักษ์แล้ว น้องจะรู้เลยว่าการใช้ชีวิตอย่าง slow life ที่แท้จริงเป็นอย่างไร โดยในปี 1 เทอมแรก ทางมหาวิทยาลัยค่อนข้างที่จะบังคับให้น้องอยู่หอใน ซึ่งพี่ว่ามันเป็นอะไรที่สะดวกและปลอดภัยดี โดยเฉพาะน้อง ๆ ผู้หญิง ที่ มศว องครักษ์ มีหอพักสำหรับนิสิตอยู่ทั้งสิ้นจำนวน 11 อาคาร โดยแยกเป็นหอชายกับหอหญิงอย่างชัดเจน มีทั้งหอที่เป็นห้องพัดลมและห้องแอร์ แล้วถ้าน้องถามว่าหนูจะได้อยู่ห้องไหนล่ะคะพี่ หนูจะได้อยู่ห้องแอร์ไหมคะ เลือกห้องได้ไหมคะ เลือก roommate ได้ไหมคะ แล้ว 1 ห้องนี่อยู่ทั้งหมดกี่คน ทางมหาวิทยาลัยจะเปิดระบบให้น้องได้จองหอ ซึ่งจะมีรูปแบบคล้าย ๆ กับการที่น้องต้องไปช่วงชิงบัตรคอนเสิร์ตแบบนั้นเลยแหละ ถ้าบ้านใครเน็ตเร็วมือไวก็จะได้ห้องแอร์ไปครอง มันเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นพอ ๆ กับตอนประกาศผลแอดมิชชั่นเลยก็ว่าได้

ใน 1 ห้องจะมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 5 คน (รวมตัวน้อง) น้องจะไม่สามารถเลือกห้องหรือเลือก roommate ได้ ทางหอเค้าจะสุ่มเพื่อนและสุ่มคณะให้เรา ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างคณะ โอ้โห! อยู่ 5 คนเลยเหรอพี่ มันเยอะเกินไปไหม? ตอนแรกพี่ก็คิดแบบน้องเลย แต่พอมาอยู่จริง ๆ มันก็อยู่ได้นะ ห้องก็กว้างพอที่เราจะอยู่ 5 คนได้แบบสบาย ๆ ไม่ได้อึดอัดมาก (พี่ยังเคยตีแบดกับเพื่อนในห้องเลย น้องคิดว่าห้องมันจะใหญ่ประมาณไหนล่ะ) ส่วนราคาของหอในจะอยู่ที่ประมาณ 3000 - 6000 บาท/เทอม โดยราคาหอแอร์ก็จะแพงกว่าหอพัดลมเป็นธรรมดา ค่าไฟเก็บแยก ส่วนค่าน้ำทางหอพักไม่ได้คิด นั่นก็คือให้น้องใช้น้ำได้อย่างฟรี ๆ ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากจะอยู่หอนอก มันอาจจะลำบากนิดนึงสำหรับน้องคนที่ไม่มีรถยนต์หรือจักรยานยนต์ เพราะมันต้องออกจากมหาวิทยาลัยไปไกลพอสมควร และทางมันค่อนข้างจะมืดและน่ากลัว ในปี 1 เทอม 2 ทางหอพักของมหาวิทยาลัยจะเปิดโอกาสให้น้องเลือกได้ว่าจะอยู่หอในต่อหรือไม่ ถ้าน้องสนใจที่จะอยู่หอนอก ราคาก็จะอยู่ประมาณ 2000 – 6000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง และความใหม่ของหอพักถ้าน้อง ๆ คนไหนที่สนใจ พี่ก็อยากจะแนะนำให้น้อง ๆ ติดต่อจองห้องพักไว้ล่วงหน้า เพราะมันค่อนข้างที่จะเต็มเร็วมาก
 

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


ต่อไปก็จะเป็นในเรื่องของการเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนิสิตทุกคน การที่เราตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อให้สอบติดมหาวิทยาลัยตามที่เราตั้งใจไว้นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อเราได้ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย มันก็เปรียบเสมือนการได้ก้าวผ่านบันไดขั้นที่สูงขึ้น ซึ่งน้อง ๆ จะต้องมีความรับผิดชอบ และขยันให้มากขึ้น เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยนั้นก็ได้จัดกิจกรรมให้น้อง ๆ ได้เข้าร่วมเกือบจะทุกเดือน ถ้าเราแบ่งเวลาไม่ดีก็อาจจะเหนื่อยมากหน่อย ในช่วงปี 1 เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เราจะได้เรียนก็จะเป็นเหมือนการทบทวนเนื้อหาตอน ม.ปลาย ใหม่ทั้งหมด แล้วก็ยังมีวิชาใหม่ ๆ ให้เราได้เรียนด้วย เช่นวิชา Foundation in pharmaceutical sciences, Calculus แต่ก็ใช่ว่ามันจะง่ายเหมือนตอน ม.ปลาย ที่น้องสามารถอ่านหนังสือ 1 วันแล้วไปสอบได้ พี่บอกได้เลยว่ามันไม่ทันจริง ๆ ในการสอบแต่ละครั้งพี่ใช้เวลาในการเตรียมตัวล่วงหน้า 1 เดือน โดยที่เราจะต้องแบ่งเวลาให้ดีว่าเวลาไหนเราจะทำอะไร แล้วเวลาไหนที่เราจะอ่านหนังสือ เพราะในช่วง 2 เดือนแรกน้องอาจจะรู้สึกว่ามันหนักเกินไปยังไม่ค่อยชิน แต่พออยู่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเราก็จะปรับตัวได้เองแหละ พี่เอาใจช่วยให้น้อง ๆ ทุกคนให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี

สิ่งที่ขึ้นชื่อสำหรับชีวิตเด็กมหาลัย ก็คือ การทำกิจกรรมนั่นเอง โดยกิจกรรมแรกที่น้องจะได้เจอจะเป็น กิจกรรมแรกพบ สนภท. ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของนิสิต นักศึกษา คณะเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อน ๆ ต่างสถาบันที่เราอาจจะได้ทำงานร่วมกันในอนาคต ต่อมาก็จะมี กิจกรรมแรกพบของคณะ จัดขึ้นโดยรุ่นพี่ของน้อง ๆ ที่คณะเภสัชศาสตร์ มศว องครักษ์ ซึ่งจะมีกิจกรรม 2 วัน 1 คืน แล้วต่อด้วย ค่ายอัตลักษณ์ เป็นค่ายที่จะช่วยปลูกฝังให้นิสิตชั้นปีที่ 1 ได้รู้จักกับอัตลักษณ์ทั้ง 9 ประการ สิ่งที่เด็ดที่สุดคือในคืนสุดท้ายจะมีกิจกรรมประกวดหาดาว - เดือนของมหาวิทยาลัย และมีคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังมากมาย โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นที่ มศว องครักษ์ ของเรานี่เอง เรียกได้ว่าใครเป็นนิสิตมศว จะต้องได้สัมผัสกับบรรยากาศของดินแดนองครักษ์แห่งนี้ กิจกรรมรับน้อง คงจะเป็นกิจกรรมที่ทุกคนคุ้นหูกันดี โดยทางมหาวิทยาลัยของเรามีกฎระเบียบห้ามจัดกิจกรรมรับน้องนอกมหาวิทยาลัย และมีการกำหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมไว้อย่างชัดเจน รับรองได้เลยว่าการรับน้องของ มศว ปลอดภัยแน่นอน เอาเป็นว่านี่เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ อยากรู้ว่ากิจกรรมที่สนุก ๆ ของมศว มีอะไรบ้าง พี่ก็ขอให้น้อง ๆ โชคดีแล้วมาเป็นเด็กมศวเหมือนกันจ้า
 

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


ถ้าน้องเคยไป มศว ประสานมิตร พี่บอกได้เลยว่าแตกต่างจากที่องครักษ์เป็นอย่างมาก ถึงแม้จะอยู่ต่างจังหวัด แต่ที่นี่ก็ยังมีข้อดีอยู่นะ เพราะที่นี่มีทั้งความร่มรื่นจากต้นไม้ที่เขียวขจี มีอากาศที่ดีเย็นสบาย (ในช่วงฤดูหนาว เท่านั้นนะ) ไม่มีมลพิษเหมือนในเมือง แต่ถ้าเป็นช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค. พี่ไม่ได้ขู่นะ แต่อยากบอกให้น้องเตรียมใจไว้เลย การใช้ชีวิตอยู่ที่องครักษ์นี่เหมือนกับการซ้อมไปดวงอาทิตย์เลยนะน้อง ฮ่า ๆ มีครีมกันแดดเท่าไหร่ก็โบกเข้าไปให้เต็มที่ มันร้อนมากจริง ๆ ตอนช่วงกลางวันตามอาคารเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะอาคารเรียนรวมมักจะคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วง 9 โมง เพราะเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เค้ามีเรียนกัน ส่วนช่วงเวลาที่ทั้งมหาลัยคึกคักมากที่สุดน่าจะเป็นช่วงเย็น ๆ เพราะนิสิตต่างออกไปหากิจกรรมต่าง ๆ ทำ เช่น ไปวิ่ง เต้นแอโรบิค เล่นโยคะ หรือถ้าสายกินก็จะไปหาของกิน แล้วต่อขนมหวาน ถ้าถามว่าพี่เป็นสายไหน พี่ขอตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่าสายกินแน่นอน!!

 

มหาลัยตั้งอยู่กลางป่าแบบนี้ ถ้าไม่มีเรียนแล้วทำอะไร?

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


ปกติถ้าเวลาไม่มีเรียน กลุ่มพี่มักจะชอบกลับหอไปนอน ฮ่า ๆ การใช้ชีวิตมหาวิทยาลัย การนอนคือสิ่งที่สำคัญและน้องควรที่จะเก็บสะสมมันไว้ ถ้าสะสมได้เหมือนแสตมป์เซเว่นมันก็คงจะดี บางทีก็ประหยัดค่าไฟที่หอก็จะไปนั่งชิลล์อยู่ที่ห้องสมุด อากาศเย็นสบาย ไปอ่านหนังสือเหรอ? เปล่าเลย ไปนั่งเล่นโทรศัพท์นี่แหละ เพราะห้องสมุดเป็นที่เดียวที่ wifi ของมหาลัยแรงที่สุดแล้ว ฮ่า ๆ แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้งหรอกนะ เพราะบางครั้งพี่ก็ไปนั่งอ่านหนังสือ ทำงานกลุ่มอยู่บ้าง ถ้าไม่ชอบแนวห้องสมุด มันอาจจะเงียบสงบจนเกินไป พี่ก็แนะนำ Lobby อยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารเรียนรวมที่มีกลุ่มนิสิตหลายคนชอบไปนั่งติวหนังสือ หรือดูโทรทัศน์กัน นอกจากนี้ในมหาลัยก็ยังมีร้านคาเฟ่ ขายพวกน้ำหรือขนมต่าง ๆ นี่ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่พี่ชอบไป พอช่วงเย็น ๆ ก็จะมีเพื่อนมาชวนไปออกกำลังกายที่มหาลัย ก็มีวิธีการออกกำลังกายหลายอย่างให้เลือกตามความสะดวกของแต่ละคนเลย ส่วนตัวพี่ชอบไปวิ่งที่วงเวียน ยิ่งช่วงฤดูหนาว (ประเทศไทยยังมีฤดูนี้อยู่ไหมหว่า) อากาศจะเย็นสบายมากเหมาะกับการไปวิ่งสุด ๆ
 

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


กิจกรรมในช่วงสอบที่คนส่วนใหญ่ชอบทำก็คือการไปไหว้พระที่หอพระ เพื่อเป็นการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับตัวเอง เพราะวินาทีนี้อ่านหนังสืออย่างเดียวมันคงไม่พอ และการเรียนมหาลัยจะทำให้น้องรู้จักคำว่า one night miracle อย่างแท้จริง พี่ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่งการได้มาเรียนที่องครักษ์น้อง ๆ ทุกคนจะต้องมีรถส่วนตัวซึ่งก็คือ จักรยานนั่นเอง ส่วนใครที่ปั่นจักรยานไม่เป็นก็อาจจะขอซ้อนจักรยานเพื่อน นอกจากนี้ทางมหาลัยก็มีรถส่วนกลาง หรือที่ที่เด็ก มศว รู้จักกันในนามของ "รถกระป๊อ" ไว้ให้บริการน้อง ๆ อีกด้วยส่วนด้านล่างนี้จะเป็นแผนที่ภายใน มศว องครักษ์ของเรานี่เอง ช่วงแรก ๆ สำหรับการเป็นน้อง ๆ ปี 1 แผนที่เป็นสิ่งสำคัญมาก และที่สำคัญกว่าคือเราจะต้องดูแผนที่ให้เป็นไม่อย่างนั้นน้องอาจจะไปเรียนสายได้ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ เพราะมหาลัยของเรานั้นกว้างมาก ทำให้พี่หลงมาแล้วด้วย
 

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์

 

ของดีย่านองครักษ์

สิ่งที่สายกินอย่างเราขาดไม่ได้เลยก็คือ “ของกิน” นี่แหละ ภายในมหาลัยก็จะมีโรงอาหารหลัก ๆ อยู่ 3 แห่ง ก็คือ โรงอาหารในหอพัก โรงอาหารของศูนย์การแพทย์ และโรงอาหารวิศวะ แหนะ ๆ อย่าคิดจะไปส่องเด็กวิศวะที่นี่นะ พี่บอกได้เลยถึงน้องไปก็ไม่เจอ เพราะส่วนใหญ่เวลาที่พี่ไปกินข้าวที่โรงอาหารวิศวะก็มักจะไม่ค่อยเจอหรอก แต่อย่าคิดว่าพี่ไปส่องนะ ฮ่า ๆ ที่ไปก็เพราะว่าโรงอาหารวิศวะมันอยู่ใกล้กับอาคารเรียนรวม ซึ่งเป็นอาคารที่เด็กปี 1 เขามาเรียนรวมกันเป็นส่วนใหญ่ โดยราคาของอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 25 – 40 บาท นอกจากโรงอาหารแล้วเหล่านิสิตมศวก็ชอบไปที่อาคารศูนย์กิจกรรมนิสิตและบริการภายในมหาลัย หรือที่เรารู้จักกันในนามของ Plaza นั่นเอง โดยร้านอาหารยอดฮิตของที่นี่ก็มี

ร้านสเต็ก มศว

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


หรือที่เรียกกันว่าร้านป้าดำ เป็นร้านที่มีคนมากินเยอะที่สุด ยิ่งในช่วงเที่ยง ๆ ถ้าไปช้าก็อาจจะต้องรอคิวหน่อย ร้านนี้ไม่ได้ขายแต่สเต็กตามชื่อร้านนะ เขายังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย ที่คนชอบมาร้านนี้ก็คงเป็นเพราะความหลากหลายของเมนูนี่แหละ โดยเมนูที่กลุ่มของพี่ชอบสั่งกัน เช่น ข้าวอกไก่นึ่งมะนาว ข้าวภูเขาไฟหมูกรอบ สเต็กหมู ข้าวไก่ทอดซอสมะนาว ราคาของอาหารก็จะเริ่มต้นที่ 35 บาท

ร้านประสานมิตร
ถึงแม้จะชื่อว่าประสานมิตร แต่ร้านอยู่ที่องครักษ์นะจ๊ะเด็ก ๆ ร้านนี้ก็จะมีพวกสเต็ก สปาเก็ตตี้ พิซซ่า แต่เมนูที่พี่ชอบกินคือ ข้าวไก่ทอดเขียวหวาน เป็นเมนูที่พี่มักจะสั่งทุกครั้งที่ได้ไปร้านนี้ โดยราคาของอาหารที่ร้านนี้จะเริ่มต้นที่ 45 บาท

ร้านชาบู
หลังวัง เป็นเหมือนร้านชาบูทั่วไปนี่แหละแต่มันเด็ดตรงที่ไม่จำกัดเวลา ถ้าน้องไม่รีบไปไหน น้องอาจจะนั่งกินชาบูทั้งวันก็เลยได้ ที่ร้านมีโปรโมชั่นอยู่ ถ้าเราไปช่วง 11.00 - 17.30 น. ราคาจะอยู่ที่คนละ 199 บาท จากปกติ 239 บาท ถ้าเรายิ่งไปช่วงก่อน 17.30 น. มันคุ้มมากจริง ๆ เพราะพี่ก็ชอบไปเวลานี้แหละ

ร้านสวนรถไฟ

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


ร้านนี้ส่วนใหญ่จะเน้นพวกขนมหวานพวก บิงซู ฮันนี่โทสต์ ปังเย็นภูเขาไฟ ขนมปังปิ้ง พวกพี่ก็ชอบไปนั่งกินขนมเม้าท์มอยกันเป็นประจำ ได้ความรู้สึกสบาย ๆ ชิลล์ ๆ

แล้วถ้าสมมติว่าน้อง ๆ เบื่อในมหาลัยไม่รู้จะทำอะไรดี ถ้าน้องอยากจะไปพบเจอกับความเจริญก็คงจะต้องเป็น ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นแหล่งที่เด็กองครักษ์ชอบไป ช้อปปิ้ง ดูหนังกัน การเดินทางไปก็สะดวกมาก ๆ น้อง ๆ สามารถไปขึ้นรถตู้ได้ที่หน้าศูนย์การแพทย์ของ มศว เที่ยวละ 30 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้าน้อง ๆ คนไหนชอบกิจกรรมแนวผจญภัย ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยของเราก็มีทั้งสวนสนุก Dream world เขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกนางรอง น้ำตกวังตะไคร้ แต่การเดินทางไปอาจจะลำบากนิดหน่อย หากน้องไม่มีรถยนต์ หรือน้องอาจจะเหมารถสองแถวไปก็ได้

 

การเดินทางมายัง มศว องครักษ์

ภาพ : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์


รถตู้โดยสาร
- จากอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ : อนุเสาวรีย์ชัย - ฟิวเจอร์ฯ - บ้านนา (ขึ้นรถบริเวณฝั่งเกาะราชวิถี หน้าโรงพยาบาลราชวิถี) คนละ 30 บาท
- จากฟิวเจอร์พาร์คฯ : รถตู้โดยสารของ มศว จอดรับด้านหน้าศูนย์การค้าฯ บริเวณทางด่วนหน้าห้างเซ็นทรัล คิวรถติดกับศูนย์บริการล้างรถเชลล์ ออโต้ หรือรถตู้ ฟิวเจอร์พาร์ค - องครักษ์ คนละ 30 บาท

เดินทางโดยรถยนต์
เส้นทางที่ 1 (เส้นทางหลัก) ใช้บริการดอนเมืองโทลล์เวย์ ผ่านดอนเมือง มาลงที่ป้ายลำลูกกา (ตลาดสี่มุมเมือง) ผ่านห้าง Future Park Rangsit เข้าถนนรังสิต - นครนายก ตรงไปคลอง 16

เส้นทางที่ 2 (เส้นทางด่วน) ใช้บริการวงแหวนตะวันออก ผ่านด่านเก็บเงินธัญบุรี ลงที่ป้ายทางออกที่ 2 “นครนายก” เข้าถนนรังสิต - นครนายก บริเวณคลอง 5 ตรงไปคลอง 16

เส้นทางที่ 3 (เส้นทางหลีก) ใช้เส้นทางถนนสายลำลูกกา มุ่งหน้าไปสายบางน้ำเปรี้ยว จากนั้นสามารถตัดเข้ามาบรรจบกับสายรังสิต - องครักษ์ ถนนเชื่อมบริเวณคลอง 7 คลอง 11 คลอง 13 คลอง 14 และคลอง 16

ช่วงเวลาที่รถติดสุด ๆ จะเป็นช่วงเย็น ๆ ประมาณ 16.00 - 18.00 น. แถว ๆ บริเวณคลอง 5 - 6 และบริเวณคลอง 1 - 3 ที่การจราจรจะเคลื่อนตัวได้ช้าตลอดทั้งวัน หากน้อง ๆ คนไหนที่จะเดินทางมา มศว องครักษ์ พี่แนะนำการใช้เส้นทางที่ 2 คือลงทางด่วนบริเวณคลอง 5 ในกรณีที่น้อง ๆ มารถยนต์ (เป็นเส้นทางที่พี่ใช้เป็นประจำเวลาไป - กลับมศว องครักษ์) ถ้าในส่วนของวันที่น้อง ๆ จะเดินทางมาสัมภาษณ์ พี่อยากจะให้น้อง ๆ เผื่อเวลาซักหน่อย เพราะรถค่อนข้างจะติดกว่าทุกวัน เนื่องจากมีน้อง ๆ จำนวนมากที่ต้องการเดินทางไปยัง มศว เหมือนกัน

 

หอพักในช่วงสอบสัมภาษณ์

สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และกลัวปัญหาการจราจรติดขัด พี่แนะนำให้น้องมาถึงก่อนวันสัมภาษณ์ซัก 1 วัน โดยหอพักที่พี่จะมาแนะนำก็มีดังนี้
Apartment Jira ในช่วงเปิดเทอมจะเป็นหอพักสำหรับนิสิต แต่ในกรณีที่มีห้องว่าง ก็จะเปิดให้บริการรายวัน ราคาประมาณ 700 บาท/วัน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 081-989-8970 หรือ www.facebook.com/jira.asset

หอพักองครักษ์นครินทร์ อพาร์ทเม้น เป็นอาคารคู่ ใกล้ที่สุดหลังมศว องครักษ์ บริการห้องพักรายวัน และ รายเดือน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ลิฟท์, มินิมาร์ท, ซักรีด อินเตอร์เน็ตในห้องพัก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 037-395-395, 037-395-400 หรือ www.ongkarak.com

อิ่มรักรีสอร์ท หลังมศว องครักษ์ เริ่มต้นที่ 400 บาท/วัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 083-887-7344 หรือ facebook : อิ่มรักรีสอร์ท

ชีวิตช่วงมหาวิทยาลัยของเด็ก มศว องครักษ์ บอกเลยว่าเป็นอีกช่วงชีวิตที่จะให้ประสบการณ์ในชีวิตน้อง ๆ มากมาย นอกจากเรียนแล้ว น้อง ๆ จะได้ใช้ชีวิตเด็กหอ ได้เจอเพื่อน ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างร่วมกัน เอาเป็นว่าน้อง ๆ คนไหนที่ได้มาเรียนที่นี่เตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิตที่ทั้งสนุก ประทับใจ น้อง ๆ ไปตลอดแน่นอน 

 

เรื่อง : จิดาภา คุณดิลกพาณิชย์

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us