รวงผึ้ง ... พรรณไม้ประจำรัชกาลที่ 10
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2017-03-17 09:52:14
กนกพร อะทะวงษา
สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพประกอบจาก : https://www.royalparkrajapruek.org/img/upload/20160620-5767575ac6e18.jpg
พรรณไม้ประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 คือต้นรวงผึ้ง (Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm.) เนื่องด้วยดอกมีสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และออกดอกตรงกับช่วงเดือนพระราชสมภพ
ภาพจาก : https://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2016/12/2531.jpg
ต้นรวงผึ้งจัดเป็นพืชถิ่นเดียว (endermic plant) ของประเทศไทย พบบริเวณป่าดิบเขา ที่ระดับความสูงประมาณ 1,000 ม.(1) มีชื่อสามัญว่า yellow star ทางภาคเหนือเรียก ดอกน้ำผึ้ง หรือรวงผึ้ง ส่วนภาคกล่างเรียกสายน้ำผึ้ง เป็นพืชในวงศ์ MALVACEAE(2) รวงผึ้งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 8 เมตร เปลือกต้นสีเทาเข้ม ใบขนาด 4-12 x 3.5-5 ซม. ออกระนาบเดียวกัน รูปมนรี หรือขอบขนานปลายแหลม ฐานป้านและมักไม่สมมาตร ขอบใบเรียบ ใบแก่ค่อนข้างหนา สีเขียวเข้ม และเป็นมันด้านบน ด้านล่างสีอ่อนกว่า ขนสีน้ำตาลครีม รูปคล้ายดาว หลุดออกง่าย เส้นใบหลักออกจากฐานใบ 3 เส้น ก้านใบ 0.2-0.9 ซม. มีขนละเอียด ดอกสีเหลืองสด ขนาด 1.3-1.5 ซม. สมบูรณ์เพศ ดอกออกเป็นช่อสั้นๆ ไม่แตกแขนง ออกตามซอกใบ กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม 5 กลีบ เชื่อมกันใกล้ฐานเป็นรูปถ้วย อาจจะมีขนสีส้มอมน้ำตาลด้านนอก ไม่มีกลีบดอก เกสรตัวผู้จำนวนมาก เกสรตัวเมียปลายแยก 5 พู รังไข่กลม มีขนหนาแน่น ผลกลม มีขน และชั้นกลีบเลี้ยงขยายตามผลรองรับ ขนาด 0.5-1 ซม. ผลแห้งไม่แตก(3)
ประโยชน์ของต้นรวงผึ้ง คือ ใช้เป็นไม้ประดับ ปลูกเพื่อความสวยงาม เพราะทรงพุ่มสวย ให้ร่มเงา ดอกบานนาน ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น ติดทน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดทั้งวัน มีช่วงออกดอกคือเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี(1,4)
นอกจากต้นรวงผึ้งแล้ว ในประเทศไทยพบพืชสกุล Schoutenia อีก 4 ชนิด ได้แก่ เมงครวน S. accrescens (Mast.) Merr. ฮับ S. curtisii Roekm. หงอนไก่ S. kunstleri King และแดงสะแง S. ovata Korth.(2,5) ซึ่งล้วนเป็นไม้ต้น มีเนื้อไม้แข็ง น้ำหนักดี นิยมนำไปสร้างบ้าน ทำเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ทางการเกษตร เช่น ล้อเกวียน เป็นต้น(1,6)
ภาพจาก : https://www.royalparkrajapruek.org/img/upload/20160620-5767575ac6e18.jpg
เอกสารอ้างอิง
1.Phengklai C. Tiliaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(1); 1993.
2.เต็ม สมิตินันทน์. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2557. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ; 2557.
3.ไซมอน การ์ดเนอร์, พินดา สิทธิสุนทร, วิไลวรรณ อนุสารสุนทร. ต้นไม้เมืองเหนือ : คู่มือศึกษาพรรณไม้ยืนต้น
ในป่าภาคเหนือ ประเทศไทย. กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ์คบไฟ; 2543.
4.ปิยะ เฉลิมกลิ่น. ไม้ดอกหอม เล่ม 2. กรุงเทพฯ: บ้านและสวน; 2540.
5.Hartono R. A monograph of the genus Schoutenia Korth. (Tiliaceae). Reinwardtia. 1965; 7(2):
91-138.
6.Sosef MSM, Hong LT, Prawirohatmodjo S. (Editors). Plant resources of South East Asia No 5(3):
Timber Trees: Lesser-Known Timbers. Leiden: Backhuys Publishers; 1998.
ที่มาบทความ : https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/