รู้รอบโลก ตอน มรดกโลก
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-01-07 14:03:54
ที่มา: สิรินทร์ จ่างรัตศศพินทุ ภาพประกอบ: อารัมภ์พร เอี่ยมวุฒิ
มรดกโลก
หมู่เกาะกาลาปากอส พระราชวังต้องห้าม หอเอนเมืองปีซ่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ทั้งที่แยกย้ายกันอยู่คนละมุมโลก แต่สถานที่ทั้งสี่แห่งมีความเกี่ยวข้องกันค่ะ เพราะทุกแห่งขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลก” ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหรือทางธรรมชาติที่ถือเป็นสมบัติของคนทั้งโลก
เคยสงสัยไหมว่า โครงการมรดกโลก หรือ World Heritage Programme ขององค์กร UNESCO มีความเป็นมาอย่างไร เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีของโครงการมรดกโลกในปี ค.ศ.2012 นี้ เรามาทำความรู้จักโครงการนี้กันหน่อย
แต่ก่อนแต่ไร การปกป้องดูแลสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในแต่ละประเทศ ซึ่งต่างก็มีองค์กร นโยบาย และมาตรฐานของตัวเองในการอนุรักษ์ดูแล แต่มีเหตุการณ์ๆ หนึ่งที่จุดประกายให้เกิดความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่ออนุรักษ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก คือเมื่อยุค 1950 รัฐบาลของประเทศอียิปต์ได้วางแผนสร้างเขื่อนอัสวานสูง (Aswan High Dam) เพื่อควบคุมน้ำท่วมและผลิตพลังงานไฟฟ้า การกักเก็บควบคุมน้ำของเขื่อนอัสวานสูงมีผลกระทบให้โบราณสถานจากอารยธรรมอียิปต์โบราณในแถบลุ่มแม่น้ำหลายแห่งจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งรวมถึงมหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel) ที่สร้างมาตั้งแต่สมัย 1,200 ปีก่อนคริสตกาล
หลังได้รับคำร้องของความช่วยเหลือจากรัฐบาลอียิปต์ องค์กร UNESCO จึงขอความร่วมมือจากนานาประเทศเพื่อดำเนินการปกป้องโบราณสถานล้ำค่าแห่งนี้ ทั้งทางด้านงบประมาณและความรู้ทางโบราณคดีและวิศวกรรม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญได้แยกชิ้นส่วนของมหาวิหารอาบูซิมเบลออกเป็นส่วนๆ หนักประมาณ 20 ตัน แล้วขนย้ายไปประกอบใหม่ในที่สูงและห่างจากพื้นที่น้ำท่วม เบ็ดเสร็จแล้วโครงการนี้ต้องใช้งบประมาณไปถึง 80 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครึ่งหนึ่งได้มาจากเงินช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศ
เห็นได้ว่าการร่วมมือร่วมใจกันของนานาประเทศเพื่อปกป้องอนุรักษ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมครั้งนี้ ได้นำไปสู่การร่าง อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ภายใต้องค์กร UNESCO หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า อนุสัญญามรดกโลก (World Heritage Convention) รัฐภาคีสมาชิกที่ลงนามในอนุสัญญาฉบับนี้เท่ากับยอมรับว่าจะให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกทั้งในประเทศตนเองและประเทศอื่นตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ระบุไว้ในอนุสัญญา
จวบจนปี ค.ศ. 2011 มีแหล่งมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนกับองค์กร UNESCO อยู่ทั้งหมด 936 แห่ง โดยแบ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 725 แห่ง ทางธรรมชาติ 183 แห่ง และแหล่งมรดกโลกแบบผสม 28 แห่ง โดยประเทศที่มีแหล่งมรดกโลกอยู่มากที่สุดคือ อิตาลี มี 47 แห่ง ขณะที่ประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกอยู่ 5 แห่ง จะเป็นที่ไหนบ้างและมีรายละเอียดอย่างไร ขอแนะนำให้เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลมรดกโลกของไทย www.thaiwhic.go.th
ไม่ว่าแหล่งมรดกโลกจะอยู่ในประเทศอะไรก็ตาม เราถือเป็นสมบัติของมนุษย์โลกทุกคน ดังนั้นเราต้องช่วยกันรักษาสมบัติของเราให้เป็นมรดกสู่ลูกหลานรุ่นต่อไปนะคะ
Did you know? เมืองปอมเปอี ประเทศอิตาลี หนึ่งในเมืองมรดกโลกที่น่าสนใจ เพราะเคยเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองในจักรวรรดิโรมัน แต่เมื่อภูเขาไฟเวซูเวียสระเบิดเมื่อ 79 ปีก่อนคริสตกาล ชีวิตของผู้คนและเมืองทั้งเมืองจึงถูกฝังอยู่ใต้เถ้าถ่าน เมื่อปอมเปอีถูกขุดพบโดยบังเอิญอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1749 ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวโรมันที่สำคัญแห่งหนึ่ง |
ชมคลิปวิดีโอจาก YouTube พร้อมคำแปลที่ https://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_youtube.php?youtube_id=473 เมืองปอมเปอี ประเทศอิตาลี
ที่มา : นิตยสาร Plook ฉบับที่ 17 เดือนพฤษภาคม 2557