ชั้นล่างสุด ควรใส่ของที่มีน้ำหนักมากที่สุด หรือกล่องใส่ของต่างๆ เช่น
- รองเท้า ควรหากระดาษหรือถุงเท้าใส่เข้าไปที่บริเวณหัวรองเท้า เพื่อป้องกันหัวรองเท้าหักและช่วยประหยัดเนื้อที่
จากนั้นห่อด้วยถุงผ้าหรือถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง
- กล่องแว่นตา กล่องเครื่องสำอางค์ และอุปกรณ์อื่นๆ
- เสื้อ-กางเกงผ้ายืด ชุดนอน จับม้วนขึ้นมาตามแนวขวาง วิธีนี้ช่วยให้ผ้าไม่ยับและประหยัดเนื้อที่
ชั้นที่สอง
- เสื้อเชิ้ต ติดกระดุมให้ครบทุกเม็ด วางเสื้อคว่ำหน้าบนโต๊ะ วางกระดาษแบบบางลงและวางกระดาษแข็งทับ
- กางเกงผ้าทั่วไป พับครึ่งตัว วางสลับฟันปลา
- กางเกงยีนส์ จับม้วน เพื่อประหยัดพื้นที่
- ผ้าพันคอพับ เป็นสี่เหลี่ยมแนวยาวแล้วม้วนชายสองด้านเข้าหากัน มี Tip อีกวิธีคือ จับมุมผ้าม้วนตามแนวทะแยงไป
ถึงอีกมุม แล้วจับมุมซ้ายม้วนขดเข้ามาหามุมขวา
- ชุดราตรี ควรนำใส่ถุง แล้วพับครึ่งตัว
Packing process
- รองเท้า ซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดวางไว้ชั้นล่างสุด
- พาดกางเกงทับลงไป ปล่อยชายขากางเกงยาวออกมานอกกระเป๋า
- ตามด้วยเดรส ทำแบบเดียวกับกางเกง ถ้ามีแขนให้แผ่ออกไปด้านข้างกระเป๋า
- ชุดผ้าไหมวางแบบเดียวกับเดรส แล้ววางผ้าขนหนูทับอีกชั้น
- วางเสื้อลำลอง ชุดนอน ผ้าพันคอโดยกระจายน้ำหนักให้ทั่วกระเป๋า ถ้ามีพื้นที่ว่างให้ใส่ม้วนกระดาษทิชชูลงไป
- ตามด้วยเสื้อเชิ้ต
- ตลบแขนเดรส(ถ้ามี) แล้วตลบขากางเกง และชายกระโปรงขึ้นมา
- วางสูทหรือเสื้อแจ็กเก็ตที่พับลง ก่อนปิดกระเป๋า
Don't forget
- สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ควรมีขนาดพกพาแทนขนาดปกติ เพื่อลดขนาดและน้ำหนักกระเป๋า
- การบรรจุของเหลวประเภทยาสระผมหรือสบู่เหลวลงในขวดพลาสติกขนาดเล็ก ต้องบีบไล่อากาศออกก่อนปิดฝาขวด เพื่อหลีกเลี่ยงแรงดันเมื่อเดินทางโดยเครื่องบิน จากนั้นซ้อนด้วยถุงซิปล็อคอีกชั้นหนึ่ง
- อุปกรณ์ที่ไม่ควรลืม เช่น พลาสเตอร์ยา ยาปฏิชีวนะและยาใส่แผล อุปกรณ์เย็บผ้า แยกอุปกรณ์ต่างๆ ใส่กระเป๋าถือต่างหาก
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก กระปุกดอทคอม