บทเรียนออนไลน์ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง พฤติกรรมของสัตว์ และการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับสัตว์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 44.2K views



ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้



 

พฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม
          การตอบสนองต่อแสง
                    เช่น แมวจะขยายตาดำให้รับแสงได้มากที่สุดในเวลากลางคืน ส่วนในเวลากลางวันจะหดตาดำให้เล็กมากเพราะสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน นกกระจิบหรือนกกระยางจะบินออกจากรังเพื่อหาเหยื่อเริ่มมีเมื่อแสงสว่างและบินกลับรังในเวลาพลบค่ำ




 

          การตอบสนองต่ออุณหภูมิ
                    ๑. อุณหภูมิสูงหรืออากาศร้อน สัตว์อาจหลบไปอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ บางชนิดจะหอบเพื่อให้น้ำระเหยออกทางลิ้นและเพดานปาก บางชนิดจะลงไปนอนในดินโคลนหรือแอ่งน้ำ บางชนิดจะเลียอุ้งเท้าเพื่อให้น้ำลายพาความร้อนออกไป ส่วนสัตว์ที่อยู่ในทะเลทรายจะออกหากินในเวลากลางคืนที่ความชื้นเพิ่มขึ้นเพื่อเก็บความชื้นไว้



 



                    ๒. อุณหภูมิต่ำหรืออากาศหนาว สัตว์บางชนิดต้องย้ายไปยังอากาศอบอุ่นกว่าเพื่อหาอาหาร และจะย้ายกลับมาถิ่นเดิม บางชนิดจะตอบสนองต่ออุณหภูมิในฤดูหนาวด้วยการหลับเป็นเวลานานเรียกว่า การจำศีล เช่น กบและกระรอก แต่สัตว์ใหญ่อย่างหมีสีน้ำตาลจะออกมาหากินในวันที่มีอากาศอบอุ่นขึ้น











 

          การตอบสนองต่อการสัมผัส
                    เช่น เมื่อถูกสัมผัส อึ่งอ่างจะพองตัวใหญ่ขึ้น เต่าจะหดหัวเข้าไปในกระดอง ปลาจะว่ายน้ำหนี หรือกิ้งกือจะขดตัวเป็นวง




 

          การตอบสนองต่อกลิ่น
                    สัตว์จะตอบสนองต่อกลิ่นในลักษณะแตกต่างกัน เช่น สุนัข จะน้ำลายยืดเมื่อได้กลิ่นอาหาร แมวหรือกวางตัวผู้ จะถูไปตามสิ่งต่าง ๆ ให้กลิ่นติดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ สุนัข แรด และสิงโตจะปล่อยปัสสาวะตามจุดต่าง ๆ เพื่อแสดงอาณาเขต เมื่อสัตว์อื่นได้กลิ่นจะตอบสนองด้วยการหนี หรือปล่อยกลิ่น หรือปัสสาวะทับเพื่อแสดงอาณาเขต




 
 

          การตอบสนองต่อเสียง
                    สุนัขจะตอบสนองต่อเสียงเจ้าของโดยกระดิกหูและหันมอง แมวที่ขู่ฟ่อใส่แมวตัวอื่นหรืองูหางกระดิ่งที่จะรัวปลายหางเพื่อเตือนสัตว์ชนิดอื่นไม่ให้เข้าใกล้ นกแก้วหรือนกขุนทอง จะตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยินโดยการเลียนแบบเสียงนั้น




 

การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับสัตว์
          การเลี้ยงสุนัข
                    ๑. วัสดุอุปกรณ์ ควรแยกภาชนะใส่น้ำและอาหาร
                    ๒. ที่อยู่ กรงควรมีขนาดพอเหมาะกับสุนัข
                    ๓. อาหารสุนัข ควรให้อาหารที่มีคุณภาพและปริมาณพอเหมาะกับอายุสุนัข
                    ๔. น้ำ ควรมีให้ตลอดเพื่อลดความร้อนของสุนัข
                    ๕. การดูแลรักษา ควรอาบน้ำให้สุนัขในเวลากลางวัน ถ้าพันธุ์ขนยาวควรแปรงขนสัปดาห์ละครั้ง
                    ๖. การป้องกันโรค ควรนำสุนัขไปฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์


          การเลี้ยงแมว
                    ๑. วัสดุอุปกรณ์ ควรแยกภาชนะใส่น้ำและอาหาร
                    ๒. ที่อยู่ แมวชอบอิสระ อาจเตรียมที่นอนไว้ที่ใดที่หนึ่ง
                    ๓. อาหารแมว ต้องให้อาหารตรงเวลาและปริมาณเพียงพอกับขนาดตัว
                    ๔. น้ำ ควรวางตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน
                    ๕. การดูแลรักษา อาจช่วยแปรงขนเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก
                    ๖. การป้องกันโรค นำแมวไปฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์



          การเลี้ยงปลา
                    ๑. จำนวนปลา ไม่ควรมากเกิน เพราะจะแย่งอาหารหรือกัดกันได้
                    ๒. อาหารปลา มีประโยชน์ที่สุด คือ ลูกน้ำหรือตัวไร แต่ไม่ควรให้มาก ๆ
                    ๓. อุณหภูมิของน้ำ ควรเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่เย็นหรือร้อน
                    ๔. แสงสว่าง จะช่วยให้พืชน้ำในตู้ปลาเจริญเติบโต
                    ๕. การถ่ายเทและการหมุนเวียนของน้ำ ควรถ่ายเทน้ำเป็นประจำ โดยใส่ที่กรองและปั๊มอากาศเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ
                    ๖. การป่วยของปลา ต้องแยกปลาป่วยออก



          การเลี้ยงไก่
                    ๑. กรงไก่หรือโรงเรือนสำหรับเลี้ยงไก่ ต้องมีขนาดเหมาะสมและอากาศถ่ายเทสะดวก
                    ๒. อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงไก่ ภาชนะใส่อาหารควรเลือกตามช่วงอายุไก่ ภาชนะใส่น้ำควรใช้อ่างดินหรือขวดปากกว้างหรือภาชนะแบบแขวน
                    ๓. อาหารไก่ ต้องเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการและชนิดของไก่
                    ๔. น้ำ ต้องสะอาด ภาชนะที่ใส่ต้องล้างให้สะอาด
                    ๕. อุปกรณ์ให้แสงสว่าง จะทำให้ไก่กินอาหารได้สะดวกและนานขึ้น
                    ๖. การดูแลกรงไก่ พื้นกรงต้องแห้งและไม่มีเชื้อโรค
                    ๗. การป้องกันโรคและศัตรูของไก่ ให้วัคซีนและยาป้องกันโรค ถ้าไก่มีอาการผิดปกติ ให้นำออกจากฝูงและปรึกษาสัตวแพทย์ทันที


แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th