1. เฟอร์นิเจอร์
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะเพิ่มสีสันให้บ้านคือการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใสมาตกแต่ง ง่ายเพราะไม่ต้องลงมือทำเอง และปัจจุบันก็มีตัวเลือกให้เลือกเยอะ ทั้งรูปแบบและสีสัน ไม่ว่าจะประตู ตู้ โซฟา เก้าอี้ พรม สามารถหยิบหลายชิ้นมาผสมผสานกันไม่มีข้อจำกัด เคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ หลายบ้านใช้วิธีปล่อยให้พื้น ผนัง ฝ้าเรียบง่าย ไม่มีลวดลายอะไรมาก แต่เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นเพียงตัวเดียว หรือเป็นชุด ก็เอาอยู่ได้ ทำให้พื้นที่นั้นดูมีความน่าสนใจขึ้นมาทันที
2. ทาสี
การทาสีเป็นวิธีที่ต้องลงมือลงแรงทำ แต่ว่าสามารถกำหนดรูปแบบได้เองอย่างอิสระที่สุด ใส่จินตนาการได้ไม่รู้จบตามแต่จะออกแบบ อยากเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่ต้องมีเวลาทำ และถ้าบ้านมีของเยอะ อาจจะยุ่งยากลำบากในการเตรียมการ เตรียมพื้นที่ การต้องรอให้สีแห้ง การทาสีสามารถสร้างการรับรู้ได้ดีมาก ใช้กำหนดพื้นที่การใช้งานได้ เช่น มุมอ่านหนังสือ โต๊ะกินข้าว อีกทั้งสียังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก เช่น ห้องนอนสีฟ้าสบายตา หรือมุมทำงานสีสันฉูดฉาดกระตุ้นความคิด ใช้ได้ดีทั้งพื้นที่มากน้อย โดยเฉพาะคอนโด ซึ่งปัจจุบันคนมักอยู่ในพื้นที่จำกัด ใช้งานแบบเปิด ไม่มีผนังกั้นมากนัก การทาสีก็ทำหน้าที่กั้นพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ประหยัดทั้งพื้นที่ ทั้งงบประมาณ
3. กระจกสี
หลายคนอาจนึกไม่ถึง แต่การใช้กระจกสีให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมากที่สุดในสามวิธีนี้ เพราะในเวลาต่าง ๆ ที่แสงแดดส่องผ่านประตู หน้าต่าง ทิศทางของแสงที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้แสงแดดที่ส่องเข้ามาเป็นสีสันที่เคลื่อนที่ตลอดวัน รูปแบบมีทั้งที่เป็นกระจกเคลือบสี ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป หรือถ้าไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนกระจกที่มีอยู่แล้ว ก็สามารถทำเองได้โดยใช้สีทากระจก สีพ่นกระจก อาจจะต้องซื้อ อุปกรณ์เพิ่มเติมหรือใช้ช่างฝีมือทำให้ หรืออย่าง่ายคือใช้เป็นสติ๊กเกอร์ติดกระจก แต่อายุการใช้งานจะน้อย เพราะกระจกเป็นส่วนที่โดนความร้อนสูง ทำให้กาวละลายได้ง่าย ปัจจุบันจะเห็นหลายที่ที่นักออกแบบใช้วิธีเล่นกับสีของกระจก เพื่อเคลือบสีพื้นที่นั้น ๆ ให้มีความสวยงาม น่าสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ ยังสามารใช้กระจกสี เพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งานได้ด้วย ทั้งสวย ทั้งดูดีสุด ๆ