Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

พิธีปฐมบรมอัญเชิญ พระบรมเกศาธาตุ งามอย่างไทย รถบุปผชาติ อัญเชิญพระบรมเกศาธาตุ ศรีลังกา

Posted By Plook News | 17 ธ.ค. 62
1,888 Views

  Favorite

สมาคมปากคลองตลาด ร่วมกับ อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน สร้างสรรค์ วิจิตรางานศิลป์ ร่วมจัดดอกไม้ถวายนับแสนดอก ในพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จากประเทศศรีลังกา ประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร 15 ธันวาคมนี้

มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร มูลนิธิธรรมดี และองค์กรภาคี เครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกัน นับเป็นโอกาสอันดี ของพุทธศาสนิกชนชาวไทยสำหรับการเตรียมงานพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จากประเทศศรีลังกา เพื่อมาประดิษฐาน ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โครงการอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์นี้ และสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมเกศาธาตุได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ถึง 15 มกราคม 2563 รวมเวลา 32 วัน
 

 

ในการนี้ ส่วนของการจัดตกแต่งสถานที่รอบบริเวณการจัดงาน และการจัดตกแต่งขบวนรถบุปผชาติ เพื่อให้สมพระเกียรติเพื่อรับ “พระบรมเกศาธาตุ” ทางอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน บุรีรัมย์ ร่วมกับ สมาคมปากคลองตลาด จัดสร้างสรรค์ผลงานด้วยดอกไม้สดตกแต่งประดับบริเวณพิธีการจัดสถานที่ ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรณิเวศวิหาร และรูปแบบของการจัดตกแต่งดอกไม้สด และงานไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องสูง บนตัวขบวนรถบุปผชาติที่จะใช้ในการประกอบพิธีรับ “พระบรมเกศาธาตุ” เพื่อทำการเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุมายังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในเวลา ๙.๐๐ น. เพื่อประกอบพิธี แล้วริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุจะเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยใช้เส้นทางถนนพระสุเมรุ ผ่านแยกสะพานวันชาติ มุ่งหน้าไปพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อประกอบพิธีประดิษฐานต่อไป

โดยการจัดดอกไม้บนขบวนรถบุปผชาติ ครั้งนี้ เป็นการจับมือร่วมกัน ระหว่างสมาคมปากคลองตลาด และ อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน บุรีรัมย์ ผู้ให้การสนับสนุนเรื่องของดอกไม้บนรถบุปผชาติ โดยมีดอกไม้กว่า 1 แสนดอก ทั้งกล้วยไม้ กุหลาบ งานไทยประดิษฐ์ ช่ออุบะมะลัย พร้อมทั้งเครื่องสูงบุษบก ผอบเพื่อบรรจุพระบรมเกศาธาตุ ทั้งนี้ยังประดับตกแต่งด้วยประติมากรรมช้างเผือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศศรีลังกา แกะสลักเสมือนจริง ตระหง่านอยู่บนหัวรถ มีความสูงกว่า 4 เมตร โดยงานทุกชิ้นและดอกไม้ทั้งหมด ถูกรังสรคค์ให้มีความหมายและความเป็นมาของเรื่องราวและความสัมพันธ์ที่ดีของประเทศไทย และศรีลังกา ในพิธีอันมหามงคลและศักสิทธิ์ เพื่อออกสู่สายตาของชาวโลกต่อไป
 


อาจารย์ พิทักษ์ หังสาจะระ ที่ปรึกษาเพลาเพลิน และ นักออกแบบตกแต่งการจัดดอกไม้ระดับประเทศ กล่าวว่า “ในฐานะคนไทย คนหนึ่ง รู้สึกยินดีและเป็นมหามงคลของชีวิตอย่างมาก ตอนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของเพลาเพลินออกแบบรถบุปผชาติ เราตื่นเต้นและอยากทำ และเราเกิดแนวคิดที่ว่า เราอยากได้ความเป็นศาสนา ความเป็นไทย รวมกับงานฝีมือคนไทย ที่ละเอียดอ่อน นำมาผสมผสาน เพื่อจะจัดให้เป็นความประณีตของรถขบวนนี้ขึ้นมา แรงบัลดาลใจคือ เราอยากได้งานไทย ๆ พร้อมกับช่างฝีมือคนไทย ดอกไม้ที่มีสีความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านศาสนา ความเรียบ ความสงบ โดยเฉพาะดอกไม้ไทยที่เราอยากนำเสนอ รูปแบบแนวคิด

ต้องบอกว่างานนี้เป็นงานบุญที่ใหญ่มาก การที่เราจะทำงานบุญที่ใหญ่ระดับโลก สิ่งที่เราต้องทำ เราต้องเน้นเรื่องของความประณีตจริง ๆ ออกแบบด้วยความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น มณฑปต่างๆที่เก่าแก่ ฉะนั้นการจัดดอกไม้ เราก็เลยออกแบบรอบตัวรถให้เป็นเหมือนลายน้ำ ลายคลื่น ที่เปรียบเสมือนพระบรมเกศาธาตุ ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงบ้านเรา คนไทยทุกคนก็ได้รับบุญ มีวาสนาได้กราบพระเกศาธาตุของจริง ในครั้งนี้เพราะฉะนั้น งานที่ออกมานอกจากจะใช้รับขึ้นขบวนแล้ว เราต้องการโชว์ในคนทั้งโลกเห็นว่า ความเป็นไทยมีความสวยงามแค่ไหน และจะมีเรื่องของรายละเอียดของงานไทย ซึ่งเป็นงานดอกไม้ไทย ประกอบกับการจัดดอกไม้ไทยในตัวรอบขบวน และจะมีองค์ประกอบอื่น ๆ เยอะ ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือก ที่นำเรามาใช้ในการนำขบวน ซึ่งครั้งนี้เราใช้แกะพิเศษสำหรับงานนี้เลย”

 

 

อาจารย์พิทักษ์ กล่าวต่อว่า “ ที่เราได้รับมอบหมายมาเวลาค่อนข้างจำกัดมาก ซึ่งการทำรถบุปผชาติคันใหญ่แบบนี้ ปกติเราต้องเตรียมงานอย่างน้อย 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อจะได้รู้ว่าการวางแผนงานต่างๆเป็นอย่างไรบ้าง เพราะการนำรถ 1 คันใหญ่ ๆ แล้วเราต้องสร้างโครงสร้างขึ้นมา ตรงนี้ต้องใช้เวลา รวมถึงการดีไซน์รอบคันรถให้เป็นเหมือนสายน้ำ เราได้พระเกศาธาตุข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงประเทศไทย เราก็เลยอยาก Link Design ตรงนี้ เข้ามาประกอบกับการจัด เพราะฉะนั้นจะมีความยากมากกว่าความง่าย เพราะเวลาน้อย รายละเอียดของรายต่าง ๆ แม้กระทั่งการแกะโครงสร้างออกมาให้เป็นรูปของลายน้ำแบบลายไทย การเซ็ทดอกไม้ให้รับกับน้ำ แม้กระทั่งการตกแต่งพระมณฑปที่ประดิษฐานอยู่บนรถด้วย รวมถึงตัวช้างเอง เราต้องสั่งแกะซึ่งใช้เวลาน้อยมากในครั้งนี้ ซึ่งเราอยากได้ช้างเผือกที่แกะออกมาแล้วเหมือนจริงมาก ๆ และมีความสวยงามในเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ตอนนี้มันเร่งรัดมา ๆ โดยเฉพาะเรื่องดอกไม้เราก็เป็นห่วงเพราะเรายังไม่ได้เห็น ซึ่งทางนี้เจ้าของปากคลองตลาดก็เป็นผู้ Support ให้ ส่วนเพลาเพลินก็ดูแลในเรื่องของ Design ดูแลในเรื่องของทีมงานทั้งหมดที่จะไปจัดงานในครั้งนี้ Support ต่าง ๆ มากมาย

เพราะฉะนั้น คนที่เป็นช่างสัก ช่างฝีมือ แรงงาน ทุกอย่างต้องทำงานพร้อมกันหมดในเวลาอันสั้น ซึ่งความยากอยู่ตรงเวลา เพราะรถเป็นรถบุปผชาติ เพราะไม่ใช้การจัดดอกไม้ที่อยู่กับที่เฉย ๆ เพราะมีการเคลื่อนไหวในตัวรถด้วย เพราะฉะนั้นหากจัดไม่แข็งแรงหรือแน่นหนา โอกาสการหลุดจะเยอะ โชคดีที่เพลาเพลิน เคยทำรถบุปผชาติมาแล้ว เรามีบทเรียนและประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว เพียงแต่เราห่วงเรื่องเวลามาก ๆ แค่นั้นเอง ”
 

ทั้งนี้ในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 พระสังฆนายกและคณะจากประเทศศรีลังกา พร้อมพระบรมเกศาธาตุ จะเดินทางถึงท่าอากาศสุวรรณภูมิเวลา 6.15 น. โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ศาสตราจารย์พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล ประธานฝ่ายดำเนินการ โครงการอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” และผู้บริหารมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ

 


พระสังฆราชฯ ให้การต้อนรับ จากนั้นจะอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุมายังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในเวลา 9.00 น. เพื่อประกอบพิธี แล้วริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุจะเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยใช้เส้นทางถนนพระสุเมรุ ผ่านแยกสะพานวันชาติ มุ่งหน้าไปพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อประกอบพิธีประดิษฐานต่อไป

พุทธศาสนิกชนสามารถเฝ้าชมขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุได้ในบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป และสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมเกศาธาตุ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป และเข้ากราบได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ถึง 15 มกราคม 2563 โดยตลอดระยะเวลาดังกล่าวจะมีกิจกรรมสวดมนต์หรือฟังเทศน์ (เฉพาะวันเสาร์ และวันพระ) ให้พุทธศาสนิกชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ตั้งแต่ เวลา 19.00 - 20.00 น. โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สีขาว พร้อมจองรอบเวลาเป็นเจ้าภาพอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุ และถวายเครื่องสักการะบูชาตามธรรมเนียมศรีลังกา


ร่วมเป็นเจ้าภาพอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุ และถวายเครื่องสักการะบูชาตามธรรมเนียมศรีลังกา ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ https://forms.gle/UPCbjcTLHkri2hCN6 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : มูลนิธิธรรมดี หรือติดต่อฝ่ายเลขานุการโครงการฯ โทร 02-6102366 , 063-5265359
 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook News
  • 5 Followers
  • Follow