8,906 Views
Favorite
บัตรมิวพาส เปิดโผแหล่งเรียนรู้ที่มีผู้เช้าชมสูงสุด 10 อันดับแรก ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ 1. สยามเซอร์เพนทาเรียม 2. พิพิธภัณฑ์ริบลีส์เชื่อหรือไม่ 3. มิวเซียมสยาม 4. สเปซอินสไปเรียม 5. พิพิธภัณฑ์ของเล่นของสะสมตูนนี่ 6. รับเบอร์แลนด์ 7. พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต 8. พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ อาร์ท อิน พาราไดซ์ เชียงใหม่ 9. พิพิธภัณฑ์เพอรานากัน ภูเก็ต 10. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มครอบครัว ครองแชมป์กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้มากที่สุด พร้อมเตรียมพลิกโฉมบัตรมิวพาสต้อนรับปี 2020 สู่ชื่อใหม่ “Thailand Museum Pass” เดินหน้าสร้างค่านิยมการเรียนรู้นอกห้องเรียนตามยุทธศาสตร์ชาติ เติมเต็มสีสันการเรียนรู้ของคนไทยไร้ขีดจำกัด กระตุ้นการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรมิวพาส รวมถึงพริวิเลจของบัตรมิวพาส ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 ต่อ 529 หรือที่เฟซบุ๊ค Muse Pass
นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวว่า การส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ ถือเป็นเป้าหมายหลักของการเปิดจำหน่ายบัตรมิวพาสนับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2556 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องสู่ซีซั่นที่ 7 โดยที่ผ่านมาบัตรมิวพาสมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงคนไทย ให้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากขึ้นตามยุทธศาสตร์ชาติ จนเกิดเป็นกระแสคนไทยตื่นตัวเข้าแหล่งเรียนรู้ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มาพร้อมเด็กในวัยซน คนรุ่นใหม่ นักศึกษา รวมถึงกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) ที่เปลี่ยนจากการท่องเที่ยวตามเส้นทางธรรมชาติ การเดินห้างสรรพสินค้า และการจดจ่ออยู่กับตัวเองบนหน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มเปิดจำหน่ายบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 (เดือนกันยายน 2561) มาจนถึงปัจจุบัน มีแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับความนิยมจากผู้ถือบัตรมิวพาสสูงที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการจำหน่ายบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่โครงการวางไว้ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มครอบครัว โดยกลุ่มดังกล่าวครองแชมป์กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้มากที่สุด และเตรียมขยายผลความสำเร็จของโครงการสู่ซีซั่นใหม่ ต้อนรับปี 2020 ภายใต้ชื่อ “Thailand Museum Pass”
โดยมีเป้าหมายที่ท้าทายกว่าเดิม คือ การสร้างค่านิยมของคนไทยในการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้มากขึ้น โดยถอดบทเรียนจากหลายประเทศชั้นนำ ที่ใช้กลไกการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านแหล่งเรียนรู้ที่มีศักยภาพ ให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความพร้อมก้าวสู่การแข่งขันในยุคไร้พรมแดน ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุหลังวัยเกษียณ กลุ่มคนที่หลงไหลการถ่ายภาพ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และนักท่องเที่ยวแบคแพคเกอร์ชาวต่างชาติ ซึ่งอยากให้มิวเซียมเลิฟเวอร์ ติดตามความคืบหน้า พร้อมกับการเปิดตัวแหล่งเรียนรู้และพริวิเลจที่ร่วมโครงการ ได้เร็ว ๆ นี้
ที่ผ่านมา บัตรมิวพาสให้ความสำคัญเรื่องการเข้าถึงแหล่งจำหน่ายบัตรมิวพาสอย่างมาก เพราะส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนไทย โดยปัจจุบันบัตรมิวพาสได้วางกลยุทธ์การขายบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 ให้มีช่องทางการจำหน่ายบัตรที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งทางบกทางน้ำ และทางอากาศ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ที่เข้าร่วม 32 แห่ง เคทีซีทัช (KTC Touch) 23 แห่ง เว็บไซต์ออลดีล www.alldeal.com ที่สามารถเลือกชำระเงินผ่านทางเว็บไซต์ หรือรับบาร์โค้ดแล้วไปชำระเงินที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ได้ทุกสาขา เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรของเจ้าพระยาทัวร์ริสโบ๊ท และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ในราคาเดียวสุดคุ้มเพียง 299 บาท ที่ให้เอกสิทธิ์ผู้ถือบัตรมิวพาส สามารถเดินเข้าแหล่งเรียนรู้ได้ทันที 55 แห่งทั่วประเทศโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อส่งเสริมคนไทยเที่ยวสนุกได้เรียนรู้ทุกเส้นทาง
“สำหรับการจำหน่ายบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 ได้ดำเนินการมาจนถึงช่วงปลายซีซั่นแล้ว โดยผู้ที่สนใจยังสามารถหาซื้อบัตรมิวพาสตามช่องทางต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 โดยสามารถเก็บบัตรนี้ไว้ใช้งานได้เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากวันที่เปิดใช้งานบัตรครั้งแรก ซึ่งนอกจากการใช้บัตรมิวพาสเพื่อเข้าแหล่งเรียนรู้ 55 แห่งทั่วไทยแล้ว ยังมีพริวิเลจส่วนลดพิเศษในร้านอาหารและร้านค้ากว่า 20 แห่งที่ร่วมรายการได้อีกด้วย โดยสิทธิพิเศษนี้ช่วยเติมเต็มสีสันการเรียนรู้ของคนไทยให้ไร้ขีดจำกัดมากขึ้น” นายราเมศ กล่าวสรุป
