Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เมืองโบราณ สู่นครตำนานดุจภาพฝัน

Posted By ไกด์เตยหอม | 16 ก.ย. 62
13,105 Views

  Favorite

วันเดียวเที่ยวทั่วไทย ไปปั่นจักรยาน ถ่ายรูปสวย ๆ ท่องเมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตามรอยละครดังสู่ดินแดนแห่งศิลปะและอารยธรรม ดื่มด่ำกับความงามของมรดกภูมิปัญญาล้ำค่าจากบรรพชน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เมืองโบราณ สร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ โดยคุณเล็ก และคุณประไพ วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจผู้นำบริษัทธนบุรีพานิชสู่การเป็นผู้แทนจำหน่ายรถเบนซ์ รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทประกันวินาศภัยชั้นแนวหน้าของไทยอย่าง วิริยะประกันภัย เพื่อ “...เอายอดแห่งแก่นสารของวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ในหมู่ชนอย่างกว้างขวางและถูกต้องบริบูรณ์ด้วยการใช้รูปแบบง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก โดยให้ประสานสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันสมัย...”

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 19.00 น. การเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีเคหะฯ ทางออก 3 แล้วต่อรถสองแถวสาย 36 ค่าโดยสาร 8 บาท ไม่ถึง 5 กม. ก็ถึงค่ะ วันเสาร์ – อาทิตย์ มีรถตู้รับส่งฟรีด้วยนะคะ รถจอดที่หน้าสถานีตำรวจชุมชน กม. 30 เลยค่ะ มี 2 รอบคือ 9.30 น. และ 14.30 น. เที่ยวกลับออกจากเมืองโบราณ 12.30 น. และ 17.30 น. ค่ะ หรือหากขับรถมาเองก็มาตามถนนสุขุมวิทได้เลยค่ะ ปักหมุดไว้ให้ตรงนี้แล้ว

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

บัตรคุ้มสยาม (รายวัน) ผู้ใหญ่ ไทย 400 บาท ต่างชาติ 700 บาท เด็ก (6 – 14 ปี) ไทย 200 บาท ต่างชาติ 350 บาท รวม Audio Guide (ไทย, อังกฤษ, จีน, เกาหลี, รัสเซีย) รถชมเมือง รอบละ 2 ชั่วโมง เวลา 10.00 น. 13.00 น. 15.00 น. และ 17.00 น. และจักรยานให้ยืมปั่นได้ทั้งวัน ลานจอดรถฟรี แต่ถ้าจะขับเข้าไปจะมีค่านำรถเข้า 400 บาท/คัน (ไม่รวมคนขับ) นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ติดตามได้จาก เว็บไซต์ และ Facebook เมืองโบราณได้เลยค่ะ คนไทยอย่าลืมพกบัตรประชาชนมาด้วยนะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่นี่มีห้องน้ำเป็นระยะ ๆ ทุกจุดเลยนะคะ แต่เพื่อความต่อเนื่อง สายปั่นก็นิยมเข้าตั้งแต่ด้านหน้าแล้วค่อยไปยืมจักรยานกันได้ที่โรงเก็บจักรยานขนาดใหญ่มาก ๆ ใกล้ห้องบัตรได้ค่ะ หรือถ้ากลัวเมื่อยก็มีรถไฟฟ้าชาร์จเต็มที่วิ่งได้สบาย ๆ ทั้งวันให้บริการ มีทั้งแบบ 4 ที่นั่ง 350 บาท/ชั่วโมง และแบบ 6 ที่นั่ง 500 บาท/ชั่วโมงค่ะ เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม คนขับอย่าลืมพกใบขับขี่ไปแสดงด้วยนะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตรงลานจอดรถด้านหน้ามีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของว่าง และร้านเช่าชุดไทยพร้อมค่ะ จะเอามาเองก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่การถ่ายรูปเชิงพาณิชย์ เช่น พรีเวดดิ้ง รับปริญญา โปรโมตสินค้า ถ่ายรายการ ซึ่งสามารถติดต่อขอใช้สถานที่ล่วงหน้าโดยดูรายละเอียดจาก เว็บไซต์ นอกจากนี้ เมืองโบราณยังรับจัดพิธีแต่งงานแบบไทย ประชุม อบรม สัมมนา งานเลี้ยง รวมทั้งค่ายต่าง ๆ ด้วย ดูรายละเอียดจาก Facebook ก็ได้เช่นกันค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตรงกลางลานจอดรถในภาพบนเป็นพระแท่นที่ประทับ ซึ่งสร้างตามแบบฐานปราสาทสไตล์สุโขทัย ก่อด้วยปูนและศิลาแลง ในสัดส่วน 1:1 ซึ่งเมืองโบราณได้สร้างศาลาไทยหลังเล็ก ๆ เพิ่มบนพระแท่นเพื่อประดิษฐานพระพรหม พระผู้สร้างตามคติพราหมณ์ฮินดู ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมืองโบราณ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าที่นี่มีสถานที่ต่าง ๆ มากกว่า 100 จุด ดูจาก แผนที่ในเว็บไซต์ แล้วตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ ได้เลยค่ะ อย่างในภาพบนนี้คือศาลาในเมืองค่ะ ในสมัยก่อนคนไทยนิยมสร้างศาลาไว้ทั้งหน้าเมืองและในเมือง เพราะประตูเมืองจะเปิด – ปิดตามเวลา หากมาช้ามาเร็วเกินไปอย่างน้อยก็ยังมีที่พักคอย อีกทั้งยังเป็นจุดนัดพบได้อีกด้วย ศาลาในภาพบนนี้มีต้นแบบจากศาลาในวัดใหญ่อินทาราม ชลบุรี วัดเก่าแก่ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเคยใช้เป็นที่ประชุมทัพด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ด้านในมีนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการสร้างเมืองโบราณ ที่ได้รับการยกย่องจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตต้นแบบด้วยค่ะ ถัดมาก็จะเป็นโซนภาคใต้ซึ่งทางเมืองโบราณได้เปิดให้เข้าชมฟรีด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดจากสวนมโนราห์มา จะถึง พระมหาธาตุ (พระบรมธาตุ) เมืองนครศรีธรรมราช ในภาพบน ซึ่งเป็น 1 ใน 8 จอมเจดีย์ของไทยในจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ จากนั้นก็จะมีเทวรูปปัลลวะ เมืองพังงา พระธาตุไชยา สุราษฎร์ธานี ฯลฯ แล้วก็มาถึงทางแยกไปสู่ พุทธาวาสแห่งอนัตตจักรวาล ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวทางพุทธศาสนามากมายอย่างวิจิตรงดงามราวกับจำลองสวรรค์มาเลยทีเดียว

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภายในมีไพชยนต์ปราสาท ที่ประดิษฐานเทวรูปพระอินทร์ผู้ทรงเป็นจอมเทพปกครองสวรรค์ใน ไตรภูมิกถา ที่พระมหาธรรมราชา (ลิไท) ทรงจารึกไว้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์แห่งกรุงศรีอยุธยา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในสวนมีประติมากรรมเล่าเรื่องการประสูติของพระพุทธเจ้า มีพระพุทธรูปนาคปรก เสาอิติปิโส วิหารปัญญาวิมุต และมหาวิหารวชิรธรรม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ในสวนด้านหลังมหาวิหารวชิรธรรมยังมีรูปปั้นบุคคลสำคัญต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ชาติไทย และจำลองพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 นักษัตรด้วยค่ะ 

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ข้ามกลับออกมาจะเป็นพื้นที่ภาคกลาง ในเขตภูมิภาคตะวันตกซึ่งติดต่อกับภาคใต้ ในภาพล่างคือ พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองราชบุรี

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาในภาพล่างนี้ ด้านหน้าคือ หอพระไตรปิฎกกลางน้ำ สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่ทางเมืองโบราณได้ผาติกรรมจากวัดบางใหญ่ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม มาบูรณะซ่อมแซมและอนุรักษ์ไว้ ในสมัยโบราณหอพระไตรปิฎกจะตั้งอยู่กลางน้ำเพื่อป้องกันมด ปลวก และแมลงไม่ให้มาทำลายพระไตรปิฎกค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างเป็นคาเฟ่เล็กข้าง ๆ เรือนทับขวัญ (ด้านซ้ายของภาพ) ที่สร้างตามแบบพระตําหนักทับขวัญ ในพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม โดยมีสัดส่วนเล็กกว่าของจริงคือ 1:2 ค่ะ บนเรือนทับขวัญเป็นโลเคชั่นถ่ายละครเรื่องศรีอโยธยาด้วยนะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

มองออกไปจะเห็นฝั่งตรงข้ามเป็น พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งองค์จริงที่อยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ก็ถ่ายแบบมาจากพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาค่ะ ขึ้นไปชมด้านในได้นะคะ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและภาพลายรดน้ำประดับเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกรุงรัตนโกสินทร์ สวยงามมาก ๆ ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใกล้ ๆ กันถือเป็นไฮไลต์ของเมืองโบราณเลยก็คือ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ซึ่งสร้างขึ้นจากการศึกษาหลักฐานทางโบราณคดีและข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ในขณะที่องค์จริงที่อยุธยาเหลือเพียงฐานและกำแพงบางส่วนเท่านั้น ล้นเกล้าฯ ร.9 ทรงเคยรับรองสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรที่นี่ และยังเป็นที่ถ่ายละครและภาพยนตร์หลายเรื่องอีกด้วย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ส่วนในภาพล่างนี้คือ คุ้มขุนแผน เรือนเครื่องไม้แบบของเรือนผู้มีบรรดาศักดิ์ในสมัยอยุธยาที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจากวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง – ขุนแผน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใครได้ดูละครเรื่องเรือนเสน่หา ข้าบดินทร์ พิษสวาท นางทาส อนิลทิตา ก็มาถ่ายทำกันที่นี่ด้วยค่ะ ฉากตรงชานกลางเรือนในภาพล่างนี้เลย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในห้องมีการจัดวางเครื่องเรือนโบราณไว้ด้วย 

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาก็ใกล้ ๆ กันเป็น หอพระแก้ว ซึ่งสร้างขึ้นใหม่โดยอิงจากภาพที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นหอพระในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา บนบานประตูตู้ไม้แกะสลักสมัยอยุธยา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาทางทิศตะวันตกก็จะมี อนุสรณ์สถานสงครามยุทธหัตถี ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้วเกิดขึ้น ณ ตำบลดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นถ้าเป็นในโลกจริง ทางทิศตะวันตกของไทยนั้นเป็นพื้นที่ป่าเขากว้างใหญ่ ซึ่งทางเมืองโบราณจัดเป็นโซนสุวรรณภูมิ มีสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สร้างสรรค์จากองค์ความรู้ทั้งด้านวรรณคดี คติ ตำนาน ความเชื่อ ปรัชญาและศาสนาต่าง ๆ อย่างในภาพล่างนี้คือ ศาลาทศชาติ ตั้งอยู่กลางสะพานข้ามลำน้ำ ภายในมีจิตรกรรมเรื่องทศชาติชาดก อันเป็นชาดกสิบพระชาติหลังของพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสมณโคดมพุทธเจ้า

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมี เสาชิงช้าและโบสถ์พราหมณ์ ซึ่งไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพฯ แต่มีในนครใหญ่ ๆ ของไทยมาแต่สมัยอยุธยา ซึ่งผู้คนนับถือพุทธและพราหมณ์ควบคู่กันไป ปัจจุบันในช่วงสงกรานต์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังคงมีพิธีแห่นางดาน (ไม้กระดานสลักรูปเทวดาตามคติพราหมณ์) และโล้ชิงช้าเป็นการต้อนรับพระอิศวรที่จะเสด็จลงมาเยือนโลกมนุษย์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในโซนนี้มีร้านอาหารทั้งภัตตาคาร บุฟเฟ่ต์ ขันโตกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านเครื่องดื่ม บริเวณถัดมาโดยรอบจะมีสวนหย่อมและแมกไม้ ลำธาร และน้ำตกร่มรื่นเป็นระยะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

กลุ่มอาคารอันเป็นไฮไลต์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของที่นี่เลยก็คือ ศาลาพระอรหันต์ สีทองอร่ามเรียงรายกลางสระน้ำอันกว้างใหญ่ ภายในมีประติมากรรมรูปพระอรหันต์ในพุทธศาสนามหายานมากมาย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดจากนั้นมาไม่ไกลจะเป็นมณฑปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) เทพแห่งเมตตาธรรมที่มีผู้นับถืออย่างแพร่หลายในเอเชีย ในสระน้ำมี ประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางแสดงปาฏิหาริย์ ให้หมู่มารทั้งหลายกริ่งเกรง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

อีกฟากถนนมีแม่ลำธารอีกสายหนึ่งซึ่งมีการจัดแสดง กระบวนเรือพระราชพิธี ในการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปนมัสการพระพุทธบาทที่สระบุรีเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งโขนเรือต่าง ๆ นั้นมีการตกแต่งเป็นรูปสัตว์หิมพานต์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาในภาพล่างนี้เป็นสวนพฤกษชาติในวรรณคดีไทย ที่เพดานระเบียงชมสวนนี้มีโคลงกลอนที่เอ่ยถึงพรรณไม้ต่าง ๆ เขียนไว้เป็นแหล่งความรู้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ส่วนในภาพล่างนี้คือ เรือสำเภาเก่าแก่ที่เมืองโบราณได้ขอซื้อมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วนำมาดัดแปลงให้คงทนถาวรแต่ยังคงรูปลักษณ์ของเรือสำเภาโบราณไว้ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ออกจากป่าในโซนสุวรรณภูมิกันมาแล้วก็มาโผล่กันที่ หมู่บ้านไทยภาคเหนือ เลยค่ะ ยอดหลังคาบ้านมีปั้นลมเป็นไม้ไขว้ 2 อันเรียกว่า “กาแล” ต่างจากภาคกลางที่เป็นยอดแหลม มีร้านอาหาร กาด (ตลาด) เล็ก ๆ ไปเดินเล่นในละแวกเรือนไทยภาคเหนือซึ่งรื้อมาปลูกที่นี่ได้ เจอแม่ไก่กำลังพาลูก ๆ หากินอยู่ริมรั้วพอดีเลย บรรยากาศดีมาก ๆ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตรงกลางหมู่บ้านมี วิหารวัดเชียงของ ซึ่งเป็นวิหารทรงไทลื้อขนาดใหญ่สร้างด้วยไม้ โดยวิธีเข้าลิ่มตอกเดือย หลังคาก็เป็นแป้นเกร็ดทำจากไม้ และ โบสถ์น้ำ ซึ่งถือว่าน้ำเป็นเขตพัทธสีมา แทนการผูกสีมาที่ใช้ใบเสมา ซึ่งเมืองโบราณผาติกรรมโดยถอดเป็นชิ้นส่วนมาแล้วประกอบขึ้นใหม่ที่นี่ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาในภาพล่างนี้คือ หอคำเมืองลำปาง สร้างขึ้นตามรูปแบบหอคำที่พำนักของเจ้าเมืองลำปางในอดีต เป็นสถาปัตยกรรมเครื่องไม้ที่แสดงถึงฐานันดรชั้นสูงของล้านนา  

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ วัดจองคำ อาคารเครื่องไม้สถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ที่สร้างเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสรวมกันในหลังเดียว ผาติกรรมมาจาก อ.งาว จ.ลำปาง มีความโดนเด่นที่การฉลุไม้ประดับส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องหลังคาอย่างประณีตงดงาม เป็นที่ถ่ายละครดัง ๆ อย่าง รากนครา และคุ้มนางครวญด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ปั่นต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอ เจดีย์จามเทวี หรือที่เรียกันว่า “กู่กุด” ที่ถ่ายแบบมาจากของจริง ซึ่งเป็นศิลปะแบบหริภุญชัยอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ใน จ.ลำพูน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นมุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะพบกับ วิหารวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นวิหารทรงจัตุรมุข มีทางขึ้นทั้งสี่ด้าน และมีพญานาคที่ราวบันไดทางเข้าหลักเสมือนคติบันไดนาค ซึ่งเป็นเหมือนสะพานเชื่อมโลกมนุษย์กับสวรรค์ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตรงหลังวัดมีโขดหินเป็นทางข้ามไปสู่ สวนเทวโลก ซึ่งมีเทวรูปตามคติพราหมณ์ตั้งอยู่เรียงรายพร้อมข้อความอธิบายให้ความรู้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นเราก็จะข้ามไปต่อในเขตภาคกลางตอนบน ในภาพล่างเป็น วิหารหลวงวัดมหาธาตุ เมืองสุโขทัย เห็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ด้านหลังด้วย นึกถึงตอนที่ไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาในภาพล่าง คือ ศาลาร้องทุกข์ ที่เมืองโบราณสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนระบอบการปกครองแบบปิตุราชาในแบบของรัฐสุโขทัย ดังที่กล่าวไว้ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนก็มาสั่นกระดิ่งที่หน้าวัง แล้วพ่อขุนท่านก็จะออกมาช่วยแก้ไข

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใกล้ ๆ กันมี มณฑปพระพุทธบาทยืน อุตรดิตถ์ พระปรางค์วัดจุฬามณี และวิหารซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากวิหารหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลก ก็ไปต่อกันในแถบภาคอีสานตอนบน อย่างในภาพล่างนี้คือ พระธาตุศรีสองรัก จ.เลย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต ล้านช้าง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ปั่นมาเรื่อย ๆ ก็มาเจอ พระธาตุนารายณ์เจงเวง สถาปัตยกรรมอิทธิพลเขมร ที่ของจริงอยู่ใน จ.สกลนคร หลังต้นไม้ทางซ้ายมือของภาพล่างคือ พระธาตุเชิงชุม ที่สร้างใหม่ให้สูงเท่ากับต้นแบบ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองให้สอดคล้องตามตำนานขององค์จริงที่สกลนครค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

อาคารไม้แกะสลักในภาพล่างนี้คือ วิหารล้านช้างและหอไตร ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านช้างซึ่งเป็นที่แพร่หลายในภาคอีสานของไทย ด้านหลังทางขวาของภาพเป็น พระธาตุพนม ซึ่งเมืองโบราณสร้างตามแบบองค์เดิม ก่อนที่จะถล่มลงและมีการบูรณะใหม่ในช่วงต้นรัชกาลที่ 9

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่นี่มี เขาพระวิหาร ด้วยนะคะ และก็ตั้งอยู่บนหน้าผาเสียด้วย แต่พอดีช่วงที่ไปมาอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงค่ะ เลยถ่ายภายจากข้างล่างมองช้อนขึ้นไปมาให้ดูแทน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ในบึงน้ำไม่ไกลนักมี ประติมากรรมเล่าเรื่องตำนานการกวนเกษียรสมุทร ให้เกิดน้ำอมฤตด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาก็ถึง ศาลาแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นเรือนไทยที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ และก็เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นในการถ่ายละครและจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่าง งานแต่งงาน เป็นต้น

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

หากพูดถึงภาคอีสาน โดยเฉพาะในแถบตอนล่างแล้วจะไม่เอ่ยถึงปราสาทหินเลยคงจะไม่ได้ ในภาพล่างนี้คือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินทรายสีชมพูที่สวยที่สุดในไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะเขมร ซึ่งของจริงตั้งอยู่ที่บุรีรัมย์ และมีปรากฏการณ์อันน่าทึ่งเกิดขึ้น 4 หน/ปี ที่เราจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น/ตกผ่านช่องประตูทั้ง 15 ช่องเป็นแนวเดียวกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นไปชม ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งไม่ได้สร้างในคติพราหมณ์ – ฮินดูล้วน ๆ อย่างปราสาทหินพนมรุ้ง แต่เป็นการสร้างในคติพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งหากได้ไปชมของจริงจะเห็นภาพสลักในพุทธศาสนาด้านใน และศาสนาพราหมณ์ด้านนอก สอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ว่าแถบนั้นเดิมเป็นชุมชนในวัฒนธรรมทวาราวดี ซึ่งนับถือพุทธศาสนา ต่อมาเมื่อวัฒนธรรมเขมรแพร่เข้ามาก็ไม่ได้กลืนความเชื่อเดิมของคนพื้นที่ไปเสียทั้งหมด

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาก่อนเข้าสู่เขตภาคกลางในภาพล่างนี้ คือ พระธาตุสามหมื่น จ.ชัยภูมิ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับหนองสามหมื่น ที่มีตำนานเล่าว่าเป็นหนองน้ำเดียวกับที่พระอินทร์ตีคลีกับพระสังข์ แล้วลูกคลีตกลงไปในหนองแห่งหนึ่งจนต้องใช้คนสามหมื่นคนงมหา ในนิทานพื้นบ้านเรื่องสังข์ทองและสุวัณณสังขชาดก

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นผ่านหมู่บ้านไทยภาคกลางไปไม่ไกลก็จะเห็น พระปรางค์สามยอด แลนด์มาร์กสำคัญแห่งเมืองลพบุรี ศิลปะร่วมเขมรแบบบายนซึ่งมีลวดลายปูนปั้นที่ได้รับอิทธิพลศิลปะในพุทธศาสนาแบบทวาราวดีในภาคกลางมาผสมผสาน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

และแล้วก็มาถึงอีกหนึ่ง ไฮไลต์สำคัญแห่งเมืองโบราณซึ่งก็คือ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งของจริงนั้นเป็นมณฑปที่ครอบรอยพระพุทธบาทที่พบเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา แม้ต่อมาจะถูกเผาทำลายไปในคราเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 ก็ได้รับการสร้างใหม่ในสมัย ร.1 เป็นสถานที่จาริกแสวงบุญยอดฮิตมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ด้านหลังเขาพระพุทธบาทจำลอง ก็เป็นเขต สวนบางปะอิน มีเขามอ ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “ถมอ” ในภาษาเขมรที่แปลว่าหิน หมายถึงว่าเขานี้เป็นเขาจำลองสร้างจากหินนั่นเอง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากเขามอแล้ว ยังมีการสร้างพระที่นั่งกลางน้ำ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระราชวังบางปะอิน อีกด้วย แต่จะต่างกันตรงสีกระเบื้องหลังคาที่ของจริงมี 3 สี เขียวเหลืองแดง และที่หน้าบันของจริงจะเป็นตราอาร์มแผ่นดินในสมัย ร.5

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ต่อมาก็จะเป็นสวนพระอภัยมณี นิทานคำกลอนเรื่องดังของสุนทรภู่ กวีเอกของโลก ซึ่งมีฉากเกาะแก้วพิสดารที่คาดกันว่าท่านน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากเกาะเสม็ด ที่ทรายขาวละเอียดมาก ๆ ในจังหวัดระยอง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใกล้ ๆ กันเป็นตึกแดง สถาปัตยกรรมกลิ่นอายตะวันตก ซึ่งของจริงที่เมืองจันทบุรีเป็นอาคารอิฐฉาบปูนทาสีแดง เป็นที่พักและกองอำนวยการทหารฝรั่งเศสเมื่อคราวที่ฝ่ายนั้นเข้ามายึดจันทบุรีในสมัย ร.5 (ร.ศ. 112)

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

แล้วก็มาถึง ท้องพระโรงกรุงธนบุรี ซึ่งจำลองมาจากของจริงที่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ โดยภายในเข้าไปชมได้นะคะ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวตั้งแต่การเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 จวบจนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชคืนมา และสถาปนากรุงธนบุรีในที่สุดค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ก่อนกลับหากยังไม่เย็นนัก หรือโดยเฉพาะในช่วงเสาร์อาทิตย์ก็แวะเดินเล่นช็อปปิ้งชิว ๆ กันได้ที่ตลาดโบราณ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นโลเคชั่นถ่ายละครเรื่องสี่แผ่นดินด้วยนะคะ มาเที่ยวที่นี่ได้ทั้งวันเลยทีเดียวค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

“Amazing ไทยเท่” ที่เที่ยวเก๋ ๆ ใกล้ตัว อย่าลืมมาชื่นชมกันนะคะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ไกด์เตยหอม
  • 3 Followers
  • Follow