Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ไข 6 ข้อสงสัย กับประโยชน์ – โทษ ที่คอกาแฟควรรู้

Posted By Plook Women | 27 ส.ค. 62
6,982 Views

  Favorite

ดื่มกาแฟ ให้ประโยชน์หหรือโทษกันแน่ ? วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ 

 
เครื่องดื่มยอดนิยมที่มักมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลดีหรือผลเสีย หลังจากรับประทานไปแล้วมากที่สุด รายการหนึ่งก็คือ “กาแฟ” เพราะนอกจากสามารถหาดื่มได้ง่าย และเป็นเครื่องดื่มที่ปรุงแต่งรสชาติได้หลากหลายตามใจผู้บริโภคแล้ว การดื่มกาแฟยังกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า จึงทำให้กาแฟได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก ส่วนประกอบสำคัญของ “กาแฟ” ที่มีผลต่อสุขภาพคือ “คาเฟอีน” และ “สารต้านอนุมูลอิสระ” ซึ่งเป็นสารที่คอยปกป้องเซลล์ในร่างกายของเราให้ปลอดภัยจากสารพิษ หรือการอักเสบ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนี้มักจะอยู่ในกาแฟชนิด “อาราบิก้า” แบบที่ไม่ได้กรองกากกาแฟ ส่วนคาเฟอีนนั้นพบได้ในกาแฟทุกรูปแบบ วันนี้เราจึงขอชวนคอกาแฟมาไขข้อสงสัยจาก “กาแฟ” ในแง่มุมของผลต่อสุขภาพให้มากขึ้น โดยข้อมูลจากทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด กันค่ะ
 
ภาพ : freepik

 

1. การดื่มกาแฟช่วยให้เราอายุยืนขึ้นจริงหรือไม่ ?

     มีงานวิจัยตีพิมพ์ใน  Annals of Internal Medicine แนะนำว่า การดื่มกาแฟ 3 ถ้วยต่อวัน อาจสามารถยืดอายุของเราให้ยาวขึ้นได้ เนื่องจากพบว่ากลุ่มที่ดื่มกาแฟเช่นนี้นั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคหัวใจน้อยลง โดยการศึกษานี้รวบรวมกลุ่มผู้เข้าร่วมงานวิจัยได้ถึง 500,000 คนจาก 10 ประเทศในทวีปยุโรป ยาวนานถึง 16 ปี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ในงานวิจัยนี้ไม่ได้แยกแยะผู้ป่วยตามแนวทางการใช้ชีวิตประจำวันและเศรษฐานะทางสังคม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลผิดพลาดได้ นอกจากนี้ งานวิจัยยังตัดผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายอย่างออกไปด้วย จึงทำให้ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่มักจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วนั่นเอง 
 

2. การดื่มกาแฟช่วยเพิ่มพลังและความสดชื่นให้เราได้จริงหรือไม่ ?

กาแฟช่วยให้ผู้ดื่มหลายคนรู้สึกไม่เหนื่อยล้าและสดชื่นมากขึ้น อันเนื่องมาจากสารคาเฟอีนนั่นเอง เมื่อสารคาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดและสมองในขนาดที่เหมาะสม จะออกฤทธิ์ในการกระตุ้นเซลล์ประสาทให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านความจำ อารมณ์ และการเรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกจากนี้ มีบางงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟในขนาดที่เหมาะสมก่อนออกกำลังกาย จะช่วยให้ออกกำลังกายได้ดีและนานขึ้นถึงร้อยละ 11-12 เลยทีเดียว
 

3. การดื่มกาแฟลดความอ้วนได้หรือไม่ ?      

มีงานวิจัยพบว่า สารคาเฟอีนในกาแฟนั้นสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญสารเคมีในร่างกายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหมายความว่ากาแฟนั้นน่าจะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้  จึงอาจนำไปสู่การใช้การดื่มกาแฟในการลดความอ้วนได้ แต่ทั้งนี้ยังต้องรอผลสรุปจากงานวิจัยอื่นๆ เพิ่มเติม
 
ภาพ : freepik

 

 

4. การดื่มกาแฟมีผลอย่างไรต่อโรคในระบบประสาท ?

มีหลายงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟสามารถช่วยปกป้องเราจากโรคที่เกิดจากการเสื่อมถอยของระบบประสาท ยกตัวอย่างเช่น โรคความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ โดยงานวิจัยเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง มีการศึกษาที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาวเอเชียเหมือนกับบ้านเราพบว่า ในคนญี่ปุ่นกว่า 8,000 คน คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ พบการเกิดโรคพาร์กินสันน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 5 เท่า โดยมีการเก็บข้อมูลนานถึง 30 ปี แต่ข้อเท็จจริงนี้ใช้ได้กับผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนเพศในผู้หญิง (เอสโตรเจน) จะไปแย่งกันเกิดปฏิกิริยากับคาเฟอีน หรือสตรีวัยทองที่กลับไปรับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็จะพบว่าเกิดเป็นโรคพาร์กินสันมากกว่าคนที่ไม่ได้รับประทานฮอร์โมนนี้ ในทางการแพทย์สันนิษฐานว่า คาเฟอีนจะไปทำให้สารสื่อประสาท โดปามีน ถูกขนส่งไปออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
 

5. การดื่มกาแฟลดการเกิดโรคเบาหวานได้จริงหรือไม่ ?

มีงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟทำให้มีโอกาสการเกิดโรคเบาหวานลดลง โดยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 6-7 ถ้วยต่อวัน พบโรคเบาหวานน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่ม โดยเชื่อว่าสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟ เป็นตัวทำให้การดื้ออินซูลินลดลง ทำให้ไม่ค่อยพบโรคเบาหวาน และสารต้านอนุมูลอิสระนั้นคือ phenolic chlorogenic acid 
 

6. เราดื่มกาแฟได้มากเท่าไหร่ และกาแฟมีอันตรายหรือความเสี่ยงใด ๆ ต่อสุขภาพหรือไม่ ?

ยังไม่มีข้อกำหนดหรือข้อห้ามใด ๆ สำหรับปริมาณกาแฟที่ควรดื่มสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์นั้นควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนไม่ให้เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะมีรายงานว่ามีการแท้งมากกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ดื่ม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าลูกที่เกิดมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยและตัวเล็กกว่าอายุครรภ์อีกด้วย  สารคาเฟอีนมีฤทธิ์คล้ายยาขับปัสสาวะ จึงอาจทำให้ผู้ดื่มกาแฟปัสสาวะมากขึ้นและเร็วขึ้น อีกทั้งมีรายงานว่าในผู้ที่ดื่มกาแฟมาก ๆ บางครั้งอาจเกิดอาการหน้ามืด เป็นลม มือสั่น และนอนไม่หลับได้ หากเกิดอาการเช่นนี้บ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ นอกจากนี้ กาแฟมักได้รับการปรุงแต่งอย่างหลากหลาย อาจมีการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม นม และอื่น ๆ ซึ่งอาจมีผลในการเพิ่มแคลอรี่ส่วนเกินให้ผู้ดื่มได้ ผู้ดื่มที่มีโรคประจำตัวที่อาจได้รับผลกระทบควรคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกัน
 

เพียงเท่านี้ คอกาแฟก็สามารถกำหนดปริมาณการดื่มในแต่ละวันได้ง่าย ๆ ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพดี หรือถ้าหากมีข้อสงสัยใดเพิ่มเติม สามารถขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด (โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (จังหวัดสมุทรปราการ) โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ (จังหวัดนครสวรรค์) โรงพยาบาลพิษณุเวช (จังหวัดพิษณุโลก) และโรงพยาบาลสหเวช (จังหวัดพิจิตร)) และติดตามสาระดี ๆ เกี่ยวกับการแพทย์ได้ที่ http://www.princhealth.com เช่นกันค่ะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Women
  • 0 Followers
  • Follow