ท่ามกลางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน แม่แหม่มเชื่อว่าพ่อแม่หลายท่านคงมีความกังวลเกี่ยวกับการวางแผนอนาคตของลูกไม่น้อย และถึงแม้ว่าพ่อแม่หลายท่านจะยังลังเล หรือยังไม่เห็นทิศทาง ว่าจะผลักดันลูกไปในทางไหนดี

วันนี้เราลองมาดูวิธีที่จะช่วยวางแผนอนาคตที่ดีให้กับลูกกันนะคะ

ตั้งเป้าหมาย แต่ไม่กดดัน

เป็นธรรมดาที่พ่อแม่มักมีความคาดหวังในตัวลูก แต่นักจิตวิทยาแนะนำว่าการคาดหวังกับลูกสามารถทำได้ แต่ไม่ควรกดดัน ควรตั้งเป้าหมายกับลูกเป็นระยะ ให้มีความเหมาะสมกับวัยและความสามารถของลูก เช่น หากพ่อแม่มีเป้าหมายกับผลการเรียนว่าคะแนนเทอมนี้ควรดีขึ้น แต่ถ้าหากลูกยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ควรใช้ความเข้าใจ ไม่โวยวาย หรือดุด่า ว่าลูก แต่ควรเป็นที่ปรึกษาด้วยความเข้าใจ พูดคุยกับลูกเพื่อหาสาเหตุที่ลูกทำไม่ได้ เพราะการที่พ่อแม่ใช้อารมณ์หรือแสดงความผิดหวังกับลูก อาจทำให้ลูกเกิดความเครียด และมีภาวะถดถอยทางพัฒนาการได้ การวางเป้าหมายที่ดีสำหรับลูก คือ การสร้างแรงบันดาลใจ และให้การสนับสนุนลูกอย่างเหมาะสม

ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบ

เพราะการที่ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบ จะทำให้ลูกเกิดกระบวนการเรียนรู้ในสิ่งนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งแต่การเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมกับแนวทางการเลี้ยงดูและความสนใจของลูก เพราะการเลือกโรงเรียนที่ดี ก็คือ การเลือกแนวทางการเติบโตของลูก โรงเรียนที่ดีย่อมส่งเสริมพัฒนาการ และค้นหาพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ของลูกได้  

วางแผนการเงิน

เรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูก ก็คือ การวางแผนการเงิน พ่อแม่จะต้องมีการจัดการดูแล แบ่งสัดส่วนของรายได้ที่มีอยู่ เพื่อมาดูแลในเรื่องทุนการศึกษาของลูก พ่อแม่จะต้องวางเป้าหมายและจัดสรรเงินในแต่ละส่วน โดยแบ่งเป็นแต่ละช่วง ตั้งแต่วัยอนุบาล เข้าประถม ขึ้นมัธยม และก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นหลักประกันอนาคตการศึกษาให้กับลูก เพราะชีวิตคือความไม่นแน่นอน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันกับพ่อแม่ ลูกก็ยังสามารถเรียนต่อจนจบได้โดยไม่สะดุด โดยควรเริ่มทำตั้งแต่ลูกยังอายุน้อย ๆ เพื่อเป็นการปูทางอนาคตที่ดีให้กับลูก

เพราะการสร้างอนาคตที่ดี คือ ส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่พ่อแม่ที่จะเตรียมความพร้อม และสร้างหนทางแห่งความสำเร็จให้กับลูก เพราะเราเชื่อว่า การได้เห็นลูก ๆ เติบโตขึ้นและประสบความสำเร็จในชีวิต คือ ความสุขที่สุดของพ่อแม่

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.