Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ดร.วิน แนะ สอนลูกอย่างไร ? ให้โตไปเป็นนักลงทุน

Posted By Plook Parenting | 25 ก.ค. 62
23,119 Views

  Favorite

“การบริหารเงิน” เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนนิสัยกันตั้งแต่เด็ก วันนี้เราจึงมีแนวทาง สอนลูกอย่างไร ? ให้โตไปเป็นนักลงทุน โดย “ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST 

 

ในฐานะคุณพ่อลูก 2 อย่าง “ดร.วิน” นอกเหนือจากอนาคตที่ดี ที่เราวางแผนให้ลูกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่หลาย ๆ คนหวังว่าลูกจะสามารถทำได้ คือ การจัดการกับอนาคตของตัวเองได้ดี ในวันที่พ่อแม่ไม่อยู่ อีกหนึ่งหัวข้อที่ถูกยกมากล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นเรื่อง “การบริหารเงิน” ที่ต้องฝึกฝนนิสัยกันตั้งแต่เด็ก วันนี้เราจึงมีแนวทาง สอนลูกอย่างไร ? ให้โตไปเป็นนักลงทุน โดย “ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์”  ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST 

 

 

แนวทาง สอนลูกให้โตไปเป็นนักลงทุน

     • เริ่มอย่างไร ให้ลูกเข้าใจเรื่องการเงิน 

     • จัดสรรเงินให้เหมาะสมกับช่วงวัย 

     • เข้าใจถึงต้นทุนชีวิตในแต่ละวัน 

     • เริ่มลงทุนง่าย ๆ ให้เข้าใจรูปแบบ 

     • เก็บเกี่ยวผลลัพธ์ของเมื่อวาน 

 

 

เริ่มอย่างไร ให้ลูกเข้าใจเรื่องการเงิน ?

“ดร.วิน” : เด็กจะคุ้นเคยกับการรับจากพ่อแม่โดยไม่มีเงื่อนไข การสอนให้เด็กเข้าใจเรื่องเงิน ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนพื้นฐาน เราต้องทำให้เขาเข้าใจ ว่าสิ่งที่ได้มาจะต้องมีสิ่งที่เสียไปเป็นการแลกเปลี่ยน เพื่อที่เขาจะเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองมี และดูแลรักษามันก่อน เรียกว่าให้รู้จักที่จะรักษาทรัพย์สินของตัวเอง ก่อนที่จะเริ่มหาทรัพย์สินเพิ่ม อย่างถ้าวันนี้ลูกเราอยากได้ตุ๊กตาซักตัว ผมเชื่อว่าหลายครอบครัวยุคใหม่ มีการใช้วิธีนี้กันอยู่แล้ว คือการให้เด็ก ๆ ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ต้องการ ตรงนี้เราเรียกว่าการเทรดแล้วครับ

 

 

จัดสรรเงินให้เหมาะสมกับช่วงวัย 

“ดร.วิน” : เด็กแต่ละช่วงวัย ให้ความสำคัญกับคุณค่าของเงินแตกต่างกันไป เพราะปัจจัยในการเติบโตของแต่ละวัยแตกต่างกัน ในช่วงอนุบาล เด็กยังให้ความสำคัญกับคุณค่าของเงินน้อยมาก เนื่องจากยังไม่เข้าใจหลักการแลกเปลี่ยน เพราะชีวิตประจำวันไม่มีความจำเป็นในการใช้จ่าย ยังอยู่กับพ่อแม่ผู้ปกครอง ในช่วงวัยนี้ เราควรสอนให้เด็กรู้จักการแลกเปลี่ยน เข้าใจการซื้อขาย เข้าใจในหลักการแต่ไม่ถึงขั้นต้องซื้อของเป็น รับเงินทอนเป็นเป๊ะ ๆ เพราะจะกดดันเด็กมากเกินไป

 

 

พอโตขึ้นมาหน่อย ช่วงประถม ช่วงนี้เป็นช่วงที่กิจวัตรประจำวันเริ่มห่างจากอกพ่อแม่ เริ่มต้องมีการใช้จ่าย ซื้อสินค้าเพื่อตัวเอง เริ่มได้รับเงินรายวัน เพื่อไปโรงเรียน สิ่งที่เราควรจะสอนในช่วงนี้ คือสอนการบริหารเงินที่มี ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในแต่ละวัน เหลือมาจัดสรรปันส่วนสำหรับเก็บออม เพื่อซื้อของที่อยากได้ ช่วงมัธยมคือช่วงเวลาทองคำ ที่เราจะสอนเค้าให้รู้จักการลงทุน เพราะเป็นวัยที่เข้าใจอะไรต่อมิอะไร และมีอะไรที่อยากได้เยอะแยะไปหมด การลงทุนเล็ก ๆ ในช่วงเวลานี้ จะสอนให้เขาเข้าใจถึงการเทรดเพื่อให้ได้มาเพื่อสิ่งที่ต้องการ ทุกช่วงวัยการสอดแทรกสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ คือกุญแจที่จะทำให้เด็ก ๆ เข้าใจ ถึงโลกของการลงทุน 

 

 

เข้าใจถึงต้นทุนชีวิตในแต่ละวัน 

“ดร.วิน” : การเข้าใจถึงต้นทุน ทำให้เด็กเลือกทำในสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ ต้นทุนในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเงิน แต่ยังรวมไปถึงเวลา สุขภาพ ทรัพยากรต่าง ๆ ที่ต้องใช้จ่ายในการทำอะไรซักอย่างในหนึ่งวัน ที่เราเดินทางไปโรงเรียนเพื่อไปหาความรู้ เรามีค่ารถ ค่าอาหารกลางวัน ค่าขนม และเวลากี่ชั่วโมงที่เราเสียไป เราต้องได้อะไรกลับมาเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าคุ้มค่าในแต่ละวัน เมื่อเด็ก ๆ เข้าใจถึงต้นทุนที่เสียไปในแต่ละวัน เขาจะรู้จักประเมินความคุ้มค่า ที่จะลงมือทำอะไรซักอย่างเพื่อตัวเอง 

 

 

เริ่มลงทุนง่าย ๆ ให้เข้าใจรูปแบบ 

“ดร.วิน” : เด็ก ๆ จะไปลงทุนอะไรได้เหรอ ยังเด็กยังเล็ก จะไม่ขาดทุนเอาเหรอ ขาดทุนครับ แน่นอน ไม่ต้องห่วง เพราะฉะนั้นการเรียนรู้จึงสำคัญ… เด็ก ๆ จะลงทุนอะไรได้บ้างเหรอครับ อืมมมมมมม การลงทุนที่ง่ายที่สุด คงเป็นการซื้อขาย เริ่มจากการซื้อขายสินค้าที่จับต้องได้ ให้เขาเห็นความเป็นมาของวงจรธุรกิจ ว่าต้นทุนสินค้าคืออะไร ? ต้นทุนแรงงานคืออะไร ? ค่าโสหุ้ยคืออะไร ? กำไรคืออะไร ? การลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการซื้อขายสินค้า ที่เขาสนใจจะช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้เขาเลือกทำธุรกิจกับสิ่งที่ตนเองรัก และมีความสุขกับสิ่งนั้นอีกด้วยครับ 

 

 

เก็บเกี่ยวผลลัพธ์ของเมื่อวาน 

“ดร.วิน” : สิ่งนึงที่เด็กต้องเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงคือ การรอคอยให้พืชที่หว่านไว้ ผลิดอกออกผล เรียนรู้ความผิดหวังความผิดพลาด สอนให้เขารู้จักผลลัพธ์ของการกระทำในอดีต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลูกหยอดกระปุกวันละ 50 บาท วันนี้ ลูกจึงมีเงินเป็นจำนวน 350 บาท ไปซื้อของที่ลูกอยากได้ เมื่อเดือนที่แล้วลูกใช้เงินเกินจำนวนที่ตนเองมี โดยการนำเงินในอนาคตมาใช้ เดือนนี้ลูกจึงได้รับเงินน้อยลง เพราะผลจากการใช้เงินอย่างเพลิดเพลินเมื่อเดือนที่แล้ว อธิบายให้มีหลักการและเหตุผลรองรับ ค่อย ๆ ให้เขาเข้าใจถึงเหตุและผลที่เกิดขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต่อต้าน และซึมซับการใช้ เก็บ และลงทุนอย่างเป็นระบบครับ 

 

“ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST คุณพ่อของลูกสาววัยกำลังน่ารัก 2 คน เผยวิธีการสอนลูกอย่างไร ให้โตไปเป็นนักลงทุน 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Parenting
  • 8 Followers
  • Follow