Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เก็บไว้ในความทรงจำกับ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ พร้อมพาชิมห้องอาหารเวียดนามรสชาติต้นตำรับ Thien Duong

Posted By Plook Women | 18 ธ.ค. 61
3,329 Views

  Favorite

หลังจากทราบการประกาศปิดตัวลงของ "โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ" โรงแรมระดับตำนานที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 5 ทศวรรษ เราเลยจะพาทุกคนกลับไปเก็บความทรงจำอันล้ำค่าไว้เป็นที่ระลึกกัน

 

หลาย ๆ คนคงคุ้นตา “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ” แถบสีลมกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นโรงแรมที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 50 ปีแล้ว ในยุคสมัยนั้น โรงแรมดุสิตนับเป็นต้นแบบของอาคารสถาปัตยกรรมไทยโมเดิร์นยุคแรก ๆ ที่โก้ หรู และทันสมัยมาก ๆ เพราะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่สูงที่สุด มีห้องพักกว้างที่สุด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พักอาศัยพรั่งพร้อมที่สุดเลยทีเดียว

 

เกี่ยวกับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

 

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ก่อตั้งโดย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย และเปิดดำเนินกิจการเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 ในยุคนั้น โรงแรมดุสิต นับเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนยุคนั้นไม่น้อย

 

ภาพ : @dusitthani

 

โรงแรมดุสิตธานี ก่อสร้างขึ้นจากแนวคิด "การเป็นโรงแรมที่โดดเด่นและดีที่สุดตามมาตรฐานสากล แต่ยึดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก" จึงไม่แปลกใจเลยว่าทุกครั้งที่ก้าวเข้าไปในโรงแรม เราจะสัมผัสกลิ่นอายของความเป็นไทย ผสมกับความโมเดิร์นและความอบอุ่นสะดวกสบายแทบทุกครั้ง

 

ภาพ : @dusitthani

 

แม้โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะปิดตัวไป แต่โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานี ยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีโรงแรมและรีสอร์ททั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 27 แห่ง และมีโรงแรมที่กำลังจะเปิดให้บริการในระยะเวลา 3 ปี ข้างหน้าเพิ่มอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก

 

ภาพ : @dusitthani

 

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ นับเป็นหน้าเป็นตาของประเทศเลยทีเดียว เพราะเมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาทีไร เป็นต้องพามาสัมผัสบรรยากาศความเป็นไทยที่โรงแรมแห่งนี้เสมอ (ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe 3 ปี คือ ปี 1992, 2005 และ 2018 โรงแรมดุสิต เป็นโรงแรมที่ใช้เก็บตัวนางงามทั้ง 3 ปีเลยค่ะ) ดังนั้น การประกาศปิดตัวครั้งนี้ จึงชวนให้รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน

 

โรงแรมดุสิตธานี ในอนาคต

 

เพราะความเจริญและการเติบโตของธุรกิจโรงแรมรุดหน้าไปมาก โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ทั้งในเรื่องของขนาดห้องพัก ขนาดห้องอาหาร และการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องดียิ่งขึ้นไปอีก คณะผู้บริหาร จึงจำเป็นต้องตัดสินใจปิดกิจการโรงแรมดุสิต เพื่อปรับปรุง และสร้างโรงแรมดุสิตโฉมใหม่ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับโรงแรมระดับโลกได้

 

 

แต่เหนืออื่นใด เสน่ห์ของโรงแรมดุสิตธานีจะยังคงอยู่ เพราะยึดถือคำมั่นว่า "สิ่งที่แท้ คือสิ่งที่เราเป็น" โรงแรมดุสิตโฉมใหม่จะยังคงเป็นโรงแรมแบบไทย ออกแบบอย่างไทย และชื่อภาษาไทย เพื่อคงความเป็นดุสิตธานีไว้ แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าภายนอกให้ดูทันสมัยขึ้นเท่านั้นเอง

 

 

เพื่อให้คงความเป็น "ดุสิตธานี" ไว้ ทางโรงแรมได้จัดทำโครงการบันทึกการเปลี่ยนผ่านหน้าประวัติศาสตร์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ “Preserving Dusit Thani Bangkok’s Artistic Heritage” ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากร ในการอนุรักษ์เอกลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานีไว้ ดังนั้น รับรองได้เลยว่าโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ จะยังมีกลิ่นอายและบรรยากาศเดิม ๆ เหมือนเอาโรงแรมดุสิตธานีที่เราคุ้นเคยมาปรับโฉมใหม่นั่นล่ะค่ะ (เสาหินจิตรกรรมฝาผนังแสนสวยที่ห้องอาหารเบญจรงค์เขาก็ตัดไปไว้ที่โรงแรมใหม่ด้วยนะคะ)

 

 

ระหว่างที่ไปเก็บภาพโรงแรมดุสิตธานี เขากำลังประดับโรงแรมต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่อยู่ค่ะ สวยและน่าประทับใจมาก ๆ บรรยากาศผสมผสานกันระหว่างไทยและเทศอย่างลงตัว ด้วยการใช้โทนสีทอง ลวดลายตกแต่งแบบไทยและเทศผสมกัน ประทับใจและชอบมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

เราไปชมภาพบรรยากาศของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แบบเต็มอิ่มกันดีกว่านะคะ

 

 

>> Thien Duong <<

ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมา หิวซะงั้น เลยเลี้ยวเข้าไปที่ห้องอาหาร Thien Duong (เธียนดอง) ค่ะ เป็นห้องอาหารเวียดนามรสชาติต้นตำรับเลยทีเดียว (เธียนดอง แปลว่าสรวงสวรรค์ในภาษาเวียดนามด้วยนะคะ)

 

การตกแต่งภายในร้านเน้นบรรยากาศของความเป็นเวียดนามมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ฉากไม้ มุมถ่ายภาพ หรือกระทั่งชุดพนักงาน เหมือนหลุดมาอยู่ที่เวียดนามยังไงยังงั้นเลยล่ะ

 

 

>> ปากหม้อรวม <<

 

ออเดิร์ฟของเรามาเสิร์ฟแล้วค่ะ ปากหม้อนี้มีทั้งไส้หมูและไส้กุ้งให้เลือกตามชอบ พนักงานจะเสิร์ฟพร้อมซอสแครอท หรือ Nuoc Cham ในภาษาเวียดนาม ที่ทำจากสูตรเฉพาะของทางห้องอาหาร ทำสดใหม่ทุกวัน ปากหม้อรสชาติดีมากค่ะ ไส้หมูเป็นหมูสับรสกลมกล่อม ส่วนไส้กุ้งเป็นกุ้งตัวเล็กชิ้นพอดีคำ กินกับซอสและผักแนมอร่อยมาก ๆ

สังเกตได้ว่าปากหม้อของที่นี่หน้าตาจะแตกต่างจากที่อื่น เพราะเขาทำจากกระทะเทฟล่อนนั่นเองค่ะ หยอดแป้งปุ๊บ ห่อปั๊บ ทำใหม่ ๆ ให้เรากินร้อน ๆ เลย

 

>> แหนมเนือง <<

 

อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ไม่สั่งไม่ได้ค่ะ แหนมเนืองของที่นี่พิเศษตรงที่จัดแผ่นแป้งและผักวางซ้อนมาให้เป็นคำ ๆ เลย เราสามารถจีบและใส่เครื่อง โรยน้ำจิ้มตามชอบได้ทันที พิเศษกว่านั้นคือ ไม่มีมะนาวกับมะม่วงนะคะ เป็นสับปะรดกับมะเฟืองแทน ต้นตำรับมาเองเลยนะเนี่ย ส่วนซอสแหนมเนืองไม่ใช่ซอสถั่วแบบที่เราคุ้นเคยกัน เป็นซอสเต้าเจี้ยวค่ะ รสออกหวาน ๆ เค็ม ๆ เผ็ดเล็กน้อย แต่ถ้าใครไม่ชอบ ใส่ซอสแครอทแทนก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน

 

>> กุ้งพันอ้อย <<

 

รสชาติกลมกล่อมมาก ชอบมาก ทำจากกุ้งล้วน ๆ เลยนะคะเนี่ย เขานำมาบดและปรุงรสจนได้รสชาติกลมกล่อม และได้กุ้งที่นุ่มหนุบหนับกำลังดี แถมยังชิ้นใหญ่ด้วย เคี้ยวเพลินแบบเต็มปากเต็มคำเลยล่ะค่ะ

 

>> ปลาทอดตะไคร้ <<

 

เมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหารนี้ ใครมาห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ เขาใช้ปลาตาเดียวทอดจนเหลืองกรอบด้วยเทคนิคเฉพาะ จึงได้เนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน แถมยังไม่อมน้ำมันอีกต่างหาก กินตอนร้อน ๆ หอมและอร่อยมาก ๆ ยิ่งราดซอสตะไคร้ปั่นกับน้ำมะขามลงไปอีกยิ่งฟิน

 

>> น้ำส้มเช้งปั่น <<

 

เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของห้องอาหารนี้เลยค่ะ ควรสั่งเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความสดชื่น หอม และหวานอมเปรี้ยวของส้มเช้ง ถ้าระหว่างกินอาหารแล้วรู้สึกฝืดคอหรืออยากปรับรสชาติ ดื่มน้ำส้มเช้งปั่นสักอึกสองอึก จะช่วยให้รู้สึกลื่นคอและสดชื่นขึ้นได้นะคะ

 

>> กล้วยหอมทอด เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม <<

 

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน กล้วยหอมทอด ตอนตัดกล้วยหอมทอดรู้สึกเลยว่าทั้งนุ่มทั้งกรอบ ตัวแป้งกรอบและหอมมาก แถมยังหนากำลังดี บวกกับกล้วยหอมหวาน ๆ กินคู่กับไอศกรีมแล้วสดชื่นและลงตัวมากเลยค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนรสชาติไอศกรีมได้ตามต้องการด้วยนะ

 

และนี่คือเชฟผู้รังสรรอาหารแสนอร่อยมื้อนี้ของเราค่ะ เชฟภูมิพัสตร์ วัฒิธรรม

 

 

มื้อนี้อิ่มอร่อยและคุ้มมากจริง ๆ เพราะเป็นอาหารเวียดนามรสชาติดั้งเดิมที่ถูกปากคนไทย เเละตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัยชวนให้รับประทาน ห้องอาหารเธียนดองเปิดปิดเป็นเวลานะคะ โดยเปิดมื้อกลางวัน เวลา 11.30 - 14.30 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 - 22.00 น.

 

อีกหนึ่งห้องอาหารที่ควรไปลิ้มลองรสชาติส่งท้าย คือ ห้องอาหารเบญจรงค์ ห้องอาหารอันทรงคุณค่าและอยู่เคียงคู่กับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มาอย่างยาวนานค่ะ นอกจากอาหารสไตล์ไทยร่วมสมัยรสเลิศแล้ว ภายในห้องอาหารยังมีเสาไม้สักทอง 2 ต้น วาดด้วยจิตรกรรมงามล้ำฝีมือศิลปินแห่งชาติอีกด้วยค่ะ ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ของห้องอาหารเบญจรงค์ เเละจะถูกเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องอาหารเบญจรงค์ได้ที่นี่

ลิ้มรสอาหารไทยร่วมสมัย จากห้องอาหารไทย เบญจรงค์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

 

ใครที่อยากมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำดี ๆ หรือคิดถึงรสชาติอาหารที่คุ้นเคย สามารถเข้ามาใช้บริการห้องอาหารต่าง ๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ได้จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 นะคะ หลังจากนั้นโรงแรมจะปิดทำการไปอีกประมาณ 3-4 ปีเลยค่ะ อ้อ ! แนะนำว่าควรโทรมาจองคิวห้องอาหารก่อนนะคะ เพราะช่วงนี้คนแน่นมากจริง ๆ

 

ติดต่อขอทราบรายละเอียด และจองห้องอาหารได้ที่

FB Fanpage : @dusitthani

Instagram : @dusitthanibangkok

Website : https://www.dusit.com/dusitthani/bangkok/th/

Tel : 02 200 9000

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Women
  • 0 Followers
  • Follow