มันคงคล้ายกับหนังแนวแฟนตาซีที่มีสัตว์พูดกับคนหรือต้นไม้เรืองแสงภายในดินแดนแห่งเวทมนต์ และเราสามารถใช้ต้นไม้เรืองแสงเป็นโคมไฟบนโต๊ะหัวเตียง หรือสำหรับอ่านหนังสือในตอนกลางคืน ช่างเก๋ไก๋สวยงาม ซึ่งในโลกของความเป็นจริงต้นไม้เรืองแสงไม่เพียงแต่เป็นโคมไฟตามธรรมชาติที่มีสไตล์ แต่ยังสามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลงอีกด้วย สิ่งนี้น่าจะนำไปสู่การใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่น้อยลง และลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศได้
ในการสร้างต้นไม้เรืองแสงต้นแบบ ทีมนักวิจัยอาศัยเอนไซม์ที่เเรียกว่า ลูซิเฟอเรส (Luciferase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดเดียวกับเอนไซม์ที่ทำให้หิ่งห้อยสามารถเรืองแสงได้ในความมืด โดยเอนไซม์ตัวนี้จะไปเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันระหว่างโปรตีนลูซิเฟอริน (Luciferin) กับออกซิเจน และแสงก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ได้ออกมาจากปฏิกิริยานี้ นอกจากนี้ยังมีโมเกุลของโคเอนไซม์เอ (Coenzyme A) ที่มีส่วนในกระบวนการเรืองแสงด้วย
ทีมนักวิจัยเริ่มต้นการสร้างต้นไม้เรืองแสงด้วยการนำองค์ประกอบที่จำเป็นเข้าสู่ใบของพืชประเภทผักสลัดน้ำ และนำพืชไปลอยในสารละลายก่อนจะเพิ่มแรงดันเข้าไปเพื่อให้องค์ประกอบเข้าสู่ใบผ่านรูเล็ก ๆ ที่เรียกว่า stomata เมื่อใบหลั่งสารลูซิเฟอรินซึ่งมีอยู่ในเซลล์ของพืช เอนไซม์ลูซิเฟอเรสจะทำหน้าที่ของมัน เกิดปฏิกิริยาเคมี และเกิดการเรืองแสงได้ในที่สุด ซึ่งในครั้งแรกผักสลัดน้ำเรืองแสงเพียง 45 นาทีเท่านั้น แต่หลังจากนั้นนักวิจัยได้พัฒนางานวิจัย ทำให้มันเรืองแสงได้ยาวนานถึงเกือบ 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว